แนวเกม แอ็คชั่นแพลตฟอร์มไซด์สโครล
ระบบ PS5, PS4, Xbox Series, Xbox One, PC, Switch
เรตเกม PEGI: 16 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
จากตำนานเกมคลาสสิคสมัยเครื่อง เอ็มเอสดอส สู่ผลงานภาคล่าสุดที่ผสานรวมหลากวัฒนธรรมร่วมสมัยเข้าไป จนเกิดเป็นสิ่งแปลกใหม่ (แต่ไม่แปลกปลอม) ที่อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลอง
สำหรับตัวเกม Prince of Persia The Lost Crown นั้นมันไม่ใช่ทั้งภาคต่อหรือภาครีบูทใหม่ แต่เป็นเกมภาคแยกที่แตกแขนงออกไปจากจักรวาลเดิมโดยที่ไม่มีเนื้อหาอะไรข้องเกี่ยวกันกับภาคอื่นใดก่อนๆหน้านี้ ซึ่งเหตุการณ์ในเกมจะบอกเล่ากล่าวถึงอาณาจักรเปอร์เซียที่กำลังจวนเจียนจะล่มสลายจากความอดอยากแห้งแล้งและไฟสงครามจากการรุกรานของจักรวรรดิ Kushan Empire ทว่าท่ามกลางวิกฤตพวกเขากลับได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มเจ็ดยอดนักรบผู้ขนานนามตนเองว่า The Immortals ซึ่งมี "ซาร์กอน" (Sargon) ตัวละครเอกของเราเป็นหนึ่งในสมาชิก โดยผู้กล้าทั้งเจ็ดคนได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือขจัดปัดเป่าศัตรูผู้รุกรานให้ถอยร่นกลับไปได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ทุกคนกำลังเลี้ยงฉลองรื่นเริงกันอยู่นั้น Prince Ghassan พระราชโอรสแห่งอาณาจักรเปอร์เซียกลับถูกกลุ่มนิรนามจับตัวไปในช่วงกลางดึก คณะนักรบผู้กล้าอย่างเราจึงต้องออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองลับแลปริศนาเพื่อตามหานำพาตัวองค์ชายกลับคืนสู่บ้านอย่างปลอดภัย ซึ่งซาร์กอนนักรบดาบคู่ผู้เคลือบแคลงสงสัยในตัวอาจารย์หญิงว่าทำไมเธอถึงได้กล้าหักหลังอาณาจักร ไปๆมาๆเขากลับค้นพบความจริงเบื้องหลังว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย กว่าจะรู้ตัวทุกอย่างมันก็สายเกินแก้ และมีเพียงแค่พลังแห่งกาลเวลาที่หลับใหลอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เท่านั้นที่จะสามารถพาเขาย้อนกลับไปแก้ไขความผิดพลาดในอดีตได้
เกมเพลย์จะทำมาในลักษณะไซด์สโครลตะลุยด่านต่อสู้แก้ปริศนาผ่านกับดักไปแบบด้านข้างตามสไตล์ออริจินอลดั้งเดิมเหมือนสมัย 30 กว่าปีที่แล้ว พอเจอศัตรูระยะใกล้ก็กดปุ่มสี่เหลี่ยมใช้ดาบคู่ฟาดฟันทำคอมโบ หากว่าศัตรูอยู่ไกลก็กดปุ่มสามเหลี่ยมสลับใช้ธนูยิงหรือขว้างกงจักรใส่ โดยตัวเกมจะให้ผู้เล่นได้คิดเลือกตัดสินใจเอาเองว่า จังหวะไหนควรตั้งการ์ดขึ้นมาปัดป้อง (L2) และช่วงเวลาใดที่ควรพุ่งแดชหลบหลีก (R2) คุณสามารถเล่นแบบเพลย์เซฟหลบหลีกมันทุกอย่างเพื่อรักษาหลอดเลือดอันมีค่าหรือว่าจะเล่นแบบสุ่มเสี่ยงปัดป้องการโจมตีที่พุ่งเข้ามาเพื่อรับเกจพลังพิเศษเพิ่มเติมแถมบางครั้งอาจได้เห็นท่าสวนกลับเผด็จศึกแบบเท่ๆ ทั้งหมดล้วนแล้วขึ้นอยู่กับตัวเรา
หากใครได้ลองสัมผัสเกมนี้เชื่อว่าความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวเป็นต้องนึกถึงเกม Elden Ring กันหมด ด้วยองค์ประกอบหลายอย่างภายในของมัน ไม่ว่าจะเป็นต้นพฤกษาสีทองที่ใช้เป็นจุดเซฟเช็คพอยท์ฟื้นฟูพลังกาย, ศัตรูที่พร้อมรีสปอว์นเกิดใหม่ให้ฟาร์มได้เรื่อยๆยามที่เราแตะจุดเซฟ, บางครั้งตัวเอกอาจถูกจับวาร์ปไปยังพื้นที่อื่นแล้วเราต้องหาหนทางกลับมาเอง ไปจนถึงเหล่าบอสลับบอสใหญ่ที่มีความท้าทายสูงแถมมีเฟสสองโหดขึ้นเมื่อเลือดลดเหลือครึ่งหลอด สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นเอกลักษณ์จุดขายของเกมสไตล์โซลส์ไลค์ที่ทีมงาน ยูบิซอฟต์ เอามาปรับใช้นำเสนอถ่ายทอดมันผ่านมุมมองแบบสองมิติได้อย่างลงตัว ส่วนคนที่กลัวว่ามันจะทำให้เกมปรินซ์ออฟเปอร์เซียภาคนี้เล่นยากไปหรือเปล่า? เราขอตอบเลยว่าคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะทีมงานได้ใส่ความยากมาให้เลือกหลายระดับ ต่อให้คุณเป็นคอเกมสายแคชชวลชอบเรียงสีเรียงเพชรก็สามารถโค่นปราบบอสได้อย่างไม่มีปัญหาหรือต่อให้เป็นคนไอคิวต่ำไม่ชอบแก้พัซเซิล ตัวเกมยังมีฟีเจอร์ช่วยเหลือกดข้ามปริศนาอัตโนมัติมาให้เราเลือก Custom ปรับแต่งได้ตามอำเภอใจ
ขีดพลังความสามารถของตัวละครเอก ซาร์กอน แน่นอนว่ามันต้องมีเรื่องของ "มิติเวลา" เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเราจะขอหยิบยกมาพูดเพียงแค่บางส่วน อาทิเช่น พลังพุ่งแดชข้ามเวลากลางอากาศ, พลังในการแยกร่างเงาเพื่อเอาไว้เป็นจุดหวนกลับย้อนคืน, พลังเคลื่อนย้ายวัตถุมวลสารหรือศัตรูผ่านมิติเพื่อเรียกออกมาใช้ยามจำเป็น (คล้ายๆพลังเนตรวงแหวนของ โอบิโตะ กับ คาคาชิ) หรือพลังเวลาที่สามารถทำให้แพลตฟอร์มหายไปหรือสร้างเสร็จได้ตามใจนึก เป็นต้น ซึ่งพลังต่างๆเหล่านี้จะทยอยถูกปลดล็อคให้ผู้เล่นได้ใช้งานผ่านภารกิจตามเนื้อเรื่อง อีกทั้งพลังพิเศษทั้งหมดภายในเกมพวกมันก็มิได้มีประโยชน์แค่เอาไว้ไขปริศนาอย่างเดียวเท่านั้น เพราะในระหว่างการสู้ศึกผู้เล่นสามารถหยิบนำพวกมันมาประยุกต์สร้างเป็นคอมโบสุดเวอร์วังได้อย่างน่าอัศจรรย์
***ตัวอย่างคอมโบสุดอลังเมื่อพลังทั้งหมดถูกนำมาใช้***
ด้วยความที่ตัวเอกในเกมภาคนี้เขามิใช่เจ้าชายแห่งเปอร์เซีย แต่เป็นนักรบหนุ่มคนนอกที่อาสามากอบกู้อาณาจักร นั่นจึงเปิดโอกาสให้ทาง ยูบิซอฟต์ มีอิสระในการออกแบบตัวละครตั้งแต่ผิวพรรณ ทรงผม เบ้าหน้า สำเนียงภาษา จรดท่าทางการต่อสู้ได้อย่างฟรีสไตล์โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดภาพจำของชนชาวอาหรับเหมือนภาคในอดีตที่ผ่านๆมา ผลลัพธ์ที่ได้จึงออกมาเป็นนักรบหนุ่มผิวสีแทนผู้มีลีลาฟาดฟันผาดโผนโดนใจวัยรุ่นเข้ากับยุคสมัยใหม่และยังทำให้งานอาร์ตไดเร็คชั่นในภาคนี้แลดูโดดเด่นเอามากๆ ทว่าสิ่งเดียวที่เราแอบรู้สึกเสียดายคือคุณภาพกราฟิกพวกดีเทลรายละเอียดฉากหลัง โมเดลศัตรู และวัตถุสิ่งของต่างๆมันค่อนข้างดูหยาบไปหน่อย ดูเป็นก้อนทรงเรขาคณิตธรรมดาไม่ค่อยสวยงามสมจริงเอาใจใส่สักเท่าไหร่ ซึ่งเรื่องนี้คงโทษใครอื่นไปไม่ได้นอกจากทาง นินเทนโด ที่มัวลีลาชักช้าไม่วางจำหน่ายคอนโซลทรงพลังรุ่นใหม่ออกมาสักที ปล่อยให้เครื่องเล่นโบราณสเปคต่ำอย่าง Switch ถ่วงวงการเกมมัลติแพลตฟอร์มอยู่ทุกวันนี้
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ทำให้เกมภาค The Lost Crown ถูกพูดถึงในวงกว้างคือเรื่องแม็พแผนที่ภายในเกม ที่ทุกเขตโซนจะถูกเชื่อมโยงต่อติดกันเป็นมหานครขนาดใหญ่เมืองหนึ่ง คุณสามารถเดินเท้าจากจุดเริ่มต้น ทะลุเข้าป่าดงดิบ ออกอ่าวมหาสมุทร มุดลงดันเจี้ยนทะเลทรายใต้ดิน โผล่ขึ้นมาบนพื้นผิว ไต่ทะยานขึ้นสู่หอคอยด้านบน แล้วไปโผล่หน้าห้องบอสใหญ่ได้โดยที่ไม่มีการตัดเข้าสู่หน้าจอรอโหลดใดๆทั้งสิ้น หรือพูดให้เข้าใจง่ายมันคือโลกโอเพ่นเวิลด์ขนาดใหญ่ที่ถูกนำเสนอในรูปแบบ 2.5D ไซด์สโครลนั่นเอง โดยตัวเกมจะไม่ได้นำทางอะไรเรามากนักเพราะมุ่งเน้นให้ผู้เล่นสำรวจค้นหาพบเจอความลับที่ซ่อนอยู่ด้วยตัวเอง บางจุดอาจมีมินิบอสให้สู้เพื่อปลดท่าไม้ตายใหม่ๆ บางแห่งอาจมีกล่องสมบัติที่ภายในบรรจุเครื่องรางมอบพลังความสามารถพิเศษแปลกๆ บางที่อาจต้องแก้ปริศนาชวนปวดหัวเพื่อรับวัตถุดิบมาอัปเกรดตัวละคร เรียกว่ามีอะไรให้นักเล่นสายสำรวจได้ทำเยอะแยะมากมาย มากถึงขนาดตัวเกมต้องใส่ฟีเจอร์แชะถ่ายภาพเข้ามาเพื่อใช้แทนกระดาษโพสต์อิทติดรูปแคปหน้าจอแจ้งเตือนลงไปในแม็พแผนที่ว่าตรงจุดไหนมีอะไรน่าสังเกตบ้าง เผื่อเวลาที่ตัวละครได้รับพลังอบิลิตี้ใหม่ๆที่จำเป็นต่อการผ่านอุปสรรคนั้นแล้ว เราจะได้หวนกลับมาเก็บของดีที่เคยพลาดไป ณ ตรงจุดเดิมที่มาร์คไว้ได้อย่างถูกต้องไม่หลงทาง
ว่ากันตามตรง Prince of Persia ภาคนี้ มันไม่ได้แค่ยืมจุดขายของ FromSoftware มาค่ายเดียวเท่านั้น แต่ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมแอ็คชั่นของค่ายอื่นๆอีกจำนวนเยอะมาก ดั่งจะเห็นได้จากท่าพุ่งแดชเกาะปีนกำแพงแล้วสไลด์ตัวลงมาที่ดูแล้วคล้ายซีรีส์เกม Rockman X เป็นอย่างยิ่งหรือว่าจะเป็นท่าไม้ตายโจมตีสุดเท่ของตัวเอกรวมถึงบอสตัวร้ายที่มองยังไงก็คล้าย Devil May Cry แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมทีมงาน Ubisoft Montpellier คือพวกเขาเพียงแค่หยิบเอาองค์ประกอบเหล่านี้มาเป็นแค่ส่วนเสริมเติมเต็ม มิได้เจตนาก๊อปปี้เกมอื่นมาทั้งหมดจนกลบเสน่ห์ความเป็นตัวตนของ "ปรินซ์ออฟเปอร์เซีย" เรียกว่าฉลาดในการหยิบจับสิ่งดีๆโน่นนี่นั่นมาผสมผสานให้เข้ากับซีรีส์เกมเก่าแก่โบราณของตนเองได้อย่างกลมกลืนไม่รู้สึกเคอะเขินและไม่ดูเกินตัว
"แม้ปริมาณคอนเทนต์เนื้อหาภายใน Prince of Persia: The Lost Crown มันอาจไม่ได้ยืดยาวเต็มอิ่มอัดแน่นเหมือนผลงานเกมฟอร์มยักษ์ระดับ AAA ที่ผ่านๆมาของค่าย ยูบิซอฟต์ แต่เล่นแล้วคุณจะรู้สึกว่าช่วงเวลาเกือบๆ 20 ชั่วโมงของเกมนั้นมันช่างคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปทุกเสี้ยววินาที ถนนทุกตรอก อุโมงค์ทุกซอก อุปสรรคทุกห้อง ล้วนเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์สิ่งแปลกใหม่ที่รอให้คุณสำรวจค้นเจอ ปราศจากการฟาร์มที่น่าเบื่อหน่าย ไม่มีระบบอาร์พีจีให้ชวนปวดหัว มีเพียงแค่ตัวคุณกับอุปสรรคที่ต้องใช้ทักษะและมันสมองในการฟันฝ่า ซึ่งเราคิดว่านี่แหละคือเส้นทางแห่งการสร้างสรรค์เกมที่ ยูบิซอฟต์ ควรมุ่งเดินมาตั้งแต่แรก"
เกมเพลย์ | 10 |
กราฟิก | 8 |
เสียง | 8 |
เนื้อเรื่อง | 9 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
ภาพรวม | 9 |
ข้อดี: งานอาร์ตดีไซน์ตัวละครต่างๆโคตรเท่ดูทันสมัย, เกมเพลย์กายกรรมปีนป่ายต่อคอมโบสุดพลิ้วไหว, รวมเอาจุดเด่นจากทุกเกมดังมาผสานข้ากันได้อย่างลงตัว, ลูกเล่นพลังกาลเวลาหลากหลายแถมมีประโยชน์ทั้งตอนต่อสู้-แก้พัซเซิล, อุปสรรคแต่ละชนิดล้วนสร้างสรรค์ช่วยเพิ่มรอยหยักในสมอง, แม็พแผนที่เมืองที่โยงใยเชื่อมต่อติดกันเป็นโลกกว้าง, มีความลับมากมายซุกซ่อนชวนให้กลับมาสำรวจตามหา, สารพันฟีเจอร์อำนวยความสะดวกสบายสายแคชชวลก็เล่นได้ และน่าจะติดอยู่ในลิสต์รายชื่อเกมเข้าชิงรางวัลแห่งปี 2024
ข้อเสีย: เกมเวอร์ชัน Switch ที่เป็นตัวฉุดรั้งคุณภาพกราฟิกของทุกเครื่อง กับปริศนาในบางจุดที่อยากเอาหัวโขกฝาปาจอยติดผนัง
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท ยูบิซอฟต์
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*