แนว แอ็คชันผจญภัยโอเพ่นเวิลด์
ระบบ PC (Steam / Epic Games Store)
เรตเกม PEGI: 16 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
***ภาพประกอบเป็นกราฟิกระดับ Very Low ปรับต่ำสุด***
นับว่าเร่งสปีดได้ไวขึ้น สำหรับเวอร์ชันพอร์ตลงพีซีของเกมสาวน้อยนักล่าจักรกลภาคล่าสุดที่หลุดคอนโซลเอ็กคลูซีฟในระยะเวลาแค่สองปี แสดงถึงความชำนาญแถมพวกเขาเองก็เริ่มรู้ใจตลาดในเรื่องสเปคความต้องการ
สำหรับ Horizon Forbidden West Complete Edition นั้นมันเคยออกวางจำหน่ายไปแล้วก่อนหน้านี้บนเครื่องคอนโซล เพลย์สเตชัน 5 โดยคอนเซปต์ของมันคือการหยิบนำเกมภาคหลัก Horizon Forbidden West มามัดรวมขายพร้อมกับเนื้อหาดาวน์โหลดเสริม Burning Shores ในราคาเกมปกติพ่วงส่วนลด หรือพูดง่ายๆมันคือชุดแพคคู่สุดคุ้มแฮปปี้มีลของบรรดาผู้เล่นที่ไม่เคยแตะมันมาก่อน และในวันนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เหล่าเกมเมอร์ผู้รักคอมพิวเตอร์ทั้งหลายจะได้สัมผัสประสบการณ์เกมยอดเยี่ยมยิงยาวมาราธอนภาคหลักต่อด้วยภาคเสริมแบบไม่มีสะดุดเหมือนกันนั้นบนฝั่งพีซี
เนื่องด้วยผู้รีวิวเคยเล่นเนื้อหามันจบมาหมดแล้วบนคอนโซล เราจึงไม่อยากสปอยล์ลงลึกในส่วนของเรื่องราวอะไรมาก เลยขอเล่าแบบคร่าวๆแล้วกัน ตัวละครเอก "เอลอย" (Aloy) เธอเป็นสาวมั่นสุดแกร่งที่ถือกำเนิดจากร่างโคลนนิ่งของนักวิทยาศาสตร์สมองเปรื่องในอดีต ผู้คิดแผนคัดลอกโอนถ่ายยีนของตนลงไปในร่างโคลนเพื่อหวังให้ร่างอวตารดังกล่าวช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆในโลกอนาคตที่ตัวเธอนั้นไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ยืนยาวสะสางมันได้ด้วยตัวเธอเอง ซึ่งปัญหาใหญ่หลวงในอนาคตนั่นคือการที่ AI สมองกลพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทุกสิ่งมีชีวิตบนดวงดาวเพื่อเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ทว่าโชคดีที่ เอลอย สามารถหยุดยั้งหายนะได้สำเร็จในเกมภาคแรก แต่ถึงกระนั้นปัญหาก็ยังไม่จบสิ้นจนมาถึงภาคสอง Forbidden West ที่ผู้เล่นจะได้ล่วงรู้ว่ามันยังมีอันตรายที่ร้ายแรงเหนือยิ่งกว่าพวกอสูรจักรกลไกลถัดไป ณ ดินแเดนแถบทิศตะวันตก รวมไปถึงมหันตภัยครั้งใหม่แต่ไม่ใหญ่มากของภาคเสริมเพื่อเป็นการปูทางไปสู่ตัวเกมภาคสาม
ระบบเกมเพลย์ของ Forbidden West จะถูกต่อยอดพัฒนาขึ้นจากภาค Zero Dawn มากมายหลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกเล่นการดำลึกลงไปสำรวจโลกใต้น้ำ ตามภูเขาหน้าผาก็มีจุดให้ปีนป่ายอิสระมากขึ้น เพิ่มท่วงท่าคอมโบด้วยหอกทำให้การโจมตีระยะประชิดสนุกพอๆกับการใช้ธนู มีสกิลท่าไม้ตายอัลติเมทเฉพาะของแต่ละสายที่เรียกว่า Valor Surges ให้ได้เลือกปรับเปลี่ยนใช้งาน รวมไปถึงเหล่าอุปกรณ์แกดเจ็ตที่ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาเดินทางอย่างเครื่องร่อน หรือ ตะขอยึดจับ ที่สามารถนำมาประยุกต์พลิกแพลงใช้ร่วมกับสัตว์ขี่ชนิดใหม่ เกิดเป็นวิธีการเคลื่อนที่จากภาคพื้นดินพุ่งสู่อากาศอันน่าอัศจรรย์
นอกเหนือจากความยากที่มีให้เลือกปรับหลายระดับ ตัวเกมยังบรรจุฟีเจอร์ช่วยเหลือเพื่อให้ผู้เล่นทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและสนุกเพลิดเพลินไปกับมันได้ในแบบที่พวกเขาต้องการ หากใครประสบปัญหาในการเล็งยิงเป้าศัตรูที่ขยันเคลื่อนไหวไปมา คุณก็สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันออโต้โฟกัส ช่วยชะลอเวลาในทุกครั้งที่คุณง้างธนูได้ หรือถ้าใครรำคาญแอนิเมชั่นการก้มหยิบวัตถุดิบของเอลอย ก็สามารถเปิดฟังก์ชันเก็บอัตโนมัติแค่เดินผ่านของก็เข้าตัวแล้วได้อะไรประมาณนี้ ซึ่งจากที่ลองมาฟีเจอร์ต่างๆเหล่านี้มันช่วยให้เราเล่นเกมได้สะดวกขึ้นเยอะโดยเฉพาะกับคนที่เล่นผ่านเมาส์-คีย์บอร์ด เพราะยามต่อสู้คุณไม่จำเป็นต้องเอื้อมนิ้วไปกดปุ่มอื่นให้เสียจังหวะสมาธิ ใช้เพียงแค่ปุ่มบังคับตัวละครเดินหน้าถอยหลังแล้วคลิกซ้ายคลิกขวาเหมือนเวลาเล่นเกมยิง FPS เท่านั้น
สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้ในการรีวิวยังคงเป็นสเปคเดิมจากทาง AMD ประกอบไปด้วย ซีพียู AMD RYZEN 5 5500, การ์ดจอ ASUS TUF RX 6500 XT GAMING 4GB GDDR6, แรม G.SKILL SNIPER-X 16GB BUS3600, หน่วยความจำแบบ SSD M.2 WD ทั้งหมดถูกติดตั้งลงบนเมนบอร์ด ASUS TUF GAMING A520M-PLUS
จากสเปคซูเปอร์โลว์เอนด์ข้างต้น จะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์ของทีมงานเพียงพอต่อการรันเกมนี้ในระดับความละเอียดภาพ 720p ด้วยการตั้งค่ากราฟิกแบบต่ำสุด Very Low เฟรมเรตวิ่งอยู่ที่ประมาณ 30fps ถามว่าเล่นได้มั้ย มันก็พอเล่นได้แหละ แต่อาจจะมีความรู้สึกหงุดหงิดน่ารำคาญกับอาการภาพกระตุกเวลาหันมุมกล้องเร็วๆหรือยามต่อสู้กับจักรกลประเภทที่เคลื่อนไหวไวๆ ทำให้เราอาจมองตามไม่ทันเล็งยิงพวกมันไม่โดน ดังนั้นจึงขอแนะนำหากใครยังใช้การ์ดจอรุ่นพระเจ้าเหาเหมือนกันกับเราถ้าอยากให้เกมเพลย์ดูลื่นไหลอาจต้องเข้าไปปิดการใช้งาน Dynamic Resolution Scaling ปรับเปลี่ยนมันให้เป็น Off แล้วเลือกวิธีอัปสเกลเป็น AMD FSR 2.2 เลือกคุณภาพแบบ Quality เพียงเท่านี้เฟรมเรตก็จะขยับพุ่งขึ้นมาแตะ 50 fps เล่นได้ลื่นๆสบายสายตาแล้ว ถึงอย่างไรเสียลึกๆในใจเราก็ยังแอบเสียดายที่ตัวเกม ณ ปัจจุบันยังไม่พร้อมรองรับเทคโนโลยี AMD FSR 3.0 นี่ถ้าได้ฟีเจอร์เฟรมเจนฯเข้ามาช่วยเสริมอีกแรงมันคงจะดีไม่ใช่น้อย ซึ่งได้ข่าวมาว่าทีมพัฒนากำลังทำอยู่โดยมีแผนอัปเดตเข้ามาสู่เกมในภายหลัง ฉะนั้นคอเกมพีซีสายแดงทั้งหลายก็ต้องอดทนทำใจร่มๆใจเย็นๆกันไปก่อน
ด้วยความที่มันเป็น Complete Edition ฉบับครบถ้วนสมบูรณ์รวมเนื้อหาทั้งเกมภาคหลักและภาคเสริม จำนวนชั่วโมงในการเล่นจึงยืดยาวจุใจเหล่าเกมเมอร์สายเก็บครบร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน (อาจพุ่งไปถึงหลักร้อยชั่วโมงเลยทีเดียว) และที่สำคัญเหนือยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดคือเมนู ประโยคคำพูด และทุกข้อความภายในเกมล้วนถูกแปลเป็น ภาษาไทย ทั้งหมด เรียกว่าทั้งคุ้มทั้งฟินนี่ถ้าไม่ติดว่าเคยเล่นมาก่อนบนคอนโซลเราคงให้คะแนนเต็มสิบไม่หักไปแล้ว
"Horizon Forbidden West Complete Edition อาจพูดได้ว่าเป็นเกมโซนี่ตัวแรกๆที่พอร์ตลงพีซีแล้วทำให้เรารู้สึกประทับใจ เพราะเกมที่ผ่านๆมามักตั้งสเปคเอาไว้สูงเสียจนเกินเอื้อมสำหรับเหล่านักเล่นงบน้อยสายประหยัด แถมนี่ยังเป็นเกมแนวโอเพ่นเวิลด์ที่มีขนาดโลกกว้างใหญ่ไพศาล แต่กลับ Optimize มาให้พีซีราคาถูกของเรารันได้อย่างสมูทไร้ปัญหา แล้วลองคิดดูว่าถ้ามันไปรันอยู่บนเครื่องพีซีสเปคเทพของพวกคุณทั้งหลายประสบการณ์ที่ได้รับมันจะชวนฟินขนาดไหน พูดแล้วก็อยากได้คอมฯใหม่จริงๆเลย พับผ่า..."
เกมการเล่น | 9 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 9 |
Performance | 9 |
ความคุ้มค่า | 10 |
ภาพรวม | 9.2 |
ข้อดี: เกมเพลย์ล่าจักรกลแสนสนุกฝึกใช้หัวคิด, ลูกเล่นใหม่ๆที่อำนวยความสะดวกทั้งการต่อสู้-การเดินทาง, สกิลหลากหลายสายให้เลือกอัพแถมมีท่าไม้ตายอัลติเมท, เฟรมเรตลื่นไหล Optimize มาดีเยี่ยม, เรื่องราวระดับมหากาพย์พร้อมซับภาษาไทย, ต่อให้ปรับกราฟิกต่ำสุดภาพก็ยังงามสวย, เหล่าออพชั่นตัวช่วยที่ทำให้การควบคุมผ่านเมาส์-คีย์บอร์ดไม่ยุ่งยาก และยิ่งคุ้มค่าเอามากๆถ้าหากคุณไม่เคยสัมผัสมันมาก่อนบนคอนโซล
ข้อเสีย: ตัวกินทรัพยากรหนักกลับกลายเป็น "ฉากคัตซีน" ถ้าเครื่องใครไม่แรงพอ ภาพอาจค้างกระตุกจนดูไม่รู้เรื่อง
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ Sony Interactive Entertainment (SIE)
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*