แนวเกม แอ็คชั่นต่อสู้
แพลตฟอร์ม PS5, PS4, Xbox Series, Xbox One, PC, Switch
เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
เกมแอ็คชั่นต่อสู้สามมิติที่สร้างอิงมาจากอนิเมะเรื่องดังของญี่ปุ่น กับการผจญภัยของเด็กหนุ่มผู้กลืนวัตถุต้องสาปตามต้นฉบับ แต่กลับเล่นแล้วไม่สนุกเท่าดูการ์ตูน
สำหรับคอนเซปต์ของเกม Jujutsu Kaisen: Cursed Clash นั้นก็ตรงตามชื่อไตเติ้ลเลย มันคือการนำจักรวาลมังงะ "มหาเวทย์ผนึกมาร" ของอาจารย์ "เกเงะ อากูตามิ" มาดัดแปลงสร้างเป็นเกมอนิเมะไฟท์ติ้ง 3D หยิบจับเหล่าตัวละครที่แฟนๆรู้จักและหลงรักมาเปิดศึกต่อสู้ห้ำหั่นกันในสังเวียน โดยที่แต่ละตัวละครต่างก็มีพลังความสามารถด้านไสยเวทหรือคำสาปติดตัวประจำกายที่แตกต่างกันออกไป เปรียบเสมือนสกิลท่าไม้ตายพิเศษเฉพาะตัวที่เอาไว้พลิกสถานการณ์คับขัน คล้ายกับการระเบิดปลดปล่อยพลังของเหล่าตัวละครเอกในการ์ตูนเรื่องอื่นๆของ โชเน็งจัมป์ นั่นเอง
โหมดแคมเปญของเกมนี้จะดำเนินเล่าเรื่องตามต้นฉบับอนิเมะซีซั่นแรกมาแบบเป๊ะๆ กับเรื่องราวการต่อสู้ของ "อิตาโดริ ยูจิ" เด็กหนุ่มมัธยมปลายผู้มีร่างกายแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ปกติทั่วไป กระทั่งวันหนึ่งเขาได้ไปหยิบวัตถุต้องสาปที่เก็บไว้ในศาลของโรงเรียนมาให้รุ่นพี่ เมื่อรุ่นพี่ทำการแกะผนึกออกเหล่าวิญญาณต้องสาปจึงพรั่งพรูปกคลุมทั่วทั้งโรงเรียน เพื่อแก้ไขสถานการณ์ต่อสู้กับคำสาปร้าย ตัวเอกผู้ไร้ทางเลือกจึงต้องจำใจกลืนวัตถุต้องสาปนั้นเข้าไปจนกลายเป็นภาชนะของเทพอสูรในตำนาน "สุคุนะ" และการเดินทางของผู้ใช้คุณไสยหน้าใหม่ฝึกหัดผมชมพูชี้ตั้งจึงได้เริ่มขึ้นนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา!
เหมือนในการ์ตูน คุณไสย ต้องถูกกำจัดปราบด้วย คุณไสย เท่านั้นคนปกติทั่วไปที่ไร้พลังจะมิอาจทำอะไรมันได้ ระบบการต่อสู้ภายในเกมนี้ก็ถูกดีไซน์อ้างอิงตามหลักทฤษฎีนั้นเช่นกัน โดยการโจมตีปกติของผู้เล่นไม่ว่าจะออกหมัดหรือสะบัดเท้า มันจะไม่สามารถลดหลอดเลือดของฝ่ายตรงข้ามได้เลย แต่กลับกันมันจะไปเพิ่มเกจพลังคุณไสย Cursed Level สีฟ้าที่อยู่ด้านล่างแทน ยิ่งเกจนี้เพิ่มสูงขึ้นตัวละครก็จะยิ่งแข็งแกร่งท่วงท่าการโจมตีเริ่มเปลี่ยนไปและที่สำคัญคือเราจะสามารถปล่อยท่าไม้ตายพลังคุณไสยที่สามารถลดเลือดของศัตรูได้นั่นเอง ฉะนั้นมันจึงเป็นการต่อสู้แข่งขันวัดกันว่าฝ่ายใดจะเก็บเกจได้ไวกว่ากัน โดยการเรียกใช้พลังคุณไสยสามารถทำได้ด้วยการกดปุ่ม R1 กับ R2 แต่ไม่รู้ทีมผู้สร้างเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้ใส่ระบบช่วยเหลือแบบไม่ถามความสมัครใจเข้ามา ที่ช่วยให้เราใช้พลังคุณไสยได้อัตโนมัติทันทีหลังจบคอมโบ มันจึงกลายเป็นเกมต่อสู้แข่งขันรัวปุ่มสี่เหลี่ยม ใครรัวไวกว่าก็ชนะไปง่ายๆแบบนั้นเลย
โหมดเนื้อเรื่องแคมเปญจะดำเนินไปทีละบท เล่นเคลียร์ด้านข้างไปเรื่อยๆทีละช่องแบบตาราง Excel บ้างให้สู้ บ้างให้ดูภาพอนิเมะเฉยๆ ซึ่งเงื่อนไขในการเคลียร์ส่วนใหญ่ก็คืออย่าตายอาจมีบ้างบางสถานการณ์ที่เราต้องใช้ท่าเฉพาะปราบไม่ถึงกับยากท้าทายสกิลอะไรมากนัก ที่เด็ดหน่อยคงเห็นจะเป็นบางมิชชั่นที่มีมิตรสหาย AI มาร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่อยู่ข้างๆกลายเป็นทีมสองคน โดยผู้เล่นสามารถเลือกสั่งการเพื่อนร่วมทีมสมองกลได้ว่าจะให้เขาเน้นบุก เน้นตั้งรับ ต่างคนต่างสู้ หรือช่วยกันยำ ซึ่งถ้าหากเลือกอย่างหลังเราจะได้เห็นท่วงท่าการโจมตีประสาน Joint Attack แบบเท่ๆให้แฟนอนิเมะได้พอชื่นใจอยู่บ้าง
Jujutsu Kaisen Cursed Clash นับเป็นเกมจากการ์ตูนอีกหนึ่งเกมที่มักง่ายไม่ลงทุน เล่าเรื่องด้วยการตัดภาพนิ่งจากเวอร์ชันอนิเมะมาวางแล้วแปะตัวหนังสือข้อความพร้อมใส่เสียงพากย์บรรยายประกอบลงไปเท่านั้น เรียกว่านอกจากฉากมูวี่ตอนเปิดและปิดจบแล้วตลอดทั้งเกมมันแทบไม่มีแอนิเมชั่นภาพเคลื่อนไหวงามๆมาให้แฟนได้รับชมเลย ทั้งๆที่โมเดลสีหน้าอารมณ์ตัวละครนักสู้ภายในเกมนั้นทำออกมาได้ดีเหมือนต้นฉบับการ์ตูนแท้ๆ แต่ดูเหมือนทีมสร้างเขาไม่ค่อยอยากพรีเซนต์นำเสนอมันสักเท่าไหร่ และที่น่าขัดใจสุดๆคือฉากหลังสภาพแวดล้อมสังเวียนที่เราใช้ต่อสู้มันยังดูเป็นเหลี่ยมก้อนพิกเซลที่ขาดดีเทลรายละเอียดราวกับตัวด่านมันถูกขุดขึ้นมาจากยุคสมัย PS2
อีกหนึ่งปัญหาใหญ่หลวงของเกมคือเรื่องจำนวนตัวละครนักสู้ที่ขนมาแค่ 15 ตัวละคร ถ้าเทียบกับเกมไฟท์ติ้งตู้อาร์เขตยุค 90 มันก็อาจจะเยอะอยู่ แต่สำหรับเกมต่อสู้ในยุคปัจจุบันขั้นต่ำต้องบรรจุตัวละครเริ่มต้นให้มาสัก 20 ตัวขึ้นไปเป็นอย่างน้อยผู้เล่นถึงจะรู้สึกพึงพอใจ และไม่เพียงแค่เรื่องปริมาณนักสู้เท่านั้นที่เป็นจุดอ่อนของเกม หน้าจอเมนูอินเตอร์เฟสตอนจิ้มเลือกตัวละครยังดีไซน์ออกแบบมาได้สิ้นคิดปัญญาอ่อนเอามากๆ เนื่องจากทำเป็นช่องตารางโง่ๆให้เรากดซ้ายกดขวาเลือกเปลี่ยนตัวละครที่ต้องการซึ่งโผล่มาให้เห็นแค่ชื่อ-นามสกุล ปราศจากไอคอนรูปใบหน้า ไร้โมเดลตัวอย่างแสดงให้ดู ประมาณว่าถ้าคุณเป็นแฟนคลับรุ่นใหม่ที่เพิ่งติดตามดูซีรีส์อนิเมะเรื่องนี้จดจำได้แค่รูปลักษณ์จุดเด่นของตัวละคร ตอนเลือกนักสู้คุณจะไม่มีทางล่วงรู้เลยว่า ใครเป็นใคร?
ด้วยเนื้อหาที่มาแค่ซีซั่นเดียวพ่วงด้วยภาคมูวี่ Jujutsu Kaisen 0 ที่เสริมแทรกปิดท้ายอีกนิดหน่อย โหมดเนื้อเรื่องของเกมจึงไม่ได้ยาวอะไรมากนักเล่นผ่านไปสัก 7-8 ชั่วโมงก็น่าจะจบแล้ว ต่อจากนั้นก็จะเป็นช่วงเวลาแห่งการฟาร์มมาราธอนประลองต่อสู้ไปเรื่อยเปื่อยเพื่อสะสมแต้ม Juju Points เอามาซื้อปลดล็อคสกินตัวละครเครื่องประดับของตกแต่งในร้านค้า ไม่ว่าท้าดวลกับผู้เล่นออนไลน์หรือพาเพื่อนมาช่วยกันรุมกินโต๊ะ CPU หลังจบแมตช์เราก็จะได้รับแต้มดังกล่าวมามากน้อยขึ้นอยู่กับฝีมือ ทว่าด้วยสถานการณ์ ณ ปัจจุบันของตัวเกมที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก จากระบบการต่อสู้ที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ โหมดเนื้อเรื่องที่น่าเบื่อ ตัวละครที่น้อยนิด แถมยังต้องเผชิญปัญหาชวนน่าหงุดหงิดของโหมดออนไลน์ที่ใช้เทคโนโลยี Netcode อันโบราณล้าสมัย ทำให้จับคู่กับใครไม่ได้เลย ฐานคนเล่นเดิมทีมันก็น้อยอยู่แล้ว พอเจอปัญหาแบบนี้คนก็แห่กด Refund หนีหายไปจนเกือบหมดเกลี้ยง เหลือทิ้งไว้เพียงเซิร์ฟร้างว่างเปล่าไร้เงาผู้คน ฉะนั้นใครที่กำลังมองหาเกมต่อสู้กับเพื่อนมันส์ๆในจักรวาล "มหาเวทย์ผนึกมาร" ก็ขอให้ตัดลบชื่อเกมนี้ทิ้งออกไปจากลิสต์ได้เลย
"คงเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับผลงานจากค่าย บันไดนัมโค ที่แต่ละเกมเหมือนเสี่ยงดวงมาตรฐานขึ้นๆลงๆเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายสลับกันไป จากการที่เขาเป็นเพียงค่ายตัวแทนจัดจำหน่ายมีหน้าที่ขายอย่างเดียว ถ้าเกมไหนมาจากทีมพัฒนาฝีมือเยี่ยมก็ดีไป แต่ถ้าเป็นนักพัฒนาโนเนมไร้ชื่อเสียงขาดประสบการณ์ผลงานที่ได้ออกมามันก็จะเละเทะอย่างที่เห็น ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอะไรหากพวกเขาจะยังตั้งหน้าตั้งตาขายเกมมันลูกเดียวต่อไปโดยไม่ใส่ใจคุณภาพของสินค้า แต่เราว่ามันจะดีกว่านี้มากหากพวกเขามีกระบวนการคัดกรองสินค้าที่เอามาขายลองสละเวลาเล่นเกมที่ตัวเองโปรโมทโฆษณาสักนิด ถ้าทำแบบนั้นได้เชื่อว่าภาพลักษณ์แบรนด์ของพวกเขาคงดูดีมีความน่าเชื่อถือเหมือนสองค่ายเกมดังอย่าง โซนี่ และ นินเทนโด ไปนานแล้ว"
เกมเพลย์ | 4 |
กราฟิก | 7 |
โหมดเนื้อเรื่อง | 6 |
โหมดออนไลน์ | 5 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 3 |
ภาพรวม | 5 |
ข้อดี: สีหน้าอารมณ์ตัวละครตอนใช้ท่าไม้ตายทำออกมาได้ดี, ดวงตาสีฟ้าสดใสคู่นั้นของอาจารย์ "โกโจ" และเป็นหนึ่งในไม่กี่เกมจากการ์ตูนดังที่มีให้เล่นในท้องตลาด
ข้อเสีย: ระบบต่อสู้สุดจืดไม่มีอะไรสดใหม่แค่ลอกจำเกมอื่นมาใช้, แอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวดูแข็งๆไม่ไหลลื่น, บอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพนิ่งเปิดการ์ตูนดูยังสนุกกว่า, เนื้อหาค่อนข้างสั้นเพราะหยิบมาเพียงซีซั่นเดียว, รายชื่อตัวละครให้มาน้อยนิดไม่จุใจ, เมนูอินเตอร์เฟสออกแบบมาได้โง่เขลาเบาปัญญา, โหมดออนไลน์ที่มีปัญหาจับคู่หาเพื่อนเล่นยากลำบาก และสถานะของเกมตอนนี้ที่เงียบเหงาไร้เงาผู้คน
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท บันไดนัมโค Bandai Namco Entertainment
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*