แนวเกม แอ็คชั่นอาร์พีจี
แพลตฟอร์ม PS5
เรตเกม ESRB: M เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 17 ปีขึ้นไป
ผลงานภาคหลักลำดับที่ 16 ของแฟรนไชส์ Final Fantasy ที่พยายามเจาะกลุ่มตลาดผู้เล่นหน้าใหม่ๆเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงมันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นเกมแอ็คชั่นเต็มสูบที่แม้นไม่ใช่คออาร์พีจีก็สนุกไปกับมันได้
เนื้อหาของเกม Final Fantasy XVI กล่าวถึงโลก "วาลิสเธีย" (Valisthea) ดินแดนแฟนตาซีตีมยุคกลางที่เหล่าผู้คนต่างทำสงครามต่อสู้กันเพื่อช่วงชิงพลังของคริสตัลมารดา โดยสถานที่แห่งนี้มีกลุ่มคนพิเศษที่ถูกเรียกว่าร่างสถิต (Dominant) ผู้สามารถเรียกพลังของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์เอคอน (Eikon) ออกมาใช้สู้รบได้ ซึ่งตัวละครเอกของเกม "ไคลฟ์ รอสฟีลด์" (Clive Rosfield) เขาเองก็เป็นร่างสถิตของอิฟรีท อสูรแห่งไฟตนที่สอง และการมีตัวตนอยู่ของเขาได้ทำให้สมดุลของโลกเกิดการผันผวนปรวนแปรเพราะตามประวัติศาสตร์แล้วในหนึ่งธาตุจะมีอสูรประจำธาตุได้เพียงแค่หนึ่งตนเท่านั้น
ระบบการเล่นในภาคนี้จะถูกพัฒนาต่อยอดมาจากเกม Final Fantasy XV คือเน้นแอ็คชั่นอันรวดเร็วฉับไวสามารถออกท่วงท่าโจมตีหลบหลีกได้ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องรอให้ถึงเทิร์น ปุ่มสี่เหลี่ยมจะเป็นการใช้ดาบฟาดฟันระยะประชิด ปุ่มสามเหลี่ยมใช้ร่ายคาถาไฟยิงโจมตีจากระยะไกล นอกจากนี้เรายังสามารถเรียกใช้พลังของสัตว์อสูรมาช่วยโจมตีได้ด้วยเพียงแต่ต้องเสียเวลารอคูลดาวน์ จะเร็วหรือช้าแตกต่างกันไปในแต่ละท่า ซึ่งกุญแจสำคัญในการต่อสู้อยู่ตรงที่การจดจำเรียนรู้ท่วงท่าของศัตรูและมองหาช่องโจมตีสวนกลับ เพราะในเกมนี้ถ้าเรากดปุ่ม R1 หลบหลีกได้ถูกจังหวะ เราจะสามารถโจมตีเคาน์เตอร์สวนกลับไปได้อย่างรุนแรง และยิ่งเราโจมตีหนักหน่วงมากเท่าไหร่ ค่ากำลังใจ (Will) เกจสีเหลืองใต้หลอดเลือดของศัตรูก็จะยิ่งลดลง จนส่งผลให้ศัตรูเข้าสู่สภาวะ Staggered หยุดชะงักมึนงงชั่วขณะเปิดช่องให้เรากระหน่ำซ้ำตีสร้างแดเมจแบบทวีคูณ
แม้ระบบแอ็คชั่นภายในเกมจะได้แรงบันดาลใจมาจากไฟนอลฯภาคก่อน แต่เรื่องระดับความยากท้าทายในการเล่นกลับแตกต่างกันคนละเรื่องเลย เนื่องด้วยไฟนอลฯภาคนี้คุณไม่จำเป็นต้องคอยฮีลคอยชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมอีกต่อไปเพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนเป็นอมตะ ในขณะที่ตัวละครเอกของเรายังสามารถเลือกสวมใส่ติดตั้งแหวนตัวช่วยเหลือการเล่นต่างๆได้พร้อมกันหลายวง อาทิ แหวนช่วยชะลอเวลาให้เรากดปุ่มหลบหลีกได้ถูกจังหวะ, แหวนออโต้เลือกท่าโจมตีให้อัตโนมัติแค่เรากดสี่เหลี่ยมเพียงปุ่มเดียว หรือแหวน AI สุนัขช่วยบังคับทอร์กัลแทนเราที่จะได้รับมาในภายหลัง ด้วยตัวช่วยเหลือเหล่านี้บวกกับเกมเพลย์ที่เข้าถึงง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้ตลอดระยะเวลาการเล่นของเรา (ไม่นับรวมช่วง Tutorial) เราไม่มีความจำเป็นต้องควักขวดยา Potion หรือร่ายมนต์คาถา Cure ออกมาใช้เลยสักครั้ง
ตัวเกมเลือกใช้วิธี Fast Travel ในการเดินทางเร็วลัดตัดตรงดิ่งเข้าสู่ดันเจี้ยนเป้าหมายแบบทันทีทันใด ฉะนั้นเรื่องราวการผจญภัยจึงอาจดูข้ามกระโดดไม่ต่อเนื่องเหมือนเมื่อก่อน อารมณ์คล้ายกับการเริ่มต้นขึ้นด่านมิชชั่นใหม่ที่เกมแนวแอ็คชั่นส่วนใหญ่นิยมใช้กันนั่นแหละ แต่ในความเป็นเกมแอ็คชั่นมันก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยอารยธรรมความเป็นเกมอาร์พีจีให้ได้เห็นอยู่บ้าง ผ่านระบบไซด์เควสต์ คราฟต์อาวุธ-เครื่องประดับ และการอัปเกรดสกิลความสามารถให้กับตัวละคร ที่ต้องแอบกระซิบข้างหูไว้ก่อนล่วงหน้าเลยว่า พระเอกหนุ่มไคล์ฟของเราผู้นี้ เขามิได้มีดีเพียงแค่พลังไฟอย่างเดียวนะขอบอก!
ด้านคุณภาพกราฟิก อยากบอกเตือนทุกคนไว้ก่อนว่าอย่าเพิ่งท้อแท้หมดกำลังใจหากเห็นอะไรไม่พึงประสงค์ในช่วงต้นเกม เพราะในช่วง 7 ชั่วโมงแรก ตัวเกมพยายามนำเสนอโลกที่ดูธรรมดาจืดชืดหม่นหมองหน่อยๆยังไม่ค่อยจัดเต็มความอลังการ สภาพอาคารบ้านเรือน รังลับที่กบดาน ไปจนถึงปราสาทตีมยุคโบราณที่กำแพงก่อขึ้นจากหิน ประตูทำด้วยไม้ ไปจนถึงเครื่องแต่งกายของตัวละครที่เน้นเส้นใยผ้าเป็นส่วนประกอบสำคัญ สิ่งต่างๆเหล่านี้มันไม่ได้โชว์เทคนิคแสงเงาตกกระทบอะไรเลย แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณก้าวข้ามผ่านหลุดพ้นเล่นมาจนถึงช่วงที่ตัวละครได้รับชุดเสื้อผ้าใหม่แต่งเต็มยศเหมือนหน้าปกเกม ทุกสิ่งก็จะเริ่มแปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ฉากหลังเริ่มสวยงามแฟนตาซีหลุดโลกมากขึ้น เอฟเฟกต์สกิลท่าไม้ตายธาตุต่างๆเริ่มอลังการมากขึ้น สงครามการสู้รบปะทะกันระหว่างสัตว์อสูรร่างยักษ์ก็จะเวอร์วังบันเทิงยิ่งกว่าเดิม รวมไปถึงอาการกระตุกเฟรมเรตตกตอนเดินสำรวจและขณะต่อสู้ทั้งหลายแหล่ที่เคยรบกวนจิตใจก็จะค่อยๆลดน้อยลงไปด้วย (แต่ไม่หายขาดนะ) ดังนั้นถ้าใครไม่อยากพลาดของดีของเด็ดก็ต้องอดทนทำใจร่มๆใจเย็นๆเดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง
ฝั่งดนตรีประกอบนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราชอบในไฟนอลฯภาคนี้ เพราะทุกท่วงทำนองที่พวกเขาเลือกมาล้วนถ่ายทอดอารมณ์ชวนให้ผู้เล่นลุ้นเตรียมรับบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ว่าเป็นฉากปรากฎกายของบอสใหญ่ที่ทำเอาขนลุกชูชันหรือฉากอสูรปะทะกันที่เล่นเพลงบรรเลงใหญ่จนเรานั่งแทบไม่ติด โดยลักษณะดนตรีในฉากต่อสู้ส่วนใหญ่จะมาในแนวปลุกใจให้ฮึกเหิมมอบความหวังแก่ผู้เล่นว่า ในท้ายที่สุดแล้วเราจะสามารถฟันฝ่าเอาชนะอุปสรรคใหญ่หลวงที่อยู่ตรงหน้าไปได้ มิได้ออกแนวกดดันให้ผู้เล่นลุ้นระทึกเหงื่อแตกแบบเพลงตีมประกอบของเซฟิรอธหรอกนะ ซึ่งก็ตรงตามคอนเซปต์หลักของภาคนี้ที่เน้นเล่นสบายๆเข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน
ไฟนอลแฟนตาซี 16 จัดว่าเป็นอีกหนึ่งภาคที่มีกลิ่นอายความเป็นตะวันตกสูงและชัดมาก ดั่งจะได้เห็นจากหลายฉากการต่อสู้ที่แทงกันเลือดสาดนองพื้นกระเซ็นเปรอะเปื้อนใบหน้าตัวละครจนแทบเป็นเรื่องปกติ รวมถึงมีฉากเลิฟซีนคลายกำหนัดแบบดูดดื่มในที่ลับตาเลียนแบบซีรีส์-ภาพยนตร์ของฝรั่ง ซึ่งเรื่องนี้เราไม่ติดอะไรนักตรงข้ามกลับชอบเสียด้วยซ้ำ หากจะติดก็ติดตรงแค่เรื่องดีไซน์ตัวละครต่างๆภายในเกมที่มีทรงผมหน้าตาถอดแบบกันมาจากแม่พิมพ์เดียวกันหมดเหมือนตัวละครอวตาร์ที่เกิดจากการกดสุ่มแรนด้อมขึ้นมา กับเรื่องดีไซน์การออกแบบไซด์เควสต์ภายในเกมที่เน้นเดินตระเวนส่งของสไตล์ MMO เท่านั้นเอง ทำไงได้ละก็คุณ "นาโอกิ โยชิดะ" โปรดิวเซอร์เกมนี้ในอดีตเขาเคยทำเกม Final Fantasy XIV มาก่อนนี่นา
สำหรับเนื้อหาความยาวของเกม FFXVI จะอยู่ที่ประมาณ 35 - 40 ชั่วโมง นับรวมทั้งตอนเล่นจริงกับฉากมูวี่คัตซีนคั่นกลางเข้าไปด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าภาคนี้ทีมงานขยันใส่คัตซีนมาให้ชมกันแบบจุใจเยอะจริงๆ แค่ตัวละครยืนพูดคุยกันปกติไม่มีอะไรพิเศษยังอุตส่าห์ทำเป็นคัตซีน โดยการเล่นเคลียร์หนึ่งรอบยังไม่ถือว่าคุณจบเกมแบบครบถ้วนสมบูรณ์ 100% เพราะมันยังมีโหมด New Game + รอให้คุณวนกลับไปเล่นซ้ำใหม่ตั้งแต่ต้นอีกรอบด้วยอาวุธและไอเทมที่พกติดตัวมาจากการเล่นรอบแรก พร้อมกับปลดล็อคความยากระดับ "ไฟนอลแฟนตาซี" ที่ศัตรูจะมีความท้าทายและหลากหลายประเภทมากยิ่งขึ้น คุณต้องใช้ไหวพริบคิดวางแผนให้รอบคอบแบบเกมอาร์พีจีจะมารัวกดปุ่มเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว แถมยังมีโอกาสคราฟต์สุดยอดอาวุธที่ไม่ปรากฏในการเล่นปกติขึ้นมาใช้งานได้ด้วย เรียกว่าเป็นโหมดที่ตอบโจทย์สาวกไฟนอลฯอย่างแท้จริง
"เดิมทีนั้น Final Fantasy XVI ตัวเกมมันมีขนาดใหญ่ถึงขั้นต้องใช้สองแผ่นบลูเรย์ แต่ปัจจุบันถูกปรับลดขนาดไซส์ย่อส่วนลงมาให้บรรจุพอในแผ่นเดียว ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลนี้หรือเปล่าที่ทำให้เกิดร่องรอยบาดแผลหลังการผ่าตัด ทั้งเรื่องปัญหาเฟรมเรตตก กราฟิกดร็อปดูแย่ในบางฉากที่ไม่สำคัญ การออกแบบเควสต์รองที่ไม่ค่อยให้ความสนใจ และอะไรอื่นๆอีกมากมาย เพียงแค่รอยแผลมันอาจไม่ได้บาดลึกร้ายแรงถึงชีวิต เล่นๆไปอาจมีบางจุดที่ชวนให้รู้สึกอึดอัดขัดใจอยู่บ้าง แต่เมื่อพิจารณาภาพใหญ่กับความสนุกอลังการแฟนตาซีที่ตัวเกมพยายามมอบให้มันก็พอชดเชยกันได้ ลองนึกดูว่าถ้าหาก สแควร์เอนิกส์ ไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องต้นทุนการผลิตแผ่นที่เพิ่มขึ้นมา ยอมใจป๋าจัดเต็มทุกฉากทุกซีนไม่ลดทอนคุณภาพ รักษามาตรฐานระดับเดียวกันหมดตั้งแต่ต้นยันจบ ตัวเกมมันจะทะยานพุ่งพรวดไปได้ไกลขนาดไหน"
| เกมเพลย์ | 9 |
| เนื้อเรื่อง | 9 |
| กราฟิก | 8 |
| เสียง | 9 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 9 |
| ภาพรวม | 8.8 |
ข้อดี: เป็นไฟนอลฯภาคที่เล่นสบายเข้าถึงง่ายสุดๆ, ดนตรีประกอบชวนฮึกเหิมปลุกใจนักสู้, เสียงพากย์ตัวละครดีเยี่ยมทั้งญี่ปุ่น-อังกฤษ, สกิลเวอร์วังพลังมีให้เลือกใช้สลับเปลี่ยนได้หลากหลาย, เสื้อผ้าอาวุธช่วงหลังอย่างเท่อย่างหล่อ, ฉากต่อสู้ปะทะกันระหว่างอสูรทำเอานั่งไม่ติด, เรื่องราวเข้มข้นปนดราม่าบีบคั้นอารมณ์, ทั้งนมทั้งเลือดเลิฟซีนจัดเต็มดุเด็ดเผ็ดมันส์ และยังมีความสนุกท้าทายให้เล่นต่อหลังจบเกม
ข้อเสีย: ไซด์เควสต์เน้นพาทัวร์เดินส่งของแบบเกม MMO, ดีไซน์ตัวละครใช้ซ้ำจนบางครั้งสับสนไหนตัวหลักไหน NPC, ศัตรูบางชนิดตีนานแต่ให้ค่าประสบการณ์จึ๋งเดียว, ปัญหาเฟรมเรตดร็อปร่วงหล่นเป็นพักๆ และเก็บงานไม่ค่อยละเอียดบางจุดบางฉากดูไม่งามตาเอาเสียเลย
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ Sony Interactive Entertainment (SIE)
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
