ผลงานล่องเรือโลกอิสระไลฟ์เซอร์วิสของค่าย ยูบิซอฟต์ ถูกชาวเน็ตรุมแฉดีเทลรายละเอียดในหลายๆส่วนดูแย่กว่าเกมโจรสลัดมือสังหารเมื่อสิบปีที่แล้ว
ภายหลังจากที่ Skull and Bones เกมแอ็คชั่นผจญภัยล่องเรือในโลกเปิดกว้างที่ถูกเลื่อนมายาวนานของทีมงาน Ubisoft Singapore ได้ฤกษ์ออกวางจำหน่ายลงให้กับเครื่องพีซีและคอนโซลไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็เกิดกระแสดราม่าตามมามากมายหลายประเด็นทั้งเรื่องราคาขายที่ตั้งสูงเกินกว่าคุณภาพของเกมและคะแนนวิจารณ์จากฝั่งผู้เล่นที่ไม่สู้ดีนัก
จนกระทั่งล่าสุด NikTek ยูทูบเบอร์รายหนึ่ง ได้หยิบนำภาพแอนิเมชั่นการขยับเคลื่อนไหวใบหน้าตัวละครของเกม Skull and Bones ไปเปรียบเทียบกับเกมมือสังหารคลาสสิคระดับตำนานผู้เป็นต้นแบบที่เคยออกมาสมัยปี 2013 อย่าง Assassin’s Creed IV: Black Flag ผลปรากฏว่าแอนิเมชั่นใบหน้าของทั้งสองเกมนั้นต่างดูแข็งๆลอยๆเหมือนกัน แถมในบางช่วงบางตอนเกม Skull and Bones ยังทำออกมาได้ดูแย่กว่าอีกด้วยโดยเฉพาะในฉากพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผิวสี
ไม่เพียงแค่เรื่องใบหน้าตัวละครเท่านั้น ดีเทลรายละเอียดอื่นๆภายในเกม Skull and Bones ก็ยังมีหลายองค์ประกอบที่ดูดร็อปไปจากเกมโจรสลัดมือสังหาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ตัวละครไม่สามารถลงไปแหวกว่ายในน้ำได้, เดินลุยน้ำเสร็จพอขึ้นฝั่งเสื้อผ้ากลับแห้งไร้น้ำหยดแหมะๆ, การเดินสำรวจบนเกาะไม่อิสระเต็มไปด้วยกำแพงล่องหน ไปจนถึงการบุกยึดเรือศัตรูที่ตัดฉากต่อสู้ปะทะกันระหว่างโจรสลัดออกไปแบบดื้อๆ
ก่อนหน้านี้ทาง "Yves Guillemot" ซีอีโอบริษัท ยูบิซอฟต์ ได้เคยออกมาพูดปกป้องเกม Skull and Bones ในประเด็นเรื่องราคาขายของมันที่สูงถึง 70 เหรียญว่า "มันเป็นเกมขนาดใหญ่มาก เราหวังว่าผู้เล่นจะได้ประจักษ์ถึงความกว้างใหญ่ไพศาลและความสมบูรณ์ของมัน นี่คือเกมเต็มคุณภาพระดับ AAAA ที่จะตอบแทนผู้เล่นในระยะยาว"
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
playstationlifestyle
twistedvoxel
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*