แนวเกม ซิมูเลชันคุมทีมฟุตบอล
แพลตฟอร์ม PS5, PS4, Xbox Series, Xbox One, PC, Switch, iOS, Android
เรตเกม PEGI: 3 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป
เกมคุมทีมฟุตบอลภาคฉลองครบรอบ 20 ปีซีรีส์ ที่อัดแน่นรวมทุกฟีเจอร์ในหัวของทีมผู้พัฒนาเอาไว้ เพื่อเป็นการทิ้งทวนอำลาก่อนก้าวเข้าสู่สหัสวรรษใหม่
กลับมาอีกครั้งสำหรับ Football Manager 2024 ผลงานเกมภาคล่าสุดในแฟรนไชส์บริหารจัดการทีมฟุตบอลอมตะที่ทยอยอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆปีละนิดปีละหน่อย ซึ่งภาคนี้ก็เป็นอีกหนึ่งภาคที่มองหาความแตกต่างแบบก้าวกระโดดได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ได้เพิ่มเติมฟีเจอร์เด็ดที่แฟนๆหลายคนเรียกร้องกันมานาน กับฟีเจอร์โหลดไฟล์ข้อมูลบันทึกจากตัวเกมภาคเก่า FM23 มาใช้เล่นต่อในภาคใหม่นี้ได้ทันที เป็นการเซฟประหยัดเวลาไม่ต้องเหนื่อยเริ่มคุมทีมสโมสรใหม่ตั้งแต่ต้นอีกต่อไป
ส่วนผู้เล่นคนใดที่อยากเริ่มต้นใหม่แบบเฟรชสตาร์ทหรือไม่ได้ซื้อภาคที่แล้วมาเล่น ตัวเกมจะเปิดโอกาสให้คุณได้สร้างตัวละครอวตาร์ ผู้จัดการทีม ในแบบฉบับของคุณเอง กำหนดได้ทั้งสัดส่วนบอดี้ ส่วนสูง ใบหน้า ทรงผม สีผิว สีสุทเนคไท เพศหญิงหรือเพศชาย หลังจากนั้นก็เลือกทีมสโมสรที่อยากคุม ไปจนถึงสไตล์การคุมทีมว่าอยากเป็นผู้จัดการทีมที่เคร่งครัดระเบียบวินัยจัด, เป็นสายกระตุ้นปลุกเร้าอารมณ์นักเตะ หรือเป็นสายประหยัดชอบปั้นเด็กเยาวชน ก็ล้วนเลือกได้อิสระตามใจชอบเลย
หน้าที่หลักงานประจำของคุณคือการเปิดอ่านจดหมายที่เข้ามาไม่เว้นในแต่ละวัน หรืออาจเรียกมันเป็นเกม "อีเมล์ซิมูเลเตอร์" ก็ว่าได้ จดหมายบางฉบับอาจเด้งขึ้นมาเพื่อแจ้งให้ทราบเราสามารถอ่านผ่านๆหรือเลื่อนข้ามไปได้ ในขณะที่จดหมายที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆอย่างเช่นสัญญาเจรจาซื้อขายนักเตะนั้น เราจำเป็นต้องพิจารณาอ่านให้ละเอียดแล้วตอบกลับไปด้วยตัวเอง
ขณะเดียวกันตอนให้สัมภาษณ์ออกสื่อ อ้อนวอนบอร์ดบริหาร หรือพูดคุยหว่านล้อมนักเตะในห้องแต่งตัว เราเองก็ต้องคิดหนักในการเลือกใช้ถ้อยคำวาจาและภาษาร่างกายที่เหมาะสมในสถานการณ์นั้นๆ อวดโอ้โม้เวอร์โลกสวยเกินไปคนฟังก็ไม่เชื่อ หรือหากถ่อมตัวคิดลบหวังน้อยเกินไปก็ไม่สง่าราศี ทุกอย่างต้องพอเหมาะพอดี ซึ่งตรงจุดนี้ใครที่ไม่ถนัดเรื่องการสื่อสารเจรจาหรือภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง ตัวเกมยังมีฟีเจอร์ช่วยเหลือ Suggested หรือ Recommends ที่คอยไฮไลท์ประโยคข้อความที่ควรพูด ณ เวลานั้นเอาไว้ให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ เพียงแค่คลิกจิ้มตามที่มันบอกแนะนำผลลัพธ์ก็จะออกมาดีเอง
ปัญหาใหญ่ที่แฟนๆชาว FM ผจญและบ่นกันมาทุกภาคอย่างเรื่องของเสียงที่เงียบเชียบเงียบเหงาได้ยินแค่เสียงเมาส์คลิกเหมือนนั่งเล่นคอมฯอยู่ในป่าช้า ตัวเกมภาคใหม่นี้ประสบการณ์ความเงียบสงัดไร้ดนตรีบรรเลงขาดเสียงเอฟเฟกต์ตอบรับตอนคลิกเข้าเมนูก็ยังคงเป็นอยู่เช่นเดิม ราวกับมันเป็นเอกลักษณ์ธรรมเนียมของซีรีส์ที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ไปแล้ว ซึ่งสถานการณ์เดียวที่ผู้เล่นจะได้ยินเสียงดังออกมาจากลำโพงคือตอนที่เรานำทีมส่งลงฟาดแข้งในสนามหญ้าเท่านั้นเอง
พูดถึงแมตช์การแข่งขัน ภาคล่าสุดนี้ยังคงเลือกใช้เอนจื้น 3D ตัวเดิมในการจำลองแอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของนักเตะภายในสนามเหมือนกับภาคที่ผ่านๆมา เพียงแค่ปรับปรุงเรื่องฟิสิกส์ลูกบอลกระเด็นกระดอนและการขยับแขนขาของตัวละครนักเตะให้ดูสมจริงมากขึ้นมาอีกนิด จังหวะการเลี้ยง จังหวะการยิง ไปจนถึงจังหวะการตัดสินใจเลือกจ่ายบอลไปยังเพื่อนที่ว่าง ทุกอย่างดูสมเหตุสมผลเหมือนคนจริงๆยิ่งกว่าเดิม แต่เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับภาคที่แล้ว ความเปลี่ยนแปลงทางด้านคุณภาพกราฟิกทั้งสนามแข่ง ผู้ชมบนอัฒจันทร์ และโมเดลนักเตะอาจดูไม่ได้มากมายนัก ดังนั้นถ้าใครต้องการเห็นความแตกต่างแบบชัดเจนคงต้องรอตัวเกมภาคใหม่ FM25 ที่ทีมพัฒนาสัญญาว่าจะเปลี่ยนเอนจิ้นใหม่หันมาใช้ Unity แทน ซึ่งแน่นอนว่าคอมพิวเตอร์สเปคต่ำตัวเก่าๆที่เราเคยใช้เล่นมาทุกภาคจะไม่สามารถรันเกมภาคใหม่ๆถัดไปในซีรีส์นี้ได้อีกแล้ว
ทางด้านลิขสิทธิ์นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ตัวเกมภาคนี้ได้มีการเพิ่มเติมลีกฟาดแข้งของญี่ปุ่นอย่าง J. League เข้ามาเสริมทัพ ช่วยให้คอบอลชาวเอเชียรวมถึงบ้านเรารู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก (ถึงแม้จะยังไม่มีไทยลีกติดมาด้วยก็ตาม) และเหมือนกับบรรดาลีกรุ่นพี่อื่นๆที่อยู่มานาน พวกข้อมูลที่เป็นตัวอักษรทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นชื่อสโมสร ชื่อนักเตะ ตำแหน่งการเล่น และค่าพลังต่างๆจะอัปเดตตรงตามโลกความเป็นจริง ยกเว้นเพียงแค่รูปตราสัญลักษณ์สโมสร ชุดแข่งขัน กับภาพใบหน้านักเตะเท่านั้นที่อาจดูไม่ตรงปกและขาดหายไป ปล่อยให้แฟนเกมต้องเหนื่อยมองหาม็อดมาลงเองอีกเช่นเคย
"นอกเหนือจากเวอร์ชันพีซีแล้ว ตัวเกม Football Manager 2024 มันยังมีเวอร์ชันโมบายเนื้อหาเบาๆให้สมาชิก Netflix ได้ดาวน์โหลดไปเล่นกันฟรี ประกอบกับภาคใหม่ FM25 ที่กำลังจะมาทางทีมผู้พัฒนาก็บอกไว้แล้วว่ามันจะมาปฏิวัติแฟรนไชส์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ความดึงดูดน่าสนใจในตัวเกมภาคล่าสุดนี้ดูลดน้อยลงยิ่งกว่าที่ควรเป็น ทั้งๆที่ระบบอะไรต่างๆมันดีขึ้นกว่าภาคก่อนๆแม้เป็นอะไรที่น้อยนิดก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้เราเคยได้พูดเตือนสติเอาไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้วว่าพวกเขาควรรีบปรับปรุงแฟรนไชส์ให้ทันยุคสมัยอย่าหลงระเริงในความแม่นยำของฐานข้อมูลจนลืมความสนุกบันเทิงที่สื่อวิดีโอเกมควรมีมอบให้แก่เหล่าผู้เล่น และการที่พวกเขาเพิ่งมารู้สึกตัวเอาป่านนี้เราก็ได้แต่หวังว่าการเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึงในปีหน้า มันคงไม่ช้าหรือสายเกินไปสำหรับแฟรนไชส์"
เกมเพลย์ | 7 |
กราฟิก | 7 |
เสียง | 5 |
Performance | 9 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
ภาพรวม | 7 |
ข้อดี: สามารถโหลดเซฟภาคเก่าเอามาเล่นต่อได้, เวลาในการประมวลผลข้อมูลตลาดนักเตะไวขึ้นมาก, แมตช์เอนจิ้น 3D ดูสมจริงขึ้นมาอีกนิด, เพิ่มเติมลิขสิทธิ์เจลีกของญี่ปุ่น, มีตัวเลือกแนะนำถ้อยคำสนทนาใครไม่เก่งภาษาก็เล่นได้ และเป็นภาคที่มีฟีเจอร์ครบสมบูรณ์สุดในซีรีส์
ข้อเสีย: คุมทีมแบบไร้เสียงอย่างกับอยู่ในหนังเรื่อง Quiet Place, ใบหน้านักเตะ-ตราโลโก้สโมสรยังต้องเหนื่อยหามาลงเอง และยังไม่ใช่ภาคปฏิวัติแฟรนไชส์ ถ้าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงต้องรอภาคใหม่ปีหน้า
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท SEGA
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*