แนวเกม อาร์พีจีเทิร์นเบส
แพลตฟอร์ม PC, PS5, PS4, Xbox Series, Xbox One
เรตเกม PEGI: 16 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
***มีให้เล่นแบบเดย์วันสำหรับสมาชิก Game Pass***
หนึ่งในเกมเพอร์โซน่าภาคคลาสสิคที่ถูกแฟนคลับเรียกร้องให้ทำใหม่มากที่สุด แถมนี่ไม่ใช่การรีเมคธรรมดาเพราะมันมีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าแค่เรื่องคุณภาพกราฟิก
Persona 3 สุดยอดเกมอาร์พีจีที่เคยกวาดรางวัลมาแล้วมากมายสมัยที่วางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่องเล่นเกมคอนโซล เพลย์สเตชัน 2 เมื่อปี 2006 ซึ่งหลังจากที่ตัวเกมมีภาคเสริมเติมคอนเทนต์และภาคพอร์ตรีมาสเตอร์ออกตามมาไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดก็ถึงเวลาสมควรแล้วที่ทางค่าย Atlus จะหยิบนำตัวเกมต้นฉบับกลับมารีเมคสร้างใหม่เสียทีด้วยการตั้งชื่อพยางค์ต่อท้ายสุดกิ๊บเก๋ว่า Reload
ด้านเนื้อหานั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปจากเดิม ยังคงบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครเอกเด็กหนุ่มมัธยมผู้เพิ่งเดินทางย้ายโรงเรียนกลับมาศึกษาต่อ ณ โรงเรียนแถวบ้านเกิด เมืองที่ซึ่งมักเกิดเหตุการณ์ประหลาดในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน กระทั่งดึกดื่นคืนหนึ่งเขาได้เผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่บุกมาถึงหอพักและค้นพบว่าตนนั้นมีพลังแฝงสามารถเรียกใช้งานอสูรตัวแทนบุคลิกที่เรียกว่า "เพอร์โซน่า" มาช่วยในการต่อสู้ได้ หลังจากคืนนั้นเป็นต้นมา เขาจึงสมัครใจเข้าร่วมกลุ่ม SEES แก๊งค์เยาวชนคนหนุ่มสาววัยเรียนผู้มีหน้าที่สำรวจสอดส่องปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติและคอยพิฆาตอสูรร้ายยามค่ำคืน
อย่างที่ทุกคนทราบกันดี เกมเพลย์จะถูกแบ่งออกเป็นสองพาร์ทสองช่วงเวลา พาร์ทช่วงกลางวัน เราจะได้ชีวิตเหมือนเด็กนักเรียนปกติไปเรียนหนังสือ ร่วมทำกิจกรรมของชมรม กินเที่ยวเล่นกับเพื่อนร่วมชั้นหลังเลิกเรียน หากเป็นวันหยุดอาจได้ไปชอปปิ้งซื้อของหรือชวนสาวออกเดต พอตกเย็นก็กลับหอพักเล่นเกมออนไลน์ อ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ หรือหางานพิเศษพาร์ทไทม์ทำเพื่อเก็บเงินตามประสาวัยรุ่น โดยทุกกิจกรรมจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพแต่ละด้านให้กับตัวละคร ทว่าในหนึ่งวันเราจะไม่สามารถเหมาทำกิจกรรมมันได้หมดทุกอย่างหากเลือกทำอย่างหนึ่งแล้วอีกอย่างก็ต้องทิ้งข้ามไป เป็นการสอนให้ผู้เล่นรู้จักการบริหารแบ่งเวลาไปในตัว แต่อย่างว่าพาร์ทนี้มันมีแค่การพูดคุยสนทนาอ่านตัวหนังสือยุบยับ มันจึงอาจดูน่าเบื่อชวนหาวสักหน่อย
ส่วนพาร์ทช่วงเวลากลางคืนนั้นฟีลอารมณ์จะต่างไปจากพาร์ทกลางวันอย่างสิ้นเชิง เพราะบทบาทของเราจะเปลี่ยนไปจากนักเรียนใสซื่อสู่ นักล่าอสูร ออกกำจัดปราบมอนสเตอร์ในรูปแบบเกมอาร์พีจีเทิร์นเบส โดยตัวเกมจะใช้หอคอยสูงตระหง่านสองร้อยกว่าชั้นที่มีชื่อว่า Tartarus มาเป็นดันเจี้ยนหลักให้เราตะลุยฝ่าฟันขึ้นไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุดพักอีกคืนค่อยกลับมาไต่ต่อ ทุกครั้งที่เรากลับมาเยือนแผนผังโครงสร้าง จุดวางไอเทม และศัตรูจะถูกสุ่มใหม่หมดทุกอย่าง รวมถึงมอนสเตอร์ก็จะยิ่งแข็งแกร่งยากขึ้นตามลำดับชั้น ซึ่งความน่าสนใจของเกมนี้ที่ทำให้มันโดดเด่นแตกต่างจากเกมอาร์พีจีทั่วไปในท้องตลาด นั่นคือความสามารถในการฟิวชั่นผสมข้ามสายพันธุ์ เพอร์โซน่า หยิบจับอสูรตัวนั้นตัวนี้มาผสมเข้าคู่กันจนเกิดเป็นอสูรชนิดใหม่ที่ทรงพลังดุดันยิ่งกว่าเดิม และในเกมนี้มันก็มีอสูร เพอร์โซน่า ให้เราได้ทดลองผสมนับร้อยกว่าชนิดเลยทีเดียว
Persona 3 ฉบับรีเมคนี้ ทางทีมผู้พัฒนาได้เลือกใช้ Unreal Engine ในการรังสรรค์ภาพกราฟิกการ์ตูน 3D ของเกมขึ้นมาใหม่ทั้งหมด สัดส่วนตัวละครจากต้นฉบับที่เคยหัวโตร่างเล็กก็ปรับใหม่ให้ดูสมส่วนเหมือนจริง เฉดสีแสงเงาตกกระทบทั้งช่วงเช้า ยามเย็น พลบค่ำ หรือช่วงเวลา Dark Hour ก็ดูสวยงามสมจริงมากยิ่งขึ้น ลามไปถึงมุมกล้องการนำเสนอถ่ายทอดเรื่องราวบางช่วงบางตอนก็ปรับเปลี่ยนใหม่เชื้อชวนให้ดำดิ่งอินไปกับเนื้อหามากยิ่งขึ้น และเนื่องจากปัจจุบันตัวเครื่องคอนโซล เพลย์สเตชัน 2 ของผู้รีวิวถูกบริจาคเป็นเศษเหล็กไปแล้ว จึงไม่สามารถแคปภาพหน้าจอของเกมเวอร์ชัน PS2 มาเปรียบเทียบให้ดูได้ เลยต้องขออาศัยคลิปวิดีโอของผู้เล่นคนอื่นมาอธิบายให้เห็นภาพความแตกต่างระหว่างตัวเกมสองเวอร์ชันแทนละกัน
ต้องบอกว่าตัวเกมภาครีเมคมันมีฟีเจอร์ใหม่ๆที่ถูกใส่เพิ่มเข้ามามากมายหากจะร่ายยาวทั้งหมดคงกินพื้นที่หลายบรรทัด ดังนั้นเราจึงขอหยิบยกคัดเอาแต่ฟีเจอร์เด่นๆมาพูดถึงละกัน อันดับแรกคือความสะดวกสบายในการลงดันเจี้ยน Tartarus เพราะตัวละครเอกในภาคนี้สามารถ Dash วิ่งเร็วได้แล้ว ทำให้ง่ายต่อการสำรวจพื้นที่แต่ละชั้น พอเจอศัตรูที่เราไม่อยากเสียเวลาสู้ด้วยก็กดวิ่งข้ามผ่านมันไปได้เลย นอกจากนี้ระหว่างทางมันยังมีแท่นเรืองแสง Pedestals ที่หากตีทำลายเราก็อาจโชคดีได้รับไอเทมหรือสิ่งของล้ำค่าเอาไปขายกลายเป็นมหาเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืน พวกกล่องสมบัติบางหีบที่ถูกล็อคไว้ภายในอาจซ่อนอุปกรณ์ระดับสูงที่เทพกว่าของที่ขายในร้านค้า และที่น่าโดนใจสายฟาร์มสุดๆคงเห็นจะเป็นเรื่องการที่ทีมงานตัดสินใจถอดถอนระบบ "ความเหนื่อยล้า" (Fatigue) ของตัวละครที่เคยกวนใจผู้เล่นทิ้งออกไปจากเกม ส่งผลให้เราสามารถต่อสู้สิงสถิตอยู่ในดันเจี้ยนแห่งนี้ได้นานแค่ไหนก็ได้ ตราบเท่าที่ค่าพลัง HP, SP และไอเทมฟื้นฟูของเรายังพอมีเหลือ
ไม่เพียงแค่นั้นในช่วงชีวิตประจำวันปกติ ทางทีมผู้พัฒนาก็ได้มีการอัปเกรดปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยฟีเจอร์อำนวยความสะดวกใหม่อย่าง Mail ที่ตัวเรานั้นสามารถเช็คอีเมลข้อความตรวจสอบดูว่าในวันนี้มีกิจกรรมอะไรให้เราทำบ้าง หากสนใจกิจกรรมไหนก็คลิกอ่านข้อความจดหมายดังกล่าวแล้วตอบตกลงไปจากนั้นตัวเกมก็จะวาร์ปพาเราไปยังสถานที่เริ่มกิจกรรมนั้นแบบรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องเดินทั่วเมืองสอดส่องมองหากิจกรรมให้เสียเวลาอีกต่อไป อีกทั้งเรายังสามารถเช็คตรวจสอบดูว่าวันนี้ผู้เล่นคนอื่นๆเขาเลือกทำกิจกรรมใด ลงดันเจี้ยนไปถึงชั้นไหน เลเวลเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่ได้ ผ่านฟีเจอร์ออนไลน์ที่เรียกว่า Network หรือถ้าวันใดเกิดรู้สึกว่าชั้นเลือกคำตอบผิดเผลอพลั้งพลาดอะไรไป ผู้เล่นก็สามารถใช้ฟังก์ชัน Rewind ที่หน้าจอเมนูเพื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไขในสิ่งที่ตนเองทำผิดพลาดได้
ด้านระบบการต่อสู้ก็เป็นอีกจุดที่ถูกปรับเปลี่ยนเยอะพอสมควร คราวนี้เมื่อตัวละครของเราใช้ท่าโจมตีที่ศัตรูแพ้ทางจนพวกมันล้มลงไปนอนกับพื้น แทนที่จะสั่งให้ตัวละครเดิมโจมตีซ้ำไปอีกครั้ง เราสามารถเลือกใช้งานฟังก์ชัน Shift โยนสิทธิ์กระหน่ำซ้ำเติมนั้นไปให้ตัวละครอีกคนภายในทีม เพื่อให้เขาใช้สกิลท่าโจมตีแพ้ทางกับศัตรูอีกตัวหนึ่ง ซึ่งถ้าเราวางแผนดีๆอาจมีสิทธิ์ทำให้ศัตรูทั้งกลุ่มล้มลงแบบต่อเนื่องเป็นโดมิโน่ เปิดโอกาสให้เราได้ใช้ท่าตะลุมบอนตุบตับ All Out Attack กับพวกมัน หากทำได้สำเร็จก็จะเป็นการการันตีช่วงเวลา Shuffle Time แจกการ์ดของรางวัลหลังเสร็จศึกที่คราวนี้ไพ่ทุกใบจะเปิดหน้าหงายออกมาให้เราได้เลือกจิ้มตามต้องการ ไม่ต้องพึ่งโชคอาศัยดวงจิ้มสุ่มเอาเหมือนต้นฉบับ
ทว่าสิ่งแปลกใหม่ใดๆทั้งหมดทั้งมวลที่เรากล่าวมาข้างต้น มันคงเทียบไม่ได้กับฟีเจอร์ไฮไลท์เด็ดลำดับสุดท้ายอย่าง Theurgy ระบบเกจท่าไม้ตายอัลติเมทที่ถูกเสริมใส่เข้ามาเป็นครั้งแรกในเวอร์ชันรีเมค โดยทุกครั้งที่เราโจมตี เรียกใช้เพอร์โซน่า หรือทำตามเงื่อนไขที่กำหนด เกจพลัง Theurgy ที่อยู่ข้างๆไอคอนรูปใบหน้าตัวละครก็จะค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นไต่ระดับจากสีฟ้ามาสีเขียวเปลี่ยนเป็นเหลืองไปส้มแล้วหยุดเต็มแม็กซ์สุดที่สีแดง เมื่อเกจดังกล่าวขึ้นจนเต็มหลอดเราจะสามารถเรียกใช้ท่าสุดยอดอัลติเมทของตัวละครนั้นได้ ซึ่งก็แตกต่างกันไปอีกในแต่ละตัวละคร บางตัวเป็นท่าฮีลเลือด บางตัวเป็นท่าโจมตีรุนแรงหนักหน่วง ในขณะที่บางตัวอาจเป็นท่าโจมตีวงกว้างทั่วทั้งฉากอะไรประมาณนี้ เรียกว่าช่วยทำให้การไต่หอคอยสภาพแวดล้อมเดิมๆอันน่าเบื่อจำเจดูมีสีสันขึ้นมามากเลยทีเดียว
สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้ในการรีวิวยังคงเป็นสเปคเดิมจากทาง AMD ประกอบไปด้วย ซีพียู AMD RYZEN 5 5500, การ์ดจอ ASUS TUF RX 6500 XT GAMING 4GB GDDR6, แรม G.SKILL SNIPER-X 16GB BUS3600, หน่วยความจำแบบ SSD M.2 WD ทั้งหมดถูกติดตั้งลงบนเมนบอร์ด ASUS TUF GAMING A520M-PLUS
เนื่องจากตัวเกมไม่ได้เรียกร้องสเปคอะไรมากมาย ขอเพียงแค่มีการ์ดจออย่างต่ำ 2GB ขึ้นไป คุณก็สามารถเปิดรันเกมนี้ได้อย่างลื่นไหลไร้กังวลแล้ว แต่ก็อย่าเพิ่งประมาทหลงดีใจไปเพราะถึงแม้ว่าสเปคคอมพิวเตอร์ของคุณจะผ่านเกณฑ์ในระดับที่ตัวเกมแนะนำ ทว่าเมื่อตัวละครของคุณอยู่ในฉากสภาพแวดล้อมที่เล่นกับเทคนิคแสงเงาสะท้อนเยอะๆอย่างเช่นในย่าน Iwatodai Strip Mall อัตราเฟรมเรตที่ลื่นอยู่ดีๆก็อาจจะร่วงต่ำเสียจนสังเกตเห็นอาการกระตุกได้ ดังนั้นเพื่อความชัวร์และประสบการณ์ที่ดีที่สุด เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนกดเข้าไปในส่วนของเมนูปรับแต่งภาพกราฟิกแล้วเลือกปิดฟีเจอร์ Reflections ทิ้งไปเสีย เนื่องจากเงาตัวละครที่ปรากฏโผล่มาเพียงแค่แวบๆในกระจกนั้น มันไม่คุ้มกับตัวเลขเฟรมเรตที่หดหายสูญเสียไปสักนิดเลย
"Persona 3 Reload นับเป็นการกลับมาอันยอดเยี่ยมของหนึ่งในตำนานเกมอาร์พีจี เพราะมีสิ่งเซอร์ไพรส์หลายจุดที่แหวกแปลกตาไปจากเดิมและน่าจะถูกใจสำหรับกลุ่มแฟนรุ่นเก่ารวมถึงผู้เล่นหน้าใหม่ แม้กิจกรรมของมันจะดูซ้ำๆจำเจตื่นเช้าไปโรงเรียนกลับหอลงดันเจี้ยนวนเวียนอยู่แบบนี้ทุกวี่วัน แต่อย่างน้อยด้วยลูกเล่นเกมเพลย์อันสดใหม่และฟีเจอร์อำนวยความสะดวกมากมาย ก็ช่วยทำให้การย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กนักศึกษาอีกครั้งของพวกเรา มันไม่รู้สึกน่าเหนื่อยหน่ายเหมือนอย่างที่เคยเป็นในอดีต"
| เกมเพลย์ | 7 |
| กราฟิก | 8 |
| เสียง | 9 |
| Performance | 8 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
| ภาพรวม | 8.4 |
ข้อดี: ฉากหลัง-โมเดลตัวละคร-ภาพวาดการ์ตูนถูกยกเครื่องใหม่หมดจด, ดนตรีประกอบไพเราะเพราะพริ้งอินไปกับทุกกิจกรรม, เพาะพันธุ์ฟิวชั่นผสมสร้าง เพอร์โซน่า ได้หลากหลาย, อุดมด้วยฟีเจอร์อำนวยความสะดวกมากมายช่วยให้ผ่านช่วงเวลาอันน่าเบื่อในแต่ละวันไปได้อย่างรวดเร็ว, ดันเจี้ยน Tartarus ที่ปรับปรุงให้ตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้น, ลูกเล่นเกมเพลย์ใหม่อย่าง Shift ทำให้กลยุทธ์การต่อสู้ดูลึกซึ้งกว่าเดิม, ท่าไม้ตายอัลติเมท Theurgy ที่มาเติมสีสันความสนุก, เฟรมเรตลื่นไหลมากหากไม่เปิดใช้งานเอฟเฟกต์เงา และเซตบรรทัดฐานให้กับเกมรีเมคภาคอื่นๆที่จะตามมาอีกในอนาคต
ข้อเสีย: เงาสะท้อนกระจกกินทรัพยากรเครื่องมากเกินเหตุ, ตลอดทั้งเกมมีเพียงดันเจี้ยนเดียวให้ตะลุยฟันฝ่า, ราคาขายใกล้เคียงเกมออกใหม่แถมไม่ใส่เนื้อหาเสริมมาให้ (อยากเล่นต้องจ่ายเพิ่ม) และกิจวัตรวัยเรียนสุดจำเจที่อาจทำให้แฟนเกมต้นฉบับไม่อยากกลับไปเผชิญมันอีก
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท SEGA
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
