กลุ่มบริษัทโซนีมูลค่าลดเกือบหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหลังรายงานผลประกอบการ ชี้สาเหตุอยู่ที่ PS5 เริ่มขาลงแถมทำกำไรได้น้อย
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางบริษัทก็รายงานยอดขายเครื่อง PS5 ทำได้ 8.2 ล้านในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2023 นับตัวเลขรวมทั้งหมด 54.8 ล้าน ยอมรับว่าไม่สูงตามที่คาดไว้ มีการปรับยอดประเมินส่งขายรอบปีจาก 25 ล้านลดลงเหลือ 21 ล้านเมื่อสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2024
นอกจากนี้ โซนีก็ชี้แจงว่ายุคคอนโซล PS5 เริ่มเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังและยอดอาจลดลงอีกในปีหน้า ส่งผลต่อราคาหุ้นทำมูลค่าลดลงราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากรายงานของ CNBC
อีกประเด็นสำคัญที่ถูกยกขึ้นมาคืออัตราส่วนต่างกำไรในธุรกิจแผนกเกม พบว่าไตรมาสล่าสุดสิ้นเดือนธันวาคมออกมาต่ำกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ เทียบกันแล้วไตรมาสเดียวกันเมื่อปี 2022 ยังคงสูงกว่า 9 เปอร์เซ็นต์
นักวิเคราะห์ "อาทุล โกยัล" จาก Jefferies ชี้ว่าสิ่งที่น่าผิดหวังจริงๆ ไม่ใช่การลดยอด PS5 แต่เป็นส่วนต่างการทำกำไรที่ต่ำมาก โดยช่วงก่อนปี 2022 แผนกเกมเคยมีกำไรระหว่าง 12 ถึง 13 เปอร์เซ็นต์เมื่อนำยอดขายมาหักค่าใช้จ่าย
ในไตรมาสล่าสุด โซนีมีแรงหนุนจากการขายเกมตนเองที่แนวโน้มเป็นแบบดิจิตอลดาวน์โหลดได้กำไรมากขึ้น อีกทั้งบริการสมาชิก PS Plus ก็ทำอัตราส่วนกำไรราว 50 เปอร์เซ็นต์จึงควรจะผลักกำไรรวมขึ้นไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ผลออกมาคือยอดขายรายรับที่นับว่าสูงตลอดกาลกลับเหลือกำไรจริงเป็นเปอร์เซ็นต์น้อยสุดในรอบทศวรรษ
"เซอร์คัน โตโต" ซีอีโอบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ Kantan Games กล่าวว่าต้นทุนการผลิตคอนโซลได้ลดลงมาแล้ว เนื่องจาก PS5 อยู่ในตลาดมานานกว่า 3 ปี แต่เหตุที่ต้องบีบอัตราส่วนกำไรเพิ่มเป็นเพราะต้นทุนการผลิตซอฟต์แวร์ที่สูงขึ้น อย่างกรณีของเกม Spider-Man 2 ที่ถูกแฮกข้อมูลออกมาว่าใช้ทุนมหาศาลถึง 300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งงบประมาณเหล่านั้จะส่งผลกระทบถึงส่วนต่างในระยะยาว
ข้อมูลจาก
CNBC
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*