แนวเกม มอเตอร์ไซค์เรซซิ่ง
แพลตฟอร์ม PS5, Xbox Series, Xbox One, PC
เรตเกม PEGI: 3 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป
เกมแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบแบบไม่จำกัดลูกสูบภาคใหม่ล่าสุด ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากภาคที่แล้วในแทบทุกๆด้าน ถึงแม้ปัญหาบางอย่างอาจยังไม่ได้รับการแก้ไขก็ตาม
เผื่อใครไม่ทราบ ซีรีส์ Ride นั้นถือเป็นอีกหนึ่งผลผลิตของทีมพัฒนาเกมสัญชาติอิตาลีอย่าง Milestone ซึ่งเป็นทีมงานเดียวกันกับที่สร้างซีรีส์เกม MotoGP ดังนั้นระบบการขับขี่บังคับควบคุม รวมถึงฟีเจอร์ตัวช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับมือใหม่ของทั้งสองซีรีส์จึงดูมีความคล้ายคลึงใกล้เคียงกัน ซึ่งตัวเกม Ride 5 นอกจากผู้เล่นจะสามารถกด Rewind กรอเทปย้อนเวลากลับไปช่วงก่อนเกิดอุบัติเหตุได้แล้ว ในเมนูช่วยเหลือการขับขี่มันยังมีออพชั่นให้เลือกปรับมากมาย ทั้งตัวช่วยเบรกที่ช่วยชะลอรถของเราตอนจังหวะเข้าโค้งหรือใกล้พุ่งชนรถคู่แข่ง AI, ตัวช่วยการเลี้ยวและทรงตัว, ตัวช่วยบิดคันเร่ง, ตัวช่วยปรับเกียร์ขึ้นลงแบบกึ่งอัตโนมัติ หรือแม้กระทั่งตัวช่วยเวลาขับหลุดแทร็กก็ยังสามารถประคับประคองตัวรถให้กลับเข้ามาสู่สนามแข่งได้โดยง่ายไม่เซล้ม เป็นต้น โดยตัวเลือกเหล่านี้เราสามารถเข้าไปปรับแต่งเปิด-ปิดได้ตามความต้องการ ต่อให้เป็นมือใหม่เพิ่งจับมันครั้งแรกคุณก็สามารถเล่นสนุกได้ทันทีไม่มีปัญหา
โหมดอาชีพของเกมที่ใช้ชื่อว่า World Tour นั้นจะเป็นเหมือนกับอีเวนท์ที่ให้ผู้เล่นตระเวนลงแข่งขันในรายการต่างๆทั่วทุกมุมโลกเพื่อสร้างชื่อเสียง สั่งสมประสบการณ์ และที่สำคัญคือฟาร์มเงินรางวัลเอาไว้ไปซื้อชุดแข่ง หมวกกันน็อค รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ๆที่เกมนี้ขนมาให้คุณเลือกช็อปกว่า 270 คัน จาก 20 ค่ายผู้ผลิตชั้นนำ อาทิเช่น Aprilia, BMW, Ducati, Kawasaki, Suzuki, Honda และ Yamaha ซึ่งจากที่ลองเราค้นพบว่ารถที่วางขายในโชว์รูมเหล่านี้ เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อก็ได้เพราะคุณอาจได้พวกมันมาครอบครองจากการนั่งเล่นปกติ ขอเพียงแค่ขับดีๆขับเก่งๆแล้วคว้าเหรียญทองให้หมดทุกสนามที่อยู่ในรายการ คุณก็จะได้รับรถมอเตอร์ไซค์คันพิเศษที่เป็นของรางวัลประจำอีเวนท์ดังกล่าวไปขับแบบฟรีๆ
อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของ Ride ที่ต่างออกไปจากซีรีส์ MotoGP นั่นคือสนามแข่งขันที่เปิดกว้างมีหลากหลายแทร็คจากโลกความเป็นจริงมาให้เราได้ประลองวัดความเร็ว อย่างพวกสนามแข่ง Laguna Sega, Monza หรือ Nurburgring ที่เคยปรากฏอยู่ในเกมมอเตอร์สปอร์ตสี่ล้อชื่อดัง Gran Turismo ก็ติดโผรวมอยู่ในลิสต์มีให้ได้ขับในเกมนี้ด้วย หรือจะเป็นสนามแข่งรูปวงรีเลนกว้างที่นิยมไว้แข่งรถแนสคาร์อย่าง Daytona ก็มีมาให้เราบิดสองล้ออัดแข่งไล่บี้กัน นอกจากนี้ยังมีสนามแข่งอื่นๆอีกมากที่รอให้คุณไปสัมผัสประสบการณ์แข่งขันกินลมชมวิวข้างทาง เสพบรรยากาศเหมือนขับไปท่องเที่ยวออกทริปต่างจังหวัดประมาณนั้นเลยเชียวแหละ
หลังจากภาคที่แล้ว Ride 4 เคยสร้างปรากฏการณ์ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในเรื่องของภาพกราฟิกและบรรยากาศความสมจริง มาในภาคใหม่นี้ Ride 5 ยังคงรักษาระดับมาตรฐานเหล่านั้นเอาไว้ได้ดีด้วยขุมพลัง Unreal Engine ที่ทำให้มันเป็นเกมแข่งรถมอเตอร์ไซค์อันดับท็อปเบอร์ต้นๆในท้องตลาดที่มีภาพสวยสดงดงามเหมือนจริงราวกับภาพถ่าย ตั้งแต่แทร็คสนาม พื้นถนน โมเดลนักขับ บอดี้รถแข่ง ยันแสงเงาที่สะท้อนตกกระทบในช่วงเวลาต่างๆของวัน ล้วนเป็นอะไรที่ชวนว้าวเอามากๆ ยิ่งผสมกับฟีเจอร์ Dynamic Weather แข่งตอนกลางวันฟ้าใสอยู่ดีๆเดี๋ยวก็มีเมฆครึ้มปกคลุม สักพักฝนตกร่วงโปรยปรายเปียกแฉะต้องเปลี่ยนยาง หรือบางทีแข่งตอนเย็นย่ำตะวันแสดสีส้มใกล้ลับขอบฟ้า ขับผ่านไปไม่กี่รอบก็พลบค่ำดำมืดไฟสนามเปิดติดพรึ่บส่องสว่างให้เราโดยอัตโนมัติ มันช่างเป็นความรู้สึกที่สุดแสนวิเศษจริงๆเลยบ่องตง
ในส่วนกฎกติกาการแข่งขัน ภาคนี้จะมีมาให้เราเลือกเล่นเวียนสลับกันไประหว่าง Single Race แข่งแบบนับรอบปกติตัดสินรู้ผลจบในสนามเดียว, Championship แข่งแบบเก็บสะสมแต้มไปเรื่อยๆในหลายๆสนาม, Head to Head แข่งแบบวัดดวลหนึ่งต่อหนึ่งรอบเดียวใครถึงเส้นชัยก่อนเป็นฝ่ายชนะ, Endurance การแข่งขันแบบทรหดไม่จำกัดรอบจนกว่าเวลาจะหมดที่ต้องใช้ความมานะอดทนอย่างสูง รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์หาจังหวะเหมาะในการเข้าพิทเปลี่ยนยาง-เติมน้ำมัน โดยเมื่ออยู่ในพิทผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเติมน้ำมันกี่ลิตรเต็มถังหรือค่อนถัง เปลี่ยนยางแค่ล้อหน้า ล้อหลัง เปลี่ยนทั้งคู่หรือไม่แตะต้องมันเลย ซึ่งทุกการตัดสินใจจะส่งผลต่อเวลาที่ใช้ในพิทจึงต้องคิดคำนวณกันให้ดีๆ และท้ายสุด Time Attack รูปแบบแข่งจับเวลาที่ทั้งสนามมีเพียงรถเราแค่คันเดียว หากเข้าเส้นชัยได้ทันทำเวลาได้ดีตามที่ตัวเกมกำหนดขีดเส้นไว้ก็เป็นอันผ่าน
ซึ่งกฎกติกาส่วนใหญ่เราลองเล่นดูแล้วก็ไม่มีปัญหาติดขัดอะไร ยกเว้นเพียงแค่ Time Attack อันเดียวเท่านั้นที่เราคิดว่าทีมผู้พัฒนาเขาเซตกำหนดเวลาไว้ค่อนข้างฉิวเฉียดเกินไปไม่เผื่อเหลือเผื่อขาดบ้างเลย เหมือนพวกเขาขับได้เวลาเร็วสุดแล้วก็เซตตั้งเวลาไว้ตรงนั้นเลยไม่มีการบวกเพิ่มใดๆ ดังนั้นการคว้าเหรียญทองเพื่อปลดล็อครถรางวัลจึงเป็นเรื่องยากมากต่อให้คุณเปิดใช้ตัวช่วยทุกอย่างมันก็ไม่ทันอยู่ดี แถมบางทีอาจเจอบัคตัวช่วยเบรกที่คอยเบรกสกัดทำให้รถของเราเร่งไม่ขึ้นแม้วิ่งเส้นทางตรง ซึ่งพอลองไปสืบค้นข้อมูลในเน็ตถึงได้ประจักษ์ว่าปัญหาตั้งเวลากระชั้นชิดเกินไปในโหมด Time Attack นั้นมันมีมาตั้งแต่สมัยภาคก่อนแล้ว เราจึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมทีมพัฒนาเขาถึงไม่ยอมแก้ไขเสียที ปล่อยให้มันเรื้อรังมาจนถึงภาคใหม่นี้ได้อย่างไร?
สำหรับโหมดเล่นหลายคน ในภาคนี้ก็ได้มีการนำฟีเจอร์แบ่งจอ Split-screen นั่งเล่นข้างกันสองคนบนจอเดียวกลับมาตามคำเรียกร้อง ในขณะที่การแข่งขันแบบออนไลน์มัลติเพลย์เยอร์นั้นจะรองรับ Cross-play หรือเล่นร่วมกันข้ามแพลตฟอร์มระหว่างผู้เล่นคอนโซลเพลย์สเตชัน, เอ็กบ็อกซ์ และพีซี ซึ่งเท่าที่ลองสัมผัสก็มีห้องให้คุณเข้าไปแจมสนุกอยู่บ้างพอสมควรถึงแม้มันจะเป็นซีรีส์เกมที่คนไม่ค่อยรู้จักและเพิ่งออกวางจำหน่ายก็ตาม โดยหัวห้องจะเป็นคนกำหนดกฎกติกาการแข่งขันแล้วระบบจะเปิดให้ทุกคนในห้องได้เลือกโหวตสนามถัดไปที่อยากแข่ง จากนั้นก็เลือกรถมอเตอร์ไซค์คันที่ชอบ ตั้งค่าปรับแต่งจูนรถที่ใช่ รวมถึงเรายังสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์ Riding Aids ตัวช่วยเหลือต่างๆในการควบคุมขับขี่เหมือนกับตอนนั่งเล่นคนเดียวได้ด้วยนะ นับเป็นเรื่องแปลกใหม่พอสมควรเพราะปกติในเกมแข่งรถทั่วไปฟีเจอร์ตัวช่วยเหล่านี้มักจะถูกปิดไว้เมื่อคุณเล่นออนไลน์เพื่อความเสมอภาคเท่าเทียม ดังนั้นประสบการณ์ภาพรวมของโหมดออนไลน์ในเกมนี้จึงดูค่อนข้างเป็นมิตรสำหรับมือใหม่มากเลยทีเดียว
"หากคุณเป็นสายนักบิดสองล้อที่ชื่นชอบความสุนทรีย์ โหยหาอะไรที่มันอิสระเปิดกว้างไม่อึดอัดอยู่ในกรอบ อยากลองขับขี่เปลี่ยนมอเตอร์ไซค์คันใหม่ๆไปเรื่อยๆ Ride 5 นับว่าตอบโจทย์ดับความหิวกระหายเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี แม้ว่ามันจะมีปัญหาชวนกลุ้มใจอยู่บ้างแต่มันก็เป็นสิ่งที่คุณสามารถเมินข้ามพอให้อภัยได้ นี่ถ้าหากทีมงาน Milestone พวกเขาเอาเวลามาโฟกัสจดจ่ออยู่กับเกมใดเกมหนึ่งไปเลย ไม่ต้องจับปลาสองมือคอยห่วงพะวงทั้งซีรีส์ Ride และซีรีส์ MotoGP ไปพร้อมๆกัน เราว่ามันคงบิดได้สุดไปได้ไกลมากกว่านี้"
เกมเพลย์ | 7 |
ความเข้าถึงง่าย | 9 |
กราฟิก | 8 |
เสียง | 8 |
โหมดออนไลน์ | 8 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
ภาพรวม | 7.8 |
ข้อดี: ยืนหนึ่งเกมมอเตอร์ไซค์ในเรื่องความสวยงามของภาพกราฟิก, ฟิสิกส์การขับขี่ที่สมจริงสมจัง, สภาพอากาศ-ช่วงเวลาเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์, เป็นมิตรกับมือใหม่มีตัวช่วยเหลือมากมายความยากง่ายเลือกได้หลายระดับ, อัดแน่นรถหลากคันหลายรุ่นให้ลองขับรวมถึงบีเอ็มรุ่นล่าสุด, มอเตอร์ไซค์แต่ละคันเสียงหวานเสียงเข้มดุดันแตกต่างกันชัดเจน, โหมดออนไลน์ที่สมูทราบลื่นไม่สนว่าใครปิงส้ม-ปิงแดง, ปรับแต่งสีสันลวดลายหมวก-รถได้ตามใจฉัน และฉากวิวทิวทัศน์สนามส่วนใหญ่ที่ให้อารมณ์ผ่อนคลายเหมือนโปรโมทการท่องเที่ยวไปในตัว
ข้อเสีย: ใบหน้าตัวละครตอนถอดหมวกยังดูอัปลักษณ์คล้ายกับโมโตจีพี, ตัวช่วยเบรกบางจังหวะยังลูกผีลูกคน, โหมดจับเวลาเจ้าปัญหาที่ทำคุณชวดเหรียญทองพลาดของรางวัลไปหลายอย่าง และการเล่นอาชีพนั่งเคลียร์ไปทีละอีเวนท์ที่แห้งจืดควรใส่เนื้อเรื่องอะไรเสริมเข้ามาหน่อย
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท PLAION
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*