แนวเกม แอ็คชั่นอาร์พีจี
แพลตฟอร์ม PS5, PS4, Xbox Series, Xbox One, PC
เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
ภาคล่าสุดของซีรีส์เกมแอ็คชั่นอาร์พีจีที่ดัดแปลงมาจากอนิเมะเรื่องดังยอดนิยม ซึ่งถ้าเทียบกับภาคก่อนหน้าถือว่าดีขึ้นนะ แต่หากเทียบมาตรฐานเกมยุคปัจจุบันมันยังมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกมากมายมหาศาล
อันดับแรกต้องขอพูดออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ตัวผู้รีวิวไม่ได้เป็นแฟนคลับที่คอยติดตามเสพผลงานในจักรวาล "ซอร์ดอาร์ตออนไลน์" ไม่ว่าจะเป็นสื่ออนิเมะ มังงะ หรือวิดีโอเกม รู้แค่พอสังเขปคร่าวๆว่าเรื่องราวมันเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่หลงติดอยู่ภายในเกม MMO แล้วต้องถือดาบคู่ต่อสู้เคียงข้างกับเหล่าสาวสวยสุดแจ่มเท่านั้น พวกประวัติสตอรี่ภูมิหลังของตัวละคร ระหว่างทางผจญภัยพบเจอกับใครบ้าง มันผู้ใดเป็นตัวร้าย หรือบทสรุปสุดท้ายจบยังไง เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ตัวผู้เขียนไม่เคยทราบมาก่อน เรียกว่าสมองแบล็งค์ว่างเหมือนกระดาษเปล่า แต่เมื่อมันเป็นงานบังคับที่ต้องรีวิว ก็ขอรีวิวในฐานะเกมเมอร์ทั่วไปที่มิได้เป็นติ่งสาวกของซีรีส์นี้ละกัน
สำหรับเรื่องราวของเกมภาค Last Recollection ตามที่ได้อ่านมาจากหน้าร้านค้าบนสตีมและบนเว็บไซต์อื่นๆ เขาเขียนระบุเอาไว้ประมาณว่า มันเป็นเหตุการณ์ช่วง War of Underworld ในแบบสมมติฐานอนุมานเอาว่า ถ้าเกิดสองตัวละครหลักอย่าง "คิริโตะ" (Kirito) และ "ยูจิโอะ" (Eugeo) บังเอิญเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยแล้วมันจะเป็นเช่นไร? ซึ่งเมื่อเปิดเกมขึ้นมาเราจะได้เห็นฉากหญิงสาวผมขาวปริศนาขี่มังกรบินโฉบเฉี่ยวไปมาบนท้องฟ้าก่อนที่เธอจะถูกยิงร่วงหล่นตกลงมา แล้วภาพก็ตัดไปที่ผองคณะคิริโตะกำลังยืนจ้องมองอยู่ตรงพื้นดินเบื้องล่าง ซึ่งเราจะได้ทราบภายหลังว่าแท้จริงแล้วเธอคือ "โดโรธี" (Dorothy) อัศวินแห่งความมืดผู้มุ่งหมายยุติสงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจที่มีมาอย่างยาวนาน แต่ทว่าระหว่างทางส่งสาส์นสำคัญเธอกลับถูกยิงตกเสียก่อน ดังนั้นภาระความรับผิดชอบจึงโอนถ่ายย้ายมาสู่แก๊งค์ของคิริโตะที่ต้องคอยอารักขานำส่งพาเธอฟันฝ่าอันตรายไปยังจุดหมายปลายทางให้จงได้
ระบบเกมเพลย์จะเป็นแอ็คชั่นอาร์พีจีที่ผู้เล่นสามารถต่อสู้ฟาดฟันโจมตีและหลบหลีกได้แบบเรียลไทม์ มีเกจสำหรับเรียกใช้สกิลท่าไม้ตายสุดเวอร์วัง รวมทั้งมีสกิลบัฟที่ต้องรอเวลาคูลดาวน์ กลยุทธ์วิธีในการปราบศัตรูก็แสนเข้าใจง่าย แค่กดตีมันไปเรื่อยๆจนปรอท Break ใต้หลอดเลือดของมันพุ่งขึ้นเต็มแม็กซ์ แล้วมันก็จะหยุดแช่แน่นิ่งให้เราใช้ท่าโจมตีปิดฉากสุดอลังการ โดยตัวเกมจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสวมใส่ติดตั้งสกิลลงไปในท่าคอมโบต่อเนื่องได้ด้วย ทำให้เราฟันปกติสองสามกระบวนท่าแล้วตามด้วยสกิลไม้ตายได้ทันทีแบบอัตโนมัติ เรียกว่าใครไม่ถนัดเกมแนวแอ็คชั่นก็ผ่านได้ชิลๆเพียงแค่กดปุ่มสี่เหลี่ยมรัวๆ
ถึงแม้ว่าตัวละครเอก "คิริโตะ" เขาจะถนัดดาบคู่เสมือนเป็นเครื่องหมายการค้าประจำตัว แต่ในเกมเราสามารถเลือกเปลี่ยนสายหันไปจับอาวุธอื่นๆอย่างเช่น ดาบใหญ่ ดาบยาวคาตานะ เคียว ขวานโล่ แส้ หอก สนับมือ หรือธนูได้เช่นเดียวกัน เพียงแค่กำเงินเข้าร้านค้าอาวุธไปซื้อหาพวกมันมาใช้ โดยเมื่อติดตั้งสวมใส่แล้วแอ็คชั่นท่วงท่าคอมโบของตัวละครรวมถึงสกิลท่าไม้ตายต่างๆก็จะแปรเปลี่ยนไปตามอาวุธแต่ละชิ้นที่เราถือครองอยู่ในมือด้วย
ในสมรภูมิผู้เล่นสามารถกดเปลี่ยนสลับตัวละครในปาร์ตี้ได้ตลอดเวลา จะเลือกบังคับ คิริโตะ อาสึนะ ยูจิโอะ อลิซ สมาชิกคนอื่นๆในแก๊งค์ หรือแม้แต่ตัวละครออริจินอลสดใหม่อย่าง โดโรธี ก็ล้วนเลือกเล่นได้หมด นอกจากนี้ในระหว่างการสู้รบ หากเรากดปุ่ม L1 มันก็จะเป็นการตัดเข้าสู่โหมดวางแผนกลยุทธ์สไตล์เกมเทิร์นเบส ที่เราสามารถจิ้มเลือกมอบคำสั่งให้แก่สมาชิกแต่ละรายภายในทีมได้ดั่งใจ จะสั่งให้ตัวนี้ป้องกัน สั่งให้ตัวนั้นฮีลรักษา หรือสั่งทุกคนให้ใช้ท่าโจมตีประสานพร้อมเพรียงกันก็ทำได้
ตัวเกมเลือกใช้ Unreal Engine ในการรันแสดงผลภาพกราฟิกสไตล์ 3D การ์ตูน ซึ่งต้องยอมรับว่าพวกโมเดลตัวละคร ตั้งแต่เส้นผม ชุดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อาวุธชุดเกราะ ทรวดทรงองค์เอว ยันสีหน้าอารมณ์ที่แสดงผ่านดวงตาอันกลมโตบ้องแบ๊ว ถือว่าทำออกมาได้ดีเอามากๆหล่อสวยขาวเนียนกันทุกคน มีพัฒนาการดูดีกว่าภาคก่อนสมัยตอนเครื่อง PS4 ขึ้นมาอีกระดับ เพียงแต่พวกฉากหลังสภาพแวดล้อมอย่างป้อมปราการหรือดันเจี้ยนต่างๆอาจดูว่างเปล่าไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียดเท่าไหร่นัก ทำเป็นลานกว้างพื้นที่โล่งๆให้ตัวละครเอกเหยียบผ่านเท่านั้น เหมือนทีมงานพยายามจะสื่อสารว่าให้เราสนใจแค่ตัวละครหลักก็พอไม่ต้องไปเหลือบมองดูอะไรอย่างอื่นริมทาง ซึ่งนั่นถือเป็นความคิดที่ผิดเพราะสิ่งรอบข้างนี่แหละที่เป็นตัวเสริมสร้างบรรยากาศชั้นยอดชวนดึงดูดให้เรารู้สึกอินไปกับตัวเกม และการที่พวกเขาไม่ให้คุณค่ากับฉากหลังจึงทำให้ความน่าสนใจของเกมลดหายลงไปเยอะเลยทีเดียว
ตามสไตล์แนวอาร์พีจี ตัวเกมจะมีทั้งเควสต์หลักดำเนินไปตามเนื้อเรื่อง (ไอคอนสีเหลือง) และเควสต์รองทำตามคำร้องขอของชาวเมือง (ไอคอนสีฟ้า) มาให้เราได้เลือกทำเพื่อแลกรับของรางวัลเป็นค่าประสบการณ์ EXP หรือพวกไอเทมอาวุธชุดเกราะ ซึ่งเควสต์หลักเล่นตามสตอรี่เราไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไรเพราะมีคำอธิบายระบุเป้าหมายที่ต้องทำและมาร์คจุดตำแหน่งที่ต้องไปชัดเจน แต่ปัญหาที่ทำให้เราเกิดอาการปวดหัวชวนสับสนยิ่งนักคือบรรดาเควสต์รองนี่แหละ เพราะมันไม่มีการมาร์คจุดเป้าหมายใดๆให้เราได้ทราบเลยบนแผนที่ รู้เพียงแค่ว่าต้องมารับ-ส่งเควสต์กับใครเท่านั้นแล้วปล่อยให้ผู้เล่นปิดตาเดินสำรวจงมหากันเอาเอง เหมือนเราไปเที่ยวบ้านเพื่อนครั้งแรกแล้วเพื่อนฝากวานให้เราซื้อของกินอร่อยๆแถวนั้นติดไม้ติดมือเข้ามาด้วย อารมณ์ประมาณนั้นเลย
ถ้าพูดถึงเรื่องเนื้อหาความยาวของเกมสมัยนี้ ช่วงระยะเวลาการเคลียร์ 25 - 30 ชั่วโมงของตัวเกมภาค Last Recollection ก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยปกติที่เราพอรับได้ แต่สำหรับกลุ่มแฟนคลับซอร์ดอาร์ตออนไลน์หน้าเก่าๆที่เคยสัมผัสตัวเกมภาคก่อนอย่าง Alicization Lycoris บนเครื่องเล่น PS4 ที่สูบกินเวลาชีวิตร่วมเกือบร้อยชั่วโมงมาแล้ว เชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้นคงต้องมีบ่นผิดหวังแอบรู้สึกเคืองขุ่นข้องหมองใจกันบ้างเป็นธรรมดา
"ในมุมมองความเห็นส่วนตัว Sword Art Online: Last Recollection มันก็เป็นเกมแอ็คชั่นอาร์พีจีที่จัดอยู่ในระดับพอเล่นแก้เซ็งฆ่าเวลาขำๆได้ มีระบบเกมเพลย์ที่ไม่ซับซ้อนพร้อมกับเอฟเฟกต์การต่อสู้ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ด้วยความที่ตัวเกมไม่มีการเกริ่นนำเท้าความ มาถึงก็ใส่เกียร์เดินหน้ามันอย่างเดียว ไม่เหลียวแลมองคนข้างหลังที่อาจตามเนื้อเรื่องไม่ทันเนื่องจากไม่ได้ติดตามซีรีส์นี้มาก่อน ฉะนั้นการจะสนุกเอ็นจอยไปกับมันได้คุณจำต้องเป็นติ่งซีรีส์หรือไม่ก็ต้องมีความเบียวในตัวละครสูงอยู่ระดับหนึ่ง เพราะถ้าหากไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นตัวคุณอาจถูกทิ้งไว้กลางทางเกิดคำถามผุดขึ้นมาในหัวว่า 'ฉันมาทำอะไรที่นี่?' ได้ง่ายๆ"
เกมเพลย์ | 7 |
กราฟิก | 7 |
เสียง | 7 |
เนื้อเรื่อง | 7 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 6 |
ภาพรวม | 6.8 |
ข้อดี: โมเดลตัวละครสวยหล่อตาใสเหมือนในอนิเมะ, เอฟเฟกต์ท่าไม้ตายสุดตื่นตา, เกมเพลย์เข้าใจง่ายเล่นสบาย, อาวุธมีให้เลือกเปลี่ยนใช้หลากหลาย และเป็นภาคที่อัดใส่ตัวละครมาให้เล่นเยอะสุดในซีรีส์
ข้อเสีย: กราฟิกเริ่มดูล้าหลังตกยุค, อุปสรรคในดันเจี้ยนมาเพื่อถ่วงเวลามากกว่ามอบความท้าทาย, ระบบการต่อสู้รัวสี่เหลี่ยมปุ่มเดียวก็ผ่านได้ชวนให้เบื่อไว, แอ็คชั่นการขยับเคลื่อนไหวของตัวละครดูแข็งๆผิดธรรมชาติ, เดินเรื่องอืดอาดตามสไตล์เกม JRPG, เอไอเพื่อนร่วมปาร์ตี้ยืนตีไม่รู้วิธีเอาตัวรอด, ไซด์เควสต์ไม่ระบุตำแหน่งให้ชัดเจน, เน้นเซอร์วิสแฟนรุ่นเก่าไม่สนใจผู้เล่นหน้าใหม่ๆ และเนื้อหาที่ไม่ยาวนักเมื่อเทียบกับภาคก่อน
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท บันไดนัมโค Bandai Namco Entertainment
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*