xs
xsm
sm
md
lg

Review: UFO Robot Grendizer The Feast of the Wolves อภินิหารหุ่นเหล็ก เด็กไม่ปลื้ม!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แนวเกม แอ็คชันหุ่นยนต์ / ยานยิง
แพลตฟอร์ม PS5, PS4, Xbox Series, PC, Switch
เรตเกม PEGI: 7 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป

หนึ่งในการ์ตูนเรื่องดังสุดคลาสสิคสมัยรุ่นลุงป้าน้าอา ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นเกมแนวแอ็คชั่นต่อยตีโดยฝีมือทีมงานฝรั่ง ผู้อาจยังไม่เข้าถึงจิตวิญญาณต้นฉบับของญี่ปุ่น

สำหรับเนื้อหาภายในเกม UFO Robot Grendizer: The Feast of the Wolves นี้จะบอกเล่าดำเนินเรื่องราวตามการ์ตูนต้นฉบับ ไล่ย้อนกลับไปไกลตั้งแต่สมัยตอนที่ "ดุ๊ค ฟลีด" เจ้าชายแห่งดาวฟลีทกำลังต่อสู้ปกป้องดาวเคราะห์ของตนจากการบุกรุกรานของกองทัพเวก้า จนสุดท้ายต้านทานไม่ไหวต้องหลบหนีอพยพมาแอบอาศัยอยู่ที่โลกมนุษย์พร้อมกับหุ่นยนต์ เกรนไดเซอร์ แต่ทว่าพอวันเวลาผ่านไปเมื่อกองทัพเวก้าได้เดินทางมาถึงและหมายตาโลกเป็นดาวดวงถัดไป เขากับหุ่นเหล็กคู่ใจจึงต้องลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องโลกอันสวยงามใบนี้ มิให้เผชิญชะตากรรมแบบเดียวกันกับดวงดาวบ้านเกิดของเขา

เนื้อเรื่องเริ่มเล่าตั้งแต่กองทัพเวก้าบุกยึดดาวฟลีด

เจ้าชาย ดุ๊ก ฟลีด จึงเสด็จขึ้นบังคับหุ่นเกรนไดเซอร์เพื่อปกป้องประชาชน (ทรงพระแมนมาก!)

แต่แล้วไฟสงครามก็มาเยือนโลกมนุษย์ที่พระองค์หลบหนีมาอาศัยอยู่จนได้
เกมเพลย์นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 พาร์ทหลักๆ พาร์ทแรกคือการบังคับหุ่นยนต์ "เกรนไดเซอร์" เดินปะทะต่อยตีกับหุ่นสมุนศัตรูตามรายทางไปเรื่อยๆจนถึงตัวบอสใหญ่ประจำด่านในลักษณะของเกมแนวแอ็คชั่นต่อสู้มุมมองบุคคลที่สาม โดยผู้เล่นสามารถกดหลบหลีกให้ถูกจังหวะเพื่อหน่วงเวลาชั่วครู่รวมถึงโจมตีสวนกลับไปด้วยหมัดและดาบรูปจันทร์ครึ่งเสี้ยวเพื่อสะสมเกจพิเศษสีส้มใต้หลอดเลือด ซึ่งเจ้าเกจส้มนี้จำเป็นต่อการเรียกใช้สกิลท่าไม้ตายประจำตัวต่างๆของเกรนไดเซอร์หรือในบางกรณีที่ตัวละครหุ่นของเราเลือดเหลือน้อยเกจนี้มันก็ช่วยฮีลรักษาฟื้นฟูค่าพลัง HP ได้เช่นเดียวกัน

ท่าแปลงร่างก่อนขึ้นบังคับหุ่น

ออกต่อสู้กับสมุนเพื่อไปให้ถึงบอสใหญ่ประจำฉาก

ศึกไหนตึงๆ ก็งัดท่าไม้ตายออกมาใช้
ขณะที่เกมเพลย์อีกพาร์ทหนึ่งจะให้เราสวมบทบาทในฐานะ "ไดสุเกะ อุมง" (ชื่อเรียกบนโลกมนุษย์ของตัวเอก) ออกเดินเท้าสำรวจฐานปฏิบัติการ อัปเกรดท่าไม้ตายใหม่ๆให้หุ่นเกรนไดเซอร์ ปรับเปลี่ยนสกินของหุ่นยนต์ เลือกรับภารกิจ หรือสนทนาพูดคุยทำความรู้จักกับผู้คนในฟาร์ม

ไดสุเกะ อุมง ชื่อนามแฝงของเจ้าชาย ที่มนุษย์น้อยคนนักจะรู้จักตัวตนจริงของเขา

เดินพูดคุยกับผู้คนในฟาร์ม ยามว่างก็เล่นกีตาร์

สำรวจเยี่ยมชมฐานปฏิบัติการลับ
ส่วนเกมเพลย์พาร์ทสุดท้ายเราจะได้ผสานรวมร่างหุ่นยนต์เข้ากับจานบินกลายเป็นยานอวกาศ "สเปเซอร์" ออกบินไล่ยิงศัตรูกลางเวหาหลบหลีกกระสุนท่วมจอในลักษณะของเกมชูตติ้งยานยิง ซึ่งมีทั้งแบบแนวตั้งบินขึ้นบนลงล่างสไตล์เกมตู้อาร์เขตและแบบบินพุ่งตรงไปข้างหน้า นับว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศหลีกหนีจากเกมเพลย์สู้รบต่อยตีอันสุดแสนน่าเบื่อจำเจได้เป็นอย่างดี

ฉากย้ายที่นั่งขึ้นลงในตำนาน

กลายร่างเป็นยานบิน สเปเซอร์

ไล่ยิงศัตรูที่อยู่ด้านหน้า

มุมมองแนวตั้งแบบเกมยานยิงก็มีเช่นกัน
เป้าหมายของเกมคือเล่นเพื่อปลดล็อคท่วงท่าไม้ตายใหม่ๆให้กับหุ่นเกรนไดเซอร์ ซึ่งแต่ละท่าล้วนถูกหยิบยกเอามาจากอนิเมะต้นฉบับแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นท่า Shoulder Boomerang ปล่อยบูมเมอแรงจากไหล่ออกไปโจมตีศัตรูระยะไกล, ท่า Screw Crusher Punch หมัดควงสว่านทะลวงไส้, ท่า Hand Beam ยิงลำแสงเลเซอร์บีมออกจากมือ, ท่า Anti-Gravity Storm หยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูด้วยลำแสงสีรุ้งต้านแรงโน้มถ่วงที่ปล่อยจากอก หรือท่าไม้ตายอัลติเมทสุดยอดอย่าง Space Thunder ปล่อยกระแสไฟฟ้าหลายหมื่นโวลต์จากเขาที่งอกบนหัวก็มีมาให้เราปลดล็อคใช้งานด้วยเช่นเดียวกัน โดยแร่วัตถุดิบที่จำเป็นต่อการปลดล็อคและอัปเกรดท่าไม้ตายเหล่านี้เราสามารถฟาร์มหาเก็บมาได้ตามฉากนั่นแหละ

เล่นเพื่อเก็บแร่วัตถุดิบมาอัปเกรดและปลดล็อคท่าไม้ตายใหม่ๆให้กับหุ่น

ท่าพุ่งหมุนหมัดควงสว่าน

ปาดาบจันทร์เสี้ยวออกไปสร้างพายุหมุน

หลบหลีกให้ถูกจังหวะแล้วยิงสวนกลับด้วยแฮนด์บีม

กางแขนปล่อยสายฟ้าออกจากเขาทั้งสองข้าง
เหตุผลจำเป็นที่เราต้องมีท่าโจมตีหลายๆรูปแบบไว้ใช้งาน ก็เนื่องมาจากศัตรูบางชนิดภายในเกมมันจะมีเกราะพิเศษห่อหุ้มอยู่ที่บีบบังคับให้ผู้เล่นต้องเลือกใช้ท่าโจมตีที่ถูกต้องถึงจะทำลายเกราะป้องกันของพวกมันลงได้ โดยสังเกตง่ายๆจากสีสันและรูปไอคอนสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่เหนือหัวศัตรู หากขึ้นแสดงเป็นรูปจันทร์เสี้ยวสีเหลือง เราก็ต้องใช้ท่าบูมเมอแรงหรือใช้ดาบฟันถึงจะได้ผล หากขึ้นสัญลักษณ์รูปตัววีสีแดง เราก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ท่ายิงลำแสงจากหน้าอกแทน หรือถ้าขึ้นรูปหมัดสีฟ้าเราก็แค่กดปุ่มต่อยตีธรรมดา ซึ่งในช่วงแรกๆที่ศัตรูมาไม่ค่อยเยอะนัก เราก็พอรับมือไหวปรับเปลี่ยนท่าโจมตีทันอยู่หรอกนะ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันยกพวกแห่กันมาเป็นฝูงสามตัวขึ้นไปบวกกับระบบล็อคเป้าอันน่าปวดหัวของตัวเกม ทุกสิ่งจะดูวุ่นวายสับสนจนความสนุกหดหายกลายเป็นฝันร้ายไปเลย

มาเป็นฝูงไม่พอ บางตัวยังเสริมเกราะถึง 3 ชั้น (เริ่มด้วยท่าไหนก่อนดี?)
ในภารกิจที่ให้เราขึ้นขับหุ่นยนต์เกรนไดเซอร์ออกต่อสู้ท่องผจญภัยนั้น ส่วนใหญ่จะถูกนำเสนอในรูปแบบแผนที่เปิดกว้างโอเพ่นเวิลด์ ผู้เล่นสามารถเดินสำรวจสิ่งต่างๆและเลือกทำเควสต์ได้อย่างอิสระ ทั้งเควสต์หลักเล่นตามเนื้อเรื่องและเควสต์รองยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเหล่าชาวเมืองที่กำลังประสบภัย แต่ทว่าเควสต์ไหนๆที่เราทำ ไม่ว่าจะนำส่งหรือปกป้องคุ้มกัน สุดท้ายมักลงเอยจบลงที่การต่อยตีมีเป้าหมายเดียวซ้ำซากแค่กำจัดกวาดล้างศัตรูภายในฉากให้สิ้นเหมือนกันหมดทุกเควสต์ รูปแบบการเล่นจึงค่อนข้างน่าเบื่อชวนหาวเป็นอย่างมาก หนำซ้ำประเภทของศัตรูเองก็ไม่ได้หลากหลายเจอแต่หน้าเดิมๆเพิ่มเติมแค่จำนวน ดังนั้นถ้าใครคาดหวังอยากได้ประสบการณ์เกมแอ็คชั่นมันส์ๆเดือดๆคงต้องเตรียมตัวเผื่อใจเอาไว้บ้าง

แผนที่มีลักษณะเปิดกว้าง เหมือนเกมโอเพ่นเวิลด์ขนาดย่อมๆ

แต่มีภารกิจเดียวให้ได้ทำคือคุ้มกันและนำส่ง!

ตื่นเต้นหน่อยก็ตอนเจอกับบอส

ที่ทำให้เราสะดุ้งตื่นตัวหลังจากง่วงมานาน
อีกหนึ่งปัญหาที่ชวนน่าหงุดหงิด คืออาการเฟรมเรตดร็อปร่วงหล่นกระจายที่มีให้เห็นอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าตัวเกมจะเลือกใช้กราฟิกสไตล์ภาพการ์ตูนสามมิติแบบเรียบง่ายดีเทลรายละเอียดต่ำเหมือนเกมยุค PS3 ก็ตาม ขนาดเราเปิดเล่นบนเครื่องคอนโซล เพลย์สเตชัน 5 ที่ง่ายต่อการ Optimize แถมมี SSD ที่รวดเร็ว ยังพบเจออาการกระตุกอยู่บ่อยๆโหลดเข้าเกมช้าเป็นประจำ และที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นคือหน้าจอเมนูต่างๆที่ดีไซน์มาแบบมือสมัครเล่นมากๆเหมือนคนเพิ่งหัดทำเกมครั้งแรก ลายเส้นตัวละครการ์ตูนภายในเกมบางตัวก็ดูประหลาดไม่เข้าพวกเหมือนวาดปรุงแต่งขึ้นมาเอง โดยไม่ขอคำปรึกษาเห็นชอบจากทีมงานญี่ปุ่นต้นฉบับ

ภาพกราฟิกตกยุค แถมกระตุกอีกต่างหาก

ตัวละครวายร้ายเจ้าเก่า อันนี้เราพอจำได้

แล้วเธอละเป็นใคร? อย่ามาเนียน...
"ถ้าให้พูดตามตรงก็คงต้องบอกว่า UFO Robot Grendizer: The Feast of the Wolves นั้นมันมีความดึงดูดน่าสนใจน้อยมากถึงมากที่สุด ด้วยคอนเทนต์ที่สั้นกุดจบไวได้ภายใน 5 ชั่วโมง เกมเพลย์ที่ตื้นเขินขาดพัฒนาการ นาทีแรกเคยสู้ยังไง นาทีสุดท้ายก็ยังคงสู้ด้วยวิธีเดิมอยู่แบบนั้น แถมตัวเกมไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออิงตามกระแสอนิเมะรีบูตที่กำลังจะฉายในปีหน้า เนื้อหาและดีไซน์การออกแบบตัวละครจึงไม่ได้ถูกอัปเดตใหม่ให้อินเทรนด์เข้ากับยุคสมัย ทุกอย่างจึงดูโบราณเหมือนเมื่อ 50 ปีก่อน ซึ่งแฟนคลับเด็กหนวดอาจจะชื่นชอบตรงจุดนี้เราก็ไม่ว่ากัน แต่สิ่งที่เราไม่ชอบและยอมรับไม่ได้เลยจริงๆนั่นคือระบบเกมเพลย์ที่ดันล้าสมัยตามการ์ตูนไปด้วย เพราะมันไม่มีทั้งความสนุก ความบันเทิง ความสดใหม่ หรือความท้าทายใดๆมามอบให้แก่เรา เล่นไปหาวไปแบบถอนหายใจทิ้งไปวันๆ ไม่รู้ว่าทีมงานอยากให้ผู้คนหันมาสนใจในซีรีส์หรือต้องการให้พวกเขาเกลียดเบือนหน้าหนีการ์ตูนเรื่องนี้กันนะ?"

                                                        กระแสการ์ตูนกำลังมาดีๆ แต่เกมนี้ทำเสียหายหมด - -!

เกมเพลย์5
กราฟิก6
เสียง7
ปริมาณเนื้อหา5
ความคิดสร้างสรรค์       5
ภาพรวม5.6

ข้อดี: เพลงประกอบสุดคลาสสิค, รวมครบทุกสกิลท่าไม้ตายจากอนิเมะ, เกมเพลย์ขับยานบินยิงสนุกกว่าตอนบังคับหุ่น และฉากดวลบอสที่ชวนรำลึกภาพจำในอดีต

ข้อเสีย: เนื้อหาสั้นมากจบไวทิ้งให้อารมณ์ค้าง, ภาพกราฟิกล้าสมัยตกยุค, เฟรมเรตกระตุกทุกทีที่เข้าสู่แอเรียเปิดกว้าง, ระบบแอ็คชั่นต่อยตีที่แสนธรรมดาจืดชืด, เควสต์คุ้มกันนำส่งซ้ำซากจำเจ, บางตัวละครวาดขึ้นเองจึงดูประหลาดไม่เข้าพวก, ระบบล็อคเป้าเปลี่ยนเป้าหมายสุดเวียนหัว, ศัตรูมีเกราะหลายชั้นบังคับใช้ท่านี้ท่านั้นน่ารำคาญ, การฮีลเลือดที่ต้องยืนหยุดนิ่งไว้อาลัยชั่วครู่ และทำให้คนเฉยๆรู้สึกแย่กับซีรีส์นี้มากขึ้นกว่าเดิม

สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Ripples Thailand





*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*


กำลังโหลดความคิดเห็น