แนวเกม เรซซิ่งซิมฯ
แพลตฟอร์ม PS5, PS4, Xbox Series, Xbox One, Switch, PC
เรตเกม PEGI: 3 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป
ภาคล่าสุดของเกมแข่งมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ที่ไม่ได้นำเสนอสิ่งแปลกใหม่อะไรเข้ามาสู่แฟรนไชส์มากมายนัก นอกเสียจากความง่ายดายในการขับขี่จนยากที่จะลื่นล้ม
ความพยายามทำให้ตัวเกมเล่นง่ายเข้าถึงกลุ่มผู้เล่นได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมาทาง Milestone ทีมพัฒนาผู้อยู่เบื้องหลังซีรีส์เกมแข่งรถมอเตอร์ไซค์ชื่อดังอย่าง โมโตจีพี พวกเขาได้พยายามนำเสนอฟีเจอร์ตัวช่วยเหลือมือใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแนวเส้นเรซซิ่งไลน์ที่ขาดไม่ได้ การลดทอนผ่อนปรนกฎกติกาลงมา ระดับความเขี้ยวของ AI คู่แข่งที่เราสามารถปรับเลือกเองได้ ไปจนถึงฟีเจอร์กดกรอเทปย้อนเวลากลับไปยังจุดก่อนเกิดอุบัติเหตุ ทว่าตัวช่วยทั้งหมดที่กล่าวมามันเป็นแค่ออพชั่นช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเพราะสุดท้ายแล้วยังไงคุณก็ต้องอดทนใช้เวลาเรียนรู้จดจำโค้งฝึกฝนอยู่ในสนามบ่อยๆอยู่ดีเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นที่หนึ่ง นั่นจึงเป็นที่มาของระบบตัวช่วยรูปแบบใหม่ในเกม MotoGP 23 ที่จะทำให้คุณเปิดเกมขึ้นมาแล้วสามารถขึ้นโพเดียมคว้าถ้วยแชมป์ได้ทันที
ตัวช่วยที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ มันคือการบังคับควบคุมรูปแบบใหม่ระดับง่ายสุดที่เรียกว่า Rookie ซึ่งเป็นการบังคับสำหรับมือใหม่ผู้ไม่เคยมีประสบการณ์แตะเกมเรซซิ่งใดๆมาก่อนเลย โดยระบบจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราในทุกขณะจิตทั้งตอนเวลาเข้าโค้งมันก็ช่วยเบรกชะลอความเร็วรถมอเตอร์ไซค์ของเราให้พอดีเหมาะกับแต่ละโค้ง รวมถึงเวลาเอียงตัวเข้าโค้งระบบยังช่วยบังคับเอียงรถทำมุมองศาที่เหมาะสมให้อัตโนมัติ นอกจากนี้ในทางตรงมันยังช่วยทรงตัวบังคับรถเราให้อยู่ในไลน์ตลอดเวลาอีกด้วย เรียกว่าคอมฯจัดการให้หมดแทบทุกสิ่งเรามีหน้าที่เพียงแค่บิดคันเร่งกับบังคับตัวรถนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง ฉะนั้นโอกาสพุ่งชนล้มสะบัดหรือลื่นไถลหลุดโค้งออกนอกสนามจึงแทบเป็นศูนย์เลยทีเดียว
ทางด้านโหมดอาชีพ Career ยังมีให้เล่นเหมือนกับภาคที่แล้ว ที่คุณต้องสร้างปรับแต่งตัวละครนักขี่ในแบบฉบับของตัวเองตั้งแต่หน้าตา ทรงผม เพศ เลือกเบอร์ เลือกลวดลายหมวกกันน็อค เลือกสไตล์การขับขี่ แล้วพาเขาไปโลดแล่นแสดงฝีมือไต่เต้าจากระดับล่างสุด Moto 3 ค่อยๆขยับขึ้นไปจนถึง MotoGP ลักษณะการเล่นจะดำเนินไปตามตารางปฏิทินจำลองชีวิตนักแข่งในแต่ละสัปดาห์ เวียนสลับระหว่างวันฝึกซ้อม วันคัดอันดับ และวันแข่งขันจริง โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะ Qualify ก่อนหรือลงแข่งเลย จะแข่งแบบจบไวสั้นสุด 3 รอบหรือแบบเต็มสูบครบ 25 รอบเหมือนของจริงก็เลือกได้หมด ยิ่งแข่งชนะจบอันดับสูงๆเราก็จะพัฒนารถแข่งได้ไวขึ้น และเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลก็สามารถขอย้ายไปทีมใหม่ได้หากว่าทีมเก่าไม่รองรับกับความทะเยอทะยานของเรา
ส่วนอีกสองโหมดออฟไลน์ที่มีให้เลือกอย่าง Grand Prix ก็จะเป็นโหมดที่ให้คุณเลือกทีมลิขสิทธิ์ เลือกสนามออฟฟิเชียล แล้วลงไปแข่งขันคว้าชัยรู้ผลแบบเรซเดียวจบไม่ต้องแข่งเก็บสะสมแต้มทำอันดับใดๆ ซึ่งหากใครอยากสัมผัสประสบการณ์โมโตจีพีแบบเต็มฤดูกาลแข่งครบทุกสนามคงต้องเปลี่ยนไปเลือกเล่นในโหมด Championships แทน ที่เป็นทัวร์นาเมนท์การแข่งแบบเก็บคะแนนไปทีละสนาม พอสิ้นสุดฤดูกาลสนามสุดท้ายใครแต้มสะสมเยอะสุดก็คว้าถ้วยแชมป์โลกไปครอง
สำหรับเอนจิ้นหลักที่ใช้พัฒนาตัวเกมยังคงเป็น Unreal Engine 4 ตัวเดียวกันกับภาคที่แล้ว ดังนั้นเรื่องความสวยงามสมจริงของตัวโมเดลรถมอเตอร์ไซค์ สนามแข่งขัน ชุดเครื่องแต่งกายนักขับ จึงดูคล้ายเดิมไม่มีอะไรแตกต่างจากภาคเก่ามากนัก อาจมีแค่แสงเงาเท่านั้นที่ถูกปรับปรุงใหม่ให้แลดูนิ่มนวลเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องสภาพอากาศก็ยังคงเป็นตัวแปรปัจจัยสำคัญต่อการแข่งขันที่เราต้องคำนึงถึงเหมือนเช่นเคย แถมในภาคนี้ทางทีมงานได้มีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ Dynamic Weather เข้ามา ส่งผลให้ในบางทีเราแข่งตอนฟ้าใสแดดเปรี้ยงอยู่ดีๆอาจเกิดเม็ดฝนตกลงมาทำให้สนามลื่นบังคับควบคุมรถลำบาก ต้องหาเวลาเหมาะๆเพื่อเข้าพิตเปลี่ยนยาง
MotoGP 23 เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ทีมพัฒนาเอาใจใส่เหล่านักบิดแดนสยามด้วยการแปลเมนูข้อความต่างๆภายในเกมให้เป็นภาษาไทยแบบครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งเท่าที่ลองสังเกตดูคุณภาพการแปลถือว่าพัฒนาปรับปรุงขึ้นมากจากภาคก่อน พวกคำแปลผิด วรรณยุกต์ตกหล่น หรือพิมพ์อักษรเบิ้ล แทบไม่ปรากฏโผล่มาให้เห็นเลยในเกมภาคนี้ เหตุผลส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะงานแปลภาษามันน้อยลงด้วยแหละจึงสามารถเช็คตรวจสอบแก้ไขได้ง่าย เนื่องจากในภาคนี้มันจะไม่มีคัตซีนเกริ่นแนะนำหรือหนังสารคดีที่เต็มไปด้วยถ้อยคำให้สัมภาษณ์ยืดยาวมาให้ต้องเสียเวลาแปลภาษาอีกต่อไป แค่เปลี่ยนฟอนต์คำสั่งเมนูและหน้าต่าง UI ในเกมจากอังกฤษเป็นไทยได้งานแปลของพวกเขาคือจบหมดสิ้นหน้าที่ลงทันที
หากใครเล่นคนเดียวแข่งกับ AI แล้วรู้สึกเบื่อๆขาดความท้าทาย ตัวเกมก็ยังมีโหมดมัลติเพลย์เยอร์เล่นหลายคนมาให้คุณเลือก จะนั่งเล่นข้างกันบนโซฟาแบบแบ่งจอ Split-screen หรือจะ Online แข่งกับผู้เล่นคนอื่นๆทั่วทุกมุมโลกก็ย่อมได้ อีกทั้งในภาคนี้ยังเพิ่มโหมดอีเวนท์แข่งขันออนไลน์แบบพิเศษเข้ามาใหม่ที่เรียกว่า LiveGP กับ eSport Championships ที่จัดแข่งขันแบบแบ่งเป็นช่วงเวลา เช่น รอบห้าโมงเย็น รอบสองทุ่ม หรือกำหนดวันแข่งที่ชัดเจน อะไรประมาณนี้ ถือเป็นการยกระดับแมตช์แข่งขันออนไลน์ให้ดูซีเรียสจริงจังขึ้นมาจากภาคก่อนๆ แต่ขอฝากเตือนผู้เล่นหน้าใหม่ไว้เลยว่าอย่าคิดว่ามันจะเล่นง่ายเหมือนโหมดอาชีพหรือโหมดออฟไลน์นะ เพราะตัวเกมได้กำหนดเกณฑ์การบังคับควบคุมรถขั้นต่ำในโหมดออนไลน์ต้องใช้รูปแบบ Classic ขึ้นไป ดังนั้นคนที่คุ้นชินกับการบังคับรูปแบบ Rookie ให้คอมฯช่วยเบรกช่วยเลี้ยวมาโดยตลอด พอขยับมาเล่นโหมดออนไลน์ที่ไร้ตัวช่วยใดๆก็มีสิทธิ์สูงที่จะขับหลุดกินทรายล้มคว่ำกลิ้งระเนระนาด
สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตาม ในภาคก่อน MotoGP 22 นั้นได้เคยมีการนำเสนอโหมดตำนานที่มีชื่อว่า Nine Season 2009 ใส่เข้ามาในเกมเป็นครั้งแรก ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการคว้าแชมป์โลกสมัยสุดท้ายของ "วาเลนติโน่ รอสซี่" อดีตนักขับโมโตจีพีที่เก่งที่สุดตลอดกาล โดยเลือกหยิบเอาช่วงเวลาโมเมนต์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์มาให้เราสวมบทบาท ทว่าน่าเศร้าที่ตัวเกมภาคใหม่ล่าสุดนี้กลับเลือกไม่สานต่อตัดโหมดดังกล่าวทิ้งไปเสียดื้อๆ ไม่บรรจุใส่ตำนานของนักขับคนใดมาให้เราได้อินเลย มีเพียงโหมดธรรมดาทั่วไปเลือกสนามเลือกทีมแล้วแข่งให้มันจบๆไปเท่านั้น หากเทียบกับเกมฟุตบอลก็เหมือนมีแค่โหมดทัวร์นาเมนท์เลือกทีมแล้วเล่นไปแบบไร้จุดหมายโดยไม่รู้ว่าคู่รองคู่ชิงจะเป็นใคร แต่ถ้าหากใส่โหมดตำนานคว้าแชมป์ถ้วยบอลโลกของ "ลิโอเนล เมสซี่" ให้เราบังคับทีมชาติอาร์เจนติน่าหรือทีมชาติฝรั่งเศสเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาโมเมนต์ ณ ขณะนั้นที่ทั้งตื่นเต้นและกดดัน เราว่ามันจะช่วยเพิ่มอรรถรสความสนุกชวนให้ผู้เล่นมีอารมณ์ร่วมไปกับเกมการแข่งขันมากกว่าจัดแข่งแบบสุ่มไปเรื่อยเปื่อยเยอะเลยละ
"MotoGP 23 มันก็ยังคงเป็นเกมกีฬาแข่งรถสองล้อที่ยืนหนึ่งปราศจากคู่แข่งในท้องตลาด มีทั้งภาพกราฟิกที่สวยงาม ฟิสิกส์การขับขี่ที่สมจริง ลิขสิทธิ์ทีม รถ และสนามแข่งที่ครบครัน แถมยังเปิดประตูให้ผู้เล่นมือใหม่ได้เข้าถึงง่าย แต่เสียดายไม่ว่าด้วยความทะนงตน เกียจคร้าน หรืออะไรดลใจ พวกเขากลับปฏิเสธที่จะต่อยอดสิ่งดีงามที่เคยมีเอาไว้ จึงทำให้มันกลายเป็นแค่เกมมอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งภาคที่ผ่านไปอีกหนึ่งปีแบบไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ"
เกมเพลย์ | 7 |
ความเป็นมิตรต่อมือใหม่ | 9 |
กราฟิก | 7 |
เสียง | 7 |
โหมดออนไลน์ | 7 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
ภาพรวม | 7.3 |
ข้อดี: เป็นภาคที่ขับสบายเข้าถึงง่ายสุดๆ, ฟิสิกส์การขับขี่ที่สมจริง, ลิขสิทธิ์จัดเต็มมาครบ, ระบบสภาพอากาศไดนามิคทำให้ต้องวางแผนตลอดเวลา, รองรับภาษาไทยไร้คำแปลผิด, ปรับแต่งลวดลายหมวกแชร์กับคนอื่นได้ และโหมดออนไลน์ที่มีความเป็นอีสปอร์ตมากขึ้น
ข้อเสีย: มีสิ่งแปลกใหม่ที่ถูกพัฒนาจากเดิมแค่เล็กน้อย, กราฟิกเริ่มดูล้าสมัยเมื่อเทียบกับเกมในยุคปัจจุบัน, ไร้โหมดตำนานสารคดีอารมณ์ร่วมแทบไม่มี, อีเวนท์ LiveGP บนเซิร์ฟเวอร์เอเชียมีปัญหาขัดข้อง และการแข่งขันออนไลน์ที่ยังเป็นพื้นที่ปิดเฉพาะสำหรับขาเซียน
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Ripples Thailand
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*