แนวเกม แข่งรถโกคาร์ท
แพลตฟอร์ม PS5, Xbox Series, PC
เรตเกม ESRB: E เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกวัย
หลังทำเด็กน้อยร้องห่มร้องไห้กันไปเมื่อปลายปีที่แล้วบนเครื่อง นินเทนโด สวิตช์ หนนี้ถึงคราวเด็กโตบนแพลตฟอร์มอื่นๆกันบ้างที่จะได้สัมผัสเกมแข่งรถโกคาร์ทสุดขยาด ยากที่จะตกหลุมรัก
"ใครกันหนอ คือผู้ไวสุดในผองเราเหล่าสเมิร์ฟ?" นี่คือพล็อตเรื่องเนื้อหาทั้งหมดของ Smurfs Kart ผลงานเกมแนวเรซซิ่งภาคใหม่ล่าสุดที่หวังอิงเกาะกระแสตัวการ์ตูนสีฟ้าร่างเล็กนุ่งผ้าขาวขวัญใจอเมริกันชนที่ถูกนำกลับมาปัดฝุ่นออกอากาศฉายผ่านทางโทรทัศน์อีกครั้ง โดยรูปแบบเกมเพลย์ของมันจะมีความคล้ายคลึงกับซีรีส์เกมแข่งรถ Mario Kart ของ นินเทนโด เพียงแค่ปรับเปลี่ยนตัวละครนักขับและสนามแข่งให้มาอยู่ในจักรวาลของ สเมิร์ฟ แทน
การบังคับควบคุมค่อนข้างง่ายใช้แค่ไม่กี่ปุ่มเท่านั้น ปุ่ม X เอาไว้สำหรับเร่ง ส่วนปุ่ม R1 เอาไว้สำหรับดริฟต์ตอนเข้าโค้ง ซึ่งการดริฟต์ในเกมนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากซีรีส์ช่างประปาเช่นเดียวกัน โดยมันจะแบ่งระดับการดริฟต์ออกเป็น 3 สี 3 ระดับตามระยะเวลาความนานที่เราไถลตัวเข้าโค้ง ประกายแสงสีฟ้าคือการดริฟต์ระดับธรรมดา หากเรากดแช่นานอีกหน่อยประกายสีฟ้าก็จะกลายเป็นสะเก็ดไฟสีม่วง และถ้าเรายังไม่ปล่อยมันก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงในท้ายที่สุด แน่นอนว่าอัตราการบูสต์เร่งส่งตัวหลังจากกดดริฟต์นั้นจะแรงมากแรงน้อยแตกต่างกันตามสีสันที่ปรากฏ
การกดใช้ไอเทมกลั่นแกล้งคู่แข่ง ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เกมแข่งรถโกคาร์ทจะขาดไปเสียไม่ได้ และเกมนี้ก็ขนไอเทมหลายชนิดมาให้เราได้สุ่มลุ้นรับจากกล่องของขวัญที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วสนาม มีทั้งไอเทมที่ช่วยบูสต์ความเร็วรถเราชั่วขณะ ไอเทมเกราะป้องกัน ไอเทมวางกับดักหนามเอาไว้บนพื้นถนน ไอเทมยิงโจมตีใส่รถคันข้างหน้า ไปจนถึงไอเทมที่คอยป่วนสกัดขัดขวางอื่นๆอีกสารพัด ทว่าน่าเศร้าที่มันเป็นแค่เกมพอร์ตจากคอนโซล นินเทนโด สวิตช์ จึงมีหลายปุ่มบนคอนโทรลเลอร์ DualSense ที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะปุ่มกดใช้งานไอเทมที่มีแค่ L1 ปุ่มเดียว และต้องกดใช้ไอเทมตามลำดับก่อน-หลังเท่านั้น ไม่สามารถกดปุ่ม L2 เพื่อลัดคิวใช้งานไอเทมลำดับสองก่อนได้ ทำให้บางทีเวลาเรานำโด่งอยากวางกับดักแกล้งคันหลังที่ขับตามมา เราอาจต้องกดปล่อยลูกโอ๊กยิงออกไปยังพื้นถนนว่างเปล่าด้านหน้าไร้เงาศัตรูทิ้งไปแบบฟรีๆ
ทางด้านนักขับ 12 ตัวละครหลักที่ขนมาให้ได้เลือก แต่ละคนก็จะมาพร้อมกับรถไม้โกคาร์ทคันโปรดคู่ใจที่มีสีสันทรวดทรงดีไซน์แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรเสียมันก็เป็นเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูต่างกันเท่านั้น เพราะสเปคสมรรถนะเครื่องยนต์ภายในของรถทุกคันล้วนเท่ากันหมด ไม่มีคันไหนที่ขับเร็วกว่าหรือเข้าโค้งเกาะถนนได้ดีกว่าอีกคัน สิ่งเดียวที่แตกต่างคือเรื่องของพลังพิเศษที่จะได้รับมาก็ต่อเมื่อวิ่งเก็บกล่องของขวัญเซอร์ไพร์สในสนาม ยกตัวอย่าง รถของ Papa Smurf ที่สามารถปล่อยผงวิเศษทำให้คู่แข่งหลับใน, รถของ Blossom ที่ทำให้รถคู่แข่งกระโดดเป็นกบ หรือรถของ Astro ที่สามารถแปลงร่างเป็นจรวดพุ่งแซงได้หมดทุกคัน แต่ก็อย่างว่าแหละ เงื่อนไขการกดใช้พลังพิเศษที่เราต้องเก็บกล่องของขวัญลับที่ซ่อนอยู่ในสนามมาให้ได้นั้น จึงทำให้มันดูเป็นเกมแข่งรถที่พึ่งพาอาศัยโชคมากกว่าสกิลฝีมือของคนขับ
งานด้านภาพสไตล์การ์ตูน 3D นับว่าทำออกมาได้ดีเต็มไปด้วยสีสันดูสดใสมีชีวิตชีวา เรียกได้ว่าโดดเด่นเกินหน้าเกินตากว่าระบบเกมเพลย์และทุกองค์ประกอบอื่นๆภายในเกมเสียอีก โดยเฉพาะสนามแข่งขันแต่ละสนามที่มีตีมสภาพแวดล้อมหลายหลากแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นสนามในหมู่บ้าน สนามป่าเขาลำเนาไพร ทุ่งฟาร์มผักผลไม้ ริมทะเลสาบ แข่งกันในป่าช้าบรรยากาศชวนหลอน หรือขับป่วนภายในปราสาทของพ่อมดจอมวายร้าย Gargamel ก็ล้วนมีมาให้ได้เลือก โดยดีไซน์การออกแบบสนามก็เดินตามรอยสูตรสำเร็จทั่วไปของเกมขับโกคาร์ท นั่นคือต้องมีโค้งเลี้ยวลดให้ได้กดดริฟต์กันเพลินๆ มีเนินกระโดดโลดโผนให้ตื่นเต้น รวมไปถึงเส้นทางลัดต่างๆเอาไว้พลิกสถานการณ์
โหมดสตอรี่เนื้อเรื่องแคมเปญกับเกมแนวแข่งรถโกคาร์ท ทั้งสองอย่างต่างไม่ใช่ของคู่กันและไม่มีเหตุผลความจำเป็นที่ต้องใส่มา ตัวเกม Smurfs Kart ก็เช่นเดียวกันที่คอนเทนต์เนื้อหาภายในของมันจะมีเพียงแค่โหมด Single Player เอาไว้เล่นคนเดียวฝึกฝนฝีมือกับบอทและโหมด Multiplayer เล่นหลายคนที่เราจะกล่าวถึงในภายหลังเท่านั้น ซึ่งรูปแบบกติกาประกอบไปด้วย Time Challenge แข่งทำเวลาดีที่สุดในแต่ละสนาม, Grand Prix แข่งเก็บคะแนนคว้าถ้วยแชมป์ และ Free Race แข่งขันกันแบบอิสระ เป้าหมายของเรามีเพียงแค่จิ้มรถเลือกสนามแล้วลงแข่งขันไปเรื่อยเปื่อยเพื่อเก็บสะสมรูปสติ๊กเกอร์มาเติมเต็มอัลบั้มภาพ ไม่มีปลดล็อคอะไรใดๆเพิ่มเติม ฉะนั้นแล้วเหล่าเด็กโตทั้งหลายหรือใครที่เป็นสายฮาร์ดคอร์หวังซื้อเกมมาเล่นแบบจริงจังอาจเกิดอาการเบื่อไว รู้สึกว่าตัวเกมเล่นได้ไม่คุ้มค่าเงินสักเท่าไหร่
มาถึงเรื่องสุดท้ายกับโหมด Multiplayer ที่เกมเมอร์ส่วนใหญ่บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่ามันไม่ตรงปกเอาเสียเลย เหตุผลคือมันเป็นการแข่งขันแบบ Local แบ่งหน้าจอออฟไลน์เท่านั้น ไม่สามารถออนไลน์แข่งกับผู้เล่นคนอื่นๆทั่วโลกได้เลย หากครอบครัวใครมีปัญหาหย่าร้าง วันไหนพี่น้องทะเลาะโกรธงอนกัน ญาติไม่ว่างติดงานติดธุระ แฟนมีประจำเดือน หรือเพื่อนไม่มาบ้าน คุณจะไม่สามารถเข้าเล่นโหมดดังกล่าวได้เลย ก็จริงอยู่หรอกนะที่คำว่า Multiplayer มันแปลตรงตัวหมายถึงการเล่นหลายคนซึ่งไม่จำเป็นต้องสื่อถึงการเล่นออนไลน์เสมอไป ถ้าพวกเขาอยากจะใช้มันก็คงไม่ผิดกฎหมายข้อไหน แต่ด้วยความเคยชินของเกมเมอร์ยุคปัจจุบันที่คุ้นชินกับการเสพเกมมัลติเพลย์เยอร์แบบออนไลน์มาโดยตลอดเป็นประจำจึงอาจก่อให้เกิดความสับสนเข้าใจผิดกันได้ เราว่าทางที่ดีทีมพัฒนาควรเปลี่ยนใช้คำว่า Split-screen แทน มันน่าจะสื่อสารได้ตรงปกรู้สึกมีความจริงใจต่อผู้เล่นมากกว่าเจตนาใช้คำกำกวมลวงหลอกกันแบบนี้
"สเมิร์ฟ นับเป็นอีกหนึ่งซีรีส์การ์ตูนที่เราเคยดูเคยชื่นชอบตอนสมัยวัยเด็ก ถึงแม้ปัจจุบันอาจจะไม่ได้ติดตามแล้วก็เถอะนะ ดังนั้นคะแนนรีวิวที่เรามอบให้มันไม่ได้บ่งบอกแสดงถึงความเหยียดเกลียดชังเจ้าตัวฟ้า แต่เป็นเพราะตัวเกม Smurfs Kart ที่หากนำไปเปรียบเทียบกับเกมแนวโกคาร์ทอื่นๆในท้องตลาดแล้ว มันมีสิ่งที่พลาดน่าผิดหวังอยู่หลายจุดด้วยกัน ทั้งเกมเพลย์ที่ขาดความลึก การเล่นที่ไร้จุดหมาย และโหมดออนไลน์ที่ขาดหายไป ต่อให้เป็นแฟนคลับอายุน้อยเชื่อว่าก็คงมีแอบขุ่นเคืองใจกันบ้างละ"
เกมเพลย์ | 4 |
กราฟิก | 7 |
เสียง | 5 |
เนื้อหาคอนเทนต์ | 3 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 5 |
ภาพรวม | 4.8 |
ข้อดี: ภาพการ์ตูนดูสวยสีสันสดใส, สนามแข่งขันหลากหลายตีมบรรยากาศ และมีตัวละครเสมิร์ฟให้เลือกมากมายทั้งชาย-หญิง
ข้อเสีย: มาถึงก็แข่งเลยไม่มี Tutorial สอนปุ่มไหนใช้งานยังไง, รถโกคาร์ทแต่ละคันสมรรถนะเหมือนกันหมด, แค่เล่นฆ่าเวลาไปขำๆไม่มีอะไรจริงจังให้ปลดล็อค, ไร้ตัวเลือกในการปรับแต่งไม่ว่าตัวรถหรือคนขับ, บังคับใช้ไอเทมเรียงตามลำดับที่เก็บมา, การแข่งเน้นใช้ดวงพึ่งพาโชคมากเกินไป และไม่สามารถออนไลน์วัดฝีมือกับผู้เล่นคนอื่นๆได้เลย
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Ripples Thailand
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*