แนวเกม แอ็คชั่น 2D แพลตฟอร์ม
ระบบ PS5, Xbox Series, PC
เรตเกม ESRB: E 10+ เหมาะสำหรับผู้เล่นอายุ 10 ปีขึ้นไป
ผลงานอินดี้แพลตฟอร์มทุนน้อยที่ไม่สนใจเสียงคัดค้านคำครหา ดื้อรั้นหัวชนฝาอยากเป็นให้ได้อย่างเกมหัวถ้วยในตำนาน จนสุดท้ายได้หัวอย่างอื่นกลับมาแทน
สำหรับเกม Enchanted Portals นั้นถือเป็นผลผลิตของทีมงาน Xixo Games Studio กลุ่มนักพัฒนาอิสระชาวสเปนขนาดเล็กที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันแค่สองคน โดยตลอดที่ผ่านมาตัวเกมค่อนข้างประสบปัญหาวิบากกรรมมามากพอสมควร ทั้งไม่มีค่ายตัวแทนจัดจำหน่ายรายไหนที่ให้ความสนใจ พอหันไปเปิดระดมทุนผ่าน Kickstarter ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเรี่ยไรเงินไม่ได้ถึงเป้าขั้นต่ำที่กำหนด แต่ดูเหมือนว่าคู่หูรายนี้พวกเขายังคงเชื่อมั่นในผลงานของตนเองไม่รู้สึกเข็ดหลาบจากการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเข็นออกมาเป็นเกมตัวเต็มให้พวกเราชาวพีซีและคอนโซลได้เล่นกันในท้ายที่สุด และมันก็สุดแสนจะบรรยายอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ
เนื้อเรื่องของเกมกล่าวถึง "บ๊อบบี้" (Bobby) และ "เพนนี" (Penny) พ่อมดและแม่มดน้อยฝึกหัดที่ในระหว่างกำลังทำความสะอาดปัดฝุ่นภายในบ้านของจอมมหาเวทย์อยู่นั้น พวกเขาดันเผลอเรอเอาไม้กวาดไปสะกิดโดนทำหนังสือเวทมนตร์ลึกลับร่วงหล่นตกลงมา และมันได้เปิดหน้าดูดพาพวกเขาทั้งคู่เข้าสู่ประตูมิติพิศวงติดกับอยู่ในโลกมืดที่เต็มไปด้วยอสูรกายวิญญาณชั่วร้าย จอมเวทย์ฝึกหัดทั้งสองจึงต้องงัดไม้กายสิทธิ์นึกคิดถึงคาถาที่ตนร่ำเรียนมาเพื่อร่วมกันฟันฝ่าเอาตัวรอดออกไปจากสถานที่น่ากลัวแห่งนี้ให้จงได้ โดยตลอดทั้งเกมจะเลือกใช้ภาพวาดการ์ตูนนิ่งที่ไร้เสียงพากย์ไร้ข้อความบรรยายประกอบใดๆในการบอกเล่านำเสนอเหตุการณ์ให้เราต้องใช้จินตนาการนึกมโนเรื่องราวกันเอาเอง
รูปแบบเกมเพลย์จะเป็นแนวแอ็คชั่นแพลตฟอร์ม 2D ไซด์สโครล ที่ให้เราบังคับตัวละครพ่อมดน้อยเดินตะลุยไปในฉากเคลื่อนที่ได้แค่ซ้ายกับขวา สามารถกดกระโดดสองครั้งหรือพุ่งแดชบนพื้นและกลางอากาศเพื่อหลบหลีกการโจมตีของศัตรู เจอกิ่งไม้ขวางทางก็ใช้ไม้ฟาดฟันทำลาย จังหวะจวนตัวก็สามารถกางโล่ป้องกันได้ชั่วครู่ ในขณะที่การโจมตีหลักของเราจะเน้นร่ายเวทย์พุ่งออกไปเป็นกระสุนคล้ายๆกับการยิงปืน โดยระบบจะผูกมัดทั้งการขยับตัวละครและการเล็งยิงรวมไว้ที่ก้านอนาล็อกซ้ายเพียงข้างเดียว (อนาล็อกขวาปล่อยว่างไม่ได้ใช้ประโยชน์) จึงทำให้การเล่นดูยุ่งยากน่าปวดหัวเอามากๆ ถึงขนาด Contra ยังต้องเรียกพี่เลยทีเดียว
ทางด้านศัตรูภายในเกม ผู้เล่นจะพบเจอแต่ศัตรูหน้าซ้ำๆที่แตกต่างกันตรงแค่สีสันของแสงออร่ารอบตัว ถ้าศัตรูส่องแสงสีแดงเราจำเป็นต้องใช้เวทย์ธาตุไฟในการกำจัดมัน ตัวไหนเรืองแสงสีน้ำเงินก็ควรใช้เวทย์ธาตุน้ำแข็งยิงใส่ ส่วนถ้าเป็นสีเขียวก็ธาตุลม ซึ่งการสลับเปลี่ยนธาตุไปมาเราสามารถทำได้โดยการกดปุ่มทิศทาง ขึ้น / ซ้าย / ขวา บนคอนโทรลเลอร์ จริงอยู่ว่าการแยกโจมตีศัตรูให้ถูกสีมันช่วยเพิ่มมิติให้เราต้องฉุกคิดมีสติอยู่ตลอดเวลา ช่วงแรกๆด่านต้นๆมันอาจไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเล่นไปเรื่อยๆด่านหลังๆที่ศัตรูยกพลมาเต็มจอพร้อมกันหมดทุกสีทุกสิ่งมันจะดูวุ่นวายสับสนนรกแตก ยิ่งผสมกับการบังคับควบคุมที่เล็งยิงโดนยากอยู่แล้ว คุณจะยิ่งประสาทแดกแหกปากร้องลั่นสนั่นบ้าน
แน่นอนว่าเมื่อเล่นไปถึงช่วงท้ายใกล้จบด่าน คุณจะได้พบเจอเผชิญหน้ากับบอสใหญ่ประจำสเตจ ซึ่งเหล่าบอสต่างๆภายในเกมนี้ก็พยายามลอกเลียนแบบสไตล์มาจากเกม Cuphead ที่พวกมันแต่ละตัวจะไม่โชว์แสดงหลอดเลือดให้พวกเราได้เห็นว่าลดลงไปมากน้อยขนาดไหน คุณมีหน้าที่ก้มหน้าก้มตายิงเวทย์โจมตีใส่มันไปเรื่อยๆเท่านั้นอย่าได้หยุดพักหรือหมดกำลังใจไปเสียก่อน หากเทียบความยากระหว่างสองเกมเราว่าพอๆกัน แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่ดูแย่กว่านั่นก็เพราะว่า เวลาที่บอสใกล้ตายพวกมันไม่แสดงอารมณ์สีหน้า เสื้อผ้าฉีกขาด หรือปรากฏริ้วรอยบาดแผลบ่งบอกให้ผู้เล่นได้ทราบเลย แสดงสีหน้าปกติใบหน้าเดียวไปตลอดการต่อสู้พอจะตายค่อยตัดฉากหายไปแบบดื้อๆ คือมันไม่ได้ฟีลอารมณ์ความรู้สึกสะใจยามที่เราชนะโค่นได้เลยแม้แต่น้อย เหมือนเป็นแค่กำแพงที่โผล่มาให้เราทุบแล้วเดินผ่านเลยไปไม่ต้องใส่ใจอะไร แถมการต่อสู้กับเหล่าบอสก็กินเวลานานเกินไป นานเสียจนนิ้วเริ่มล้าสายตาเริ่มมัว โดดๆยิงๆอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่มีเทคนิคใหม่ๆหรือลูกเล่นใดๆในฉากเสริมเติมแต่งให้มันน่าตื่นเต้น
ตัวเกมจะไม่มีระบบเซฟข้อมูลการเล่นมาให้เหมือนเกมสมัยใหม่ ดังนั้นถ้าหากคุณเกิดหัวร้อนกดออกปิดเกมตอนเจอบอส ครั้งหน้าวันถัดไปที่เปิดเกมขึ้นมาคุณจำเป็นต้องเริ่มเล่นด่านนั้นใหม่หมดตั้งแต่ต้น และถึงแม้คุณจะเลือกปรับเปลี่ยนเป็นโหมด Easy แต่ใช่ว่ามันจะการันตีให้คุณผ่านบอสของด่านนั้นได้แบบสบายๆ เพราะจากที่ลองมันก็ยังทำให้คุณหัวร้อนต่อสู้กันนานเหมือนเดิมไม่ต่างจากโหมด Normal กับ Insane เท่าไหร่นัก ดังนั้นถ้าใครต้องการผ่านด่านในเกมนี้ไปแบบชัวร์ๆก็ควรชักชวนเพื่อนอีกคนมารับบทเป็นแม่มดสาว "เพนนี" ต่อสู้ตะลุย Co-op ไปด้วยกันน่าจะดีที่สุด แต่ก็อย่างที่เราพูดบ่นไปหลายประเด็นข้างต้น ใครมันจะอยากพาตัวเองมาทรมานไปกับคุณด้วย ถามจริง?
"หากบอกว่า Enchanted Portals คือร่างโคลนนิ่งที่ไม่สมประกอบของเกม Cuphead มันคงไม่เวอร์เกินจริงนัก สิ่งเดียวที่ตัวเกมทำได้เหมือนต้นฉบับคงมีแค่เรื่องของความยาก แต่ก็เป็นความยากในแบบที่ไร้เหตุผล เพราะระบบการบังคับที่สุดห่วย รวมถึงดีไซน์เหล่าบอสและศัตรูที่สุดป่วย ด้วยเหตุผลชวนขยาดต่างๆมากมายเหล่านี้ จึงทำให้มันไม่มีค่าคู่ควรที่จะไปอาศัยเกาะกินพื้นที่ในหน่วยความจำเครื่องเล่นเกมของใคร ไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม"
| เกมเพลย์ | 2 |
| กราฟิก | 5 |
| เสียง | 4 |
| ปริมาณเนื้อหา | 3 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 3 |
| ภาพรวม | 3.4 |
ข้อดี: ภาพวาดการ์ตูนดูสวยใช้ได้พอถูไถ และสามารถชวนเพื่อนมาเล่นได้แบบสองคน
ข้อเสีย: การเล็งบังคับสุดแย่เป้านิ่งๆยิงไม่โดนสักที, เวทมนตร์แบ่งสีธาตุสร้างความน่ารำคาญมากกว่าท้าทาย, เหล่าบอสอึดเกิ๊นมีหลายเฟสสู้นานจนเมื่อยนิ้ว, จุดเซฟเช็คพอยท์ใดๆไม่มีมาให้, เล่นไปบ่นไปชวนหงุดหงิดหัวร้อน, ซาวด์เอฟเฟกต์ซ้ำเดิมได้ยินแต่เสียงลูกโป่งแตกตอนศัตรูตาย, โหมดง่ายที่ไม่ง่ายจริงอย่างที่พูด และค่อนข้างสั้นชั่วโมงเดียวก็จบได้หากไม่ติดขัดอะไร
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Perp Games
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
