เปิดตัวตามสัญญาสำหรับผลงานเกมมือสังหารภาคใหม่ของค่าย ยูบิซอฟต์ ที่ย้ายโลเคชั่นมาสู่แผ่นดินอาทิตย์อุทัย แต่ก็ไม่วายถูกแฟนคลับเจ้าถิ่นบ่นเรื่องปมเชื้อชาติที่อาจบิดเบือนประวัติศาสตร์ของพวกเขามากเกินไป
ล่าสุดทาง Ubisoft และสตูดิโอ Ubisoft Quebec ได้ออกมาประกาศเปิดตัวเกมภาคใหม่ในแฟรนไชส์มือสังหารนาม Assassin’s Creed Shadows (หรือที่พวกเรารู้จักกันในชื่อรหัสว่า Assassin's Creed Red) โดยตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายลงทั้งเครื่องคอนโซล PlayStation 5, Xbox Series และ PC ในวันที่ 15 พฤศจิกายนปี 2024
เนื้อหาของเกมแอสซาซินครีดภาคนี้ จะย้อนเวลากลับไปสู่ญี่ปุ่นสมัยยุคศักดินาในช่วงที่กำลังเกิดไฟสงครามกระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ผู้เล่นจะได้สวมบทเป็นทั้งนินจาลอบสังหารและซามูไรผู้ห้าวหาญทรงพลังออกตระเวนท่องสำรวจโลกโอเพ่นเวิลด์อันงดงาม ฝึกฝนเรียนรู้ศาสตร์วิชา เกณฑ์พลสมาชิกก่อตั้งลีกนินจา ตกแต่งรังลับของตนเอง และต่อสู้เพื่อนำพาญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่
จุดขายหลักของเกมคือการที่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนสลับไปมาได้ถึง 2 ตัวละครเอก จะเลือกสวมบทบาทเป็น "นาโอเอะ" (Naoe) นินจาสาวสุดปราดเปรียวผู้ชำนาญด้านการลอบเร้นอำพรางกายสังหารเหยื่อแบบไม่ทันตั้งตัว หรือจะเลือกสวมบทเป็น "ยาสุเกะ" (Yasuke) ซามูไรหนุ่มผิวสีผู้มีชื่อขัดกับบุคลิกและเบ้าหน้า เน้นใช้พละกำลังมหาศาลและอาวุธอันใหญ่โตฟาดฟันทุบตีศัตรูให้ราบเป็นหน้ากลอง
สำหรับคลิปวิดีโอเปิดตัวดังกล่าวทาง ยูบิซอฟต์ ได้มีการเปิดคอมเมนต์เพื่อให้แฟนๆได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างเสรี แน่นอนว่าเมื่อเกมเมอร์ชาวญี่ปุ่นได้เห็นใบหน้าผิวพรรณของตัวละครเอกอย่าง "ยาสุเกะ" ย่อมแสดงอาการต่อต้านถึงขั้นรับไม่ได้ โดยชาวเน็ตอ้างเหตุผลว่าเกมทุกภาคที่ผ่านมาของ Assassin’s Creed ก็มักใช้ตัวละครหลักที่เป็นคนท้องถิ่น แต่ทำไมถึงมาเกิดเปลี่ยนใจในภาคนี้ที่เป็นญี่ปุ่น แล้วยังมีความเห็นอื่นๆในทิศทางเดียวกันตามมาอีกเพียบ อาทิ ทำไมถึงเลือกใช้คนผิวดำในวัตนธรรมญี่ปุ่น / คุณควรเปลี่ยนคอนเซปต์เดี๋ยวนี้ เพราะนี่มันผิดสวนทางกับภาพลักษณ์ของ Assassin’s Creed และประวัติศาสตร์ / ในชีวิตจริงมันอาจเป็นเรื่องปกติ แต่การที่ได้เห็นต่างชาติลักษณะนี้ไปปรากฏอยู่ในโลกที่อิงตามประวัติศาสตร์ มันช่างเป็นเรื่องน่าตลก / นี่เป็นครั้งแรกของฉันที่ได้เข้าใจเรื่อง การฉกฉวยทางวัฒนธรรม / ถ้าหากอยากใช้ตัวละครผิวดำ ก็เปลี่ยนฉากหลังมันไปเลย / ยาสุเกะ ผู้ที่ควรเป็นทาสรับใช้ถือดาบกลับลงสู่สมรภูมิโดยไม่ได้รับอนุญาต โนบุนากะ จึงต้องถือดาบด้วยตัวเอง ช่างน่าขันเสียจริง
ในอดีตที่ผ่านมา มันก็เคยมีผลงานเกมซามูไรที่เลือกใช้ตัวละครเป็นชาวต่างชาติเพื่อสะท้อนช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านเปิดประเทศของญี่ปุ่น ยกตัวอย่างเช่นเกม Nioh ที่ใช้ซามูไรหนุ่มหัวทองในการดำเนินเรื่อง หรือว่าจะเป็นเกมใหม่ที่เพิ่งออกอย่าง Rise of the Ronin ที่เราจะได้เห็นได้ปะทะประมือกับนักรบชาวตะวันตกมากมายหลายสัญชาติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่เคยมีเกมไหนเลยที่กล้าฉีกหน้าประวัติศาสตร์นำตัวละครผิวดำไปยัดใส่ในช่วงเวลายุคสมัยนั้น ก็ต้องมาลุ้นกันว่าเมื่อตัวเกม Assassin’s Creed Shadows ออกวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ กระแสเสียงตอบรับของมันจะเป็นเช่นไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายในแดนปลาดิบ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gematsu
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*