xs
xsm
sm
md
lg

Review: Assassin's Creed Mirage มือสังหารการละคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แนวเกม แอ็คชั่นลอบเร้นโอเพ่นเวิลด์
แพลตฟอร์ม PS5, PS4, Xbox Series, Xbox One, PC

เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป


การประกาศกลับตัวกลับใจของแฟรนไชส์นักฆ่าชื่อดังที่หวังหวนคืนดีกับอดีตแฟนเกมรุ่นเก๋า ด้วยการผสมพันธุ์ข้ามขั้วหยิบจับทั้งระบบเก่าและใหม่มาขยำรวมกัน

สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามข่าว Assassin's Creed Mirage จริงๆแล้วจุดเริ่มต้นมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเนื้อหาดาวน์โหลดเสริมอีกหนึ่งตัวของเกม Assassin's Creed Valhalla โดยหันมาเน้นโฟกัสไปที่การลอบเร้นตามเสียงเรียกร้องของแฟนๆเหมือนยุคแรกๆของซีรีส์มากกว่าจะมาพะบู๊กันแบบเกมแอ็คชั่นอาร์พีจีในยุคหลังๆที่หลายคนเริ่มเบื่อหน่าย แต่หลังจากทำไปทำมาทางค่าย ยูบิซอฟต์ เริ่มเห็นแววความโดดเด่นของมันเลยคิดแยกขายเดี่ยวออกเป็นเกมภาคใหม่สแตนด์อโลนให้พวกเราได้เล่นกัน ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะเป็นเกมใหม่ชื่อใหม่ แต่แฟนๆก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมความรู้สึกเวลาเล่นมันถึงได้คล้ายคลึงกับตัวเกมภาคเก่าเสียเหลือเกิน

เรื่องราวของ บาซิม โจรหนุ่มทาสแมว
ช่วงเวลาไทม์ไลน์ของเกมจะเป็นเรื่องราว 20 ปีก่อนเกิดเหตุการณ์ในเกมภาควัลฮัลลา นำเสนอผ่านมุมมองสายตา Basim Ibn Ishaq หนุ่มหัวขโมยข้างถนนผู้อาศัยอยู่ในย่านสลัมยากจนที่ทำงานแอบลักเล็กขโมยน้อยพอประทังชีวิตตนเองไปเรื่อยเปื่อยในแต่ละวัน ซึ่งอยู่มาวันหนึ่งตัวเขาและสาวเพื่อนสนิท Nehal ได้พากันแอบเข้าไปในวังเพื่อหวังขโมยสมบัติมีค่า ทว่าสิ่งที่เขาค้นพบเจอในกล่องกลับเป็นวัตถุโบราณทรงพลังลึกลับที่เหล่าเทมพลาร์ต่างมุ่งหมายอยากครอบครอง เมื่องานโจรกรรมสบายๆกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมอันเลวร้ายเศร้าสลด "บาซิม" จึงไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องยอมสละละทิ้งบ้านเกิดสลัดตัวตนจากจอมโจรธรรมดาฝึกฝนพัฒนาขัดเกลาทักษะเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดมือสังหารในตำนาน

ผู้ใช้ชีวิตย่องเบาโลดโผนไปวันๆ

แต่มาพลิกผันเพราะไปเจอเข้ากับวัตถุลึกลับ

สิ่งของล้ำค่าที่กลุ่มวายร้ายภายใต้หน้ากากต่างตามหา

เมื่อถูกหมายหัวและไม่มีที่ไป เขาจึงต้องหันหน้าเข้าสู่วงการนักฆ่า
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น เกมเพลย์ในภาคนี้จะหวนกลับมาเน้นลอบเร้นเป็นหลักเหมือนกับเกมแอสซาซินครีดยุคแรกๆ ที่ผู้เล่นต้องคิดวางแผนหาวิธีแอบย่องเข้าไปในพื้นที่เขตหวงห้ามเพื่อสังหารเป้าหมายให้สำเร็จลุล่วง แน่นอนว่าระหว่างทางเราต้องฝ่าด่านยามหรือทหารองครักษ์ที่คอยสอดส่องระแวดระวังภัยคุ้มกันแบบแน่นหนา ฉะนั้นแล้วพวกทักษะพื้นฐานเก่าๆอย่างการผิวปากล่อมาเชือดในพุ่มไม้ ซ่อนตัวในกองฟาง อำพรางศพในที่ลับ เดินเนียนปะปนในฝูงชน ไปจนถึงความสามารถสแกนมองทะลุ Eagle Vision และการใช้นกอินทรีบินสำรวจ จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการเล่นในภาคนี้ เพราะตราบใดที่ศัตรูไม่ทันสังเกตเห็นเราก็สามารถใช้มีดลับจิ้มแทงดับลมหายใจพวกมันได้ในคราวเดียว

การเล่นลอบเร้นแบบจัดหนัก

แนบเนียนไปกับฝูงชน

แค่ยกของมาส่งจ้า ไม่ต้องสนดาบที่พกมา

ใช้ดวงตาเอ็กซเรย์ส่องมองทะลุฉาก

สั่งนกมาร์คจุดที่สำคัญ
ที่บริเวณด้านล่างขวาสุดของจอภาพ มันจะมีเกจสีแดงที่บ่งบอก "ระดับความฉาวโฉ่" (Notoriety Level) ของตัวละครแสดงปรากฏอยู่ ซึ่งเหมือนเป็นการแจ้งเตือนผู้เล่นว่าอย่าพยายามทำอะไรที่มันดูโจ๋งครึ่มโฉ่งฉ่างดึงดูดความสนใจ จะลอบสังหารใครก็ควรแอบฆ่าในที่ลับตาอย่าให้มีพยานรู้เห็น ไม่ว่าจะเป็นศัตรูด้วยกันหรือชาวบ้านชาวช่องที่เดินสัญจรผ่านไปมา จะเอามือล้วงกระเป๋าฉกของมีค่าก็ต้องกดควิกไทม์อีเวนท์ให้ถูกจังหวะอย่าให้เขาจับได้ เพราะถ้าหากเราฝืนทำอะไรไม่แคร์สายตาปล่อยให้ค่านี้เพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ศัตรูก็จะเริ่มจับจ้องเฝ้ามอง มีพลธนูขึ้นประจำสอดส่องบนหลังคา และอาจเลวร้ายสุดถึงขั้นมีหน่วยรบพิเศษออกติดตามไล่ล่า ซึ่งศัตรูสุดแกร่งพวกนี้จะมีความอึดถึกกว่าศัตรูธรรมดาทั่วไปและการลอบสังหารพวกมันจากด้านหลังไม่ต่างอะไรจากการเอาไม้จิ้มฟันไปแทงคอ เรียกว่ามันมาเพื่อลงโทษคอยป่วนภารกิจของผู้เล่นอย่างแท้จริง ดังนั้นแล้วทุกแอ็คชั่นการกระทำของเราจึงต้องแนบเนียนเข้าไว้และถ้ามีโอกาสพบเห็นป้ายประกาศจับที่ติดรูปใบหน้าเราเมื่อไหร่ก็ควรฉีกมันทิ้งซะเพื่อลดค่า Notoriety ให้เหลือน้อยลงจะเป็นการดีที่สุด

หากทำอะไรประเจิดประเจ้อ ค่าความฉาวโฉ่จะพุ่งขึ้น

ถึงขั้นสามเมื่อไหร่ เตรียมรับมือขุนศึกสุดถึกได้เลย จิ้มคอเลือดลดแค่จึ๋งเดียว

วิธีลบประวัติทำได้ง่ายๆเพียงแค่ฉีกป้าย เพราะสมัยก่อนไม่มีโซเชียล

เมื่อคนลืมไม่รู้จักใบหน้า ทีนี้จะทำอะไรก็สะดวก จกตูดเล่นยังได้
หลายคนอาจสงสัยในเมื่อตัวเกมหันมาเน้นลอบเร้นหนักขนาดนี้แล้วตัวละครจะต่อสู้บู๊กับใครได้มั้ย? ขอตอบเลยว่าพอสู้ได้นะเพราะภาคนี้ได้ตัดระบบเลเวลและค่าพลังของสวมใส่ออกไปจนหมดสิ้น คุณสามารถท่องเที่ยวเดินสำรวจไปได้ทุกโซนพื้นที่ตั้งแต่เริ่มเกม ศัตรูทุกตัวล้วนเท่าเทียมใส่เดี่ยวได้หมดไม่ต้องสนใจยศฐาบรรดาศักดิ์ เพียงแต่จำนวนศัตรูที่เราสามารถรับมือพร้อมกันในคราวเดียวได้นั้นจะน้อยกว่าภาควัลฮัลลา มิใช่ว่าพวกมันเก่งกาจตายยากอะไรหรอกนะ แค่เป็นเพราะสไตล์การต่อสู้ในภาคนี้ที่เน้นตั้งรับปัดป้องแล้วโจมตีสวนกลับเผด็จศึก หากศัตรูยกพวกมาเป็นกองทัพและโจมตีเข้าใส่คุณพร้อมกันทุกทิศทางมีทั้งท่าที่ปัดได้ (สีเหลือง) และท่าที่ปัดไม่ได้ (สีแดง) สติคุณจะเตลิดประสาทแดกแยกไม่ออกว่าควรจะหลบหรือจะการ์ดจนนำพาไปสู่ความตายได้ง่ายๆ

ภาคนี้ไม่มีค่าพลังบ่งบอกระดับเลเวล

สไตล์การต่อสู้จะเน้นหลบหลีกปัดป้องแล้วสวนกลับเพื่อปลิดชีพ

ศัตรูมาพร้อมกันสองสามตัวสู้ได้สบาย

ยิ่งเรามีพวกพ้องมาด้วยยิ่งบันเทิง นี่ลอบฆ่าหรือมาตีป้อม?

แต่ตอนอยู่ลำพังอย่าสดมาก เดี๋ยวจะกลายเป็นสภาพนี้
เนื่องด้วยตัวเกมเปลี่ยนมาเน้นการลอบฆ่า พวกสกิลท่าไม้ตายแดเมจรุนแรงต่างๆจากภาคที่แล้วจึงไม่มีเหตุผลความจำเป็นในการดำรงอยู่อีกต่อไป ช่องเกจสีเหลืองสำหรับกดใช้ท่าสกิลที่เคยปรากฏอยู่เหนือหลอดเลือดพลังชีวิต ในภาคมิราจนี้จะถูกปรับเปลี่ยนใหม่กลายเป็นเกจ Assassin's Focus สีฟ้าแทน ซึ่งเจ้าเกจสีฟ้าดังกล่าวจำเป็นต่อการกดเรียกใช้งานท่า "วาร์ปสังหาร" ที่เปิดโอกาสให้คุณล็อคเป้าศัตรูในพื้นที่แล้วลอบสังหารพวกมันพร้อมกันรวดเดียวในพริบตา โดยหนึ่งเกจจะทำให้เราเลือกเป้าหมายได้หนึ่งตัว นั่นหมายความว่าถ้าอัปเกรดจนสุดคุณจะสามารถลอบฆ่าศัตรูในพริบตาได้มากสูงสุดถึง 5 ตัวพร้อมกันในคราวเดียว ยิ่งไปกว่านั้นด้วยลำดับการฆ่าที่เรียงตามลำดับเป้าหมายก่อน-หลังที่เราจิ้มเลือก จึงทำให้เราสามารถเอามาใช้ประยุกต์พลิกแพลงได้หลากหลาย เช่น วาร์ปไล่ฆ่าลูกสมุนให้หมดแล้วค่อยจัดการเป้าหมายหลักเป็นรายสุดท้าย หรือหากใครสายขี้เกียจก็สามารถใช้ท่านี้วาร์ปจากพื้นขึ้นไปฆ่าพลธนูที่อยู่บนหอคอยได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาปีนป่าย ทำให้การเล่นลอบเร้นดูสนุกเร้าใจน่าตื่นเต้นและสะดวกสบายขึ้นเยอะเลยทีเดียว

เกจ Focus ทำให้เราล็อกเป้าหมาย สังหารศัตรูทั้งกลุ่มได้ในคราวเดียว

วาร์ปไปวาร์ปมาในสนามรบช่างโคตรคูล

ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆใช้มันเพื่อกำจัดศัตรูหลายคน ส่วนฉัน...

วาร์ปได้ แล้วจะเหนื่อยปีนให้เมื่อยตุ้มทำไมละ

โดนใจขนาดนี้ อัพจนเต็มแม็กซ์ไปเลย
ทางด้านอุปกรณ์แกดเจ็ตต้องบอกว่าในภาคนี้มีของเล่นให้คุณได้ใช้งานเพียบ ตั้งแต่อุปกรณ์ติดตัวพื้นฐานอย่างคบเพลิงที่เอาไว้จุดไฟเผาทำลายสิ่งปลูกสร้างต่างๆและมีดขว้างที่ใช้ปาโจมตีระยะไกลแทนธนู ไปจนถึงอุปกรณ์ขั้นแอดวานซ์ที่จะได้รับมาภายหลังอย่างพวกประทัด กับดัก ลูกดอกยาสลบ หรือระเบิดควันอำพรางตัว ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหลายที่ว่ามานี้เราสามารถอัปเกรดเพิ่มประสิทธิภาพหรือปรับเปลี่ยนผลเอฟเฟกต์ของมันไปเลยก็ย่อมได้ เช่น ลูกดอกจากที่เคยยิงยาสลบก็เปลี่ยนเป็นยิงกระสุนคลุ้มคลั่งให้เหยื่อไล่ฟันกันเอง หรือระเบิดควันจากที่เคยใช้พรางตาก็เปลี่ยนมาเป็นระเบิดไฟแผดเผากลุ่มศัตรูที่อยู่เป็นฝูงได้ เรียกว่าปรับแต่งได้ลึกหลากหลายทั้งรุกและรับตามสไตล์การเล่นที่เราถนัด

อุปกรณ์แกดเจ็ตมีให้เลือกใช้งานตั้ง 6 ชนิด

มีดสั้นใช้ปาระยะไกล แบบเดียวกับธนูภาคที่แล้ว

อุปกรณ์แต่ละชิ้นเราสามารถเข้าไปอัปเกรดเลือกปรับโมดิฟายได้ ว่าจะให้พรากชีวิตหรือใช้ป้องกัน
สภาพแวดล้อมกรุงแบกแดดที่มีคูน้ำและกำแพงห้อมล้อมเป็นรูปวงกลมในเกมนั้น ถือว่าดีไซน์ออกแบบมาได้ดีเข้ากับลีลาการเคลื่อนไหวสไตล์ปากัวร์ของตัวละคร แถมยังได้สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนสมัยนั้นแบบเต็มอิ่ม ทว่าสีสันความสนุกมันกลับกระจุกอยู่แค่ภายในตัวเมืองเท่านั้น เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณก้าวเท้าออกนอกกำแพงสิ่งที่พบเห็นจะมีเพียงแค่ทุ่งนาพื้นหญ้าและผืนทะเลทรายอันว่างเปล่าไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำนอกจากปีนตึกเปิดแม็พเพียงสองสามจุดเท่านั้น นั่นจึงทำให้แม็พแผนที่ของภาคนี้ที่มีขนาดเล็กกระจ้อยร่อยอยู่แล้วดูหดเล็กลงเข้าไปอีก

เมืองวงกลมแห่งแบกแดด สำเนาถูกต้องตรงตามหน้าประวัติศาสตร์

นอกจากความสวยงาม ยังได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยนั้น

ทว่าทันทีที่ก้าวขาออกนอกเมือง คุณจะพบเจอแต่ความเวิ้งว้าง

เพราะกิจกรรมจะกระจุกอัดแน่นอยู่แค่ภายในตัวเมือง พื้นที่เล่นจริงมันมีเท่านั้นแหละ
นอกจากขนาดของแม็พที่เล็กลง ความยาวเนื้อหาก็เป็นอีกเรื่องที่หลายคนพูดถึงกัน เนื่องจากภาคนี้หากมุ่งเคลียร์เพียงแค่ภารกิจหลักไม่สนใจตามหาหีบกล่องสมบัติ ไม่รับสัญญาจ้างวานทำเควสต์เสริมอื่นใด ผู้เล่นจะสามารถจบเกมได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 15 ชั่วโมง หากเทียบกับผลงานก่อนหน้าที่เป็นแนวแอ็คชั่นอาร์พีจีถือว่ากระชับสั้นลงไปเยอะมาก ซึ่งจำนวนชั่วโมงดังกล่าวก็นับรวมเวลาในการเจรจาพูดคุย เดินหา NPC ลักขโมยของ ช่วยเหลือตัวประกัน และเรื่องจิปาถะอื่นๆที่ต้องทำเพื่อไขคดีสืบค้นข้อมูลตัวตนของเหล่าวายร้ายภายใต้หน้ากากด้วยนะ มิใช่มาถึงก็รู้ใบหน้าลงมือฆ่าได้ทันทีเสียเมื่อไหร่ แม้บางกิจกรรมอาจดูสนุกผ่อนคลายเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ แต่พฤติกรรมลักษณะนี้แถวบ้านเราเรียกว่าเป็นการยืดถ่วงเวลา

ในเกมนี้คุณจะได้ทั้งออกตามล่าหาสมบัติ

แก้ปริศนาพัซเซิลยิบย่อย

แกะรอยดักฟังผู้คนสนทนา

สำรวจตรวจสอบเช็คโน่นนี่นั่น เพื่อไขคดีระบุตัวตนเป้าหมายว่าเขาเป็นใคร ทำอาชีพอะไร...รู้ลึกยันนิสัย

เหตุผลก็เพราะเป้าหมายหลักที่ต้องสังหาร มันมีแค่ไม่กี่ราย
"ในฐานะแฟนคลับแอสซาซินครีดยุคดั้งเดิมที่ไม่ค่อยชอบในระบบอาร์พีจีและรู้สึกต่อต้านภาควัลฮัลลาอย่างรุนแรงเกลียดหนักชนิดเผาพริกเผาเกลือ เมื่อได้ยินข่าวว่าซีรีส์ที่เคยรักจะหวนกลับคืนสู่รากเหง้าไอ้เราก็หลงดีใจนึกว่าระบบเกมเพลย์มันจะเปลี่ยนไปแบบหนังคนละม้วน ไม่คิดเลยว่าทาง ยูบิซอฟต์ พวกเขาจะกล้าเอาภาคเก่ามาปรับระบบเปลี่ยนชื่อแล้วขายใหม่แบบนี้ ซึ่งมันไม่ต่างอะไรจากพ่อค้าชาวพุทธที่หวังดีประสงค์ร้ายพยายามดัดแปลงแต่งกลิ่นเนื้อหมูให้มีรสสัมผัสคล้ายกับเนื้อวัวเพื่อหลอกขายให้กลุ่มลูกค้าชาวมุสลิมได้ทานด้วยเลย นับว่าโชคดีที่ตัวเกมยังพอมีฟีเจอร์เจ๋งๆและโมเมนต์ช่วงเวลาสังหารเท่ๆคอยแบกพยุงเอาไว้ และเราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแอสซาซินครีดในภายภาคหน้ามันจะเป็นเกมลอบเร้นที่ซื่อสัตย์จริงใจต่อผู้บริโภค ไม่จิงโจ้ลวงหลอกให้เจ็บช้ำย้ำรอยแผลเดิมอีกเป็นครั้งที่สอง"

เกมเพลย์7
กราฟิก8
เสียง8
ปริมาณเนื้อหา6
ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า      6
ภาพรวม7

ข้อดี: ลูกเล่นวาร์ปคิลทั้งเท่ทั้งสนุกประยุกต์พลิกแพลงได้หลากหลาย, อุปกรณ์แกดเจ็ตมากมายที่ปรับแต่งได้ตามสไตล์เรา, บอกเล่านำเสนอเรื่องราวได้ดีน่าติดตาม, ชุดเสื้อผ้าสวมใส่ตัวละครย้อมเปลี่ยนสีได้, กรุงแบกแดดอัดแน่นกิจกรรมเต็มไปด้วยผู้คน-ร้านค้าดูมีชีวิตชีวา, เฟรมเรตลื่นไหลภาพสวยตระการตา, วิธีลอบฆ่าที่ต้องใช้หัวคิดหลอกล่อเป้าหมายให้โผล่หัวโชว์ตัวออกมา และนับเป็นความตั้งใจดีที่อยากพาซีรีส์กลับไปสู่รากเหง้าแม้ไม่ตรงใจเรานักก็ตาม

ข้อเสีย: การปีนป่ายยังงึกๆงักๆติดขัดไม่คิดพัฒนา, ปัญหาบัคจุกจิกกวนใจที่พบเห็นอยู่ร่ำไป, AI ศัตรูเหมือนลืมถอดสมองทิ้งไว้ที่บ้าน, แม็พโอเพ่นเวิลด์มีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด, พื้นที่รอบนอกเมืองปล่อยทิ้งโล่งร้างว่างเปล่า และให้ฟีลคล้าย DLC ภาคเก่ามากกว่าที่จะเป็นภาคใหม่จริงๆ


สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท ยูบิซอฟต์







*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*


กำลังโหลดความคิดเห็น