การกลับมาของตำนานแฟรนไชส์ผู้บัญญัติแนวเกมชูตติ้งพัซเซิล ที่ถูกปรับโฉมภาพกราฟิกใหม่ให้ทันสมัย แต่กลิ่นอายบรรยากาศเก่าๆยังคงเดิม
"ซิสเต็มช็อค" ชื่อนี้หลายคนอาจไม่คุ้นหูไม่เคยได้ยินมันมาก่อนเพราะตนเกิดไม่ทันหรือตอนสมัยนั้นมัวสนใจอยู่กับเกม Doom ที่เป็นกระแสกลบเกมอื่นไปเสียหมด แต่คุณรู้หรือไม่ว่ากว่าที่เกมแนวยิง FPS อาร์เขตยุคคุณปู่คุณป้าเน้นกราดกระสุนยิงเอามันส์เข้าว่าไม่ใส่ใจในตัวบทเนื้อหา จะถูกพัฒนาต่อยอดจนกลายมาเป็นเกมยิงดราม่าเข้มข้นมีการใช้ไหวพริบแก้ไขปริศนาแบบ BioShock หรือ Half-Life ในปัจจุบันได้นั้น จุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการมันก็มาจาก System Shock ตำนานยุคแรกเริ่มผู้บุกเบิกแนวเกมชูตติ้งพัซเซิลนี่เอง
เนื้อเรื่องของตัวเกมเวอร์ชันรีเมคสร้างใหม่นี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากต้นฉบับ บอกเล่ากล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตปี 2072 เมื่อแฮคเกอร์อัจฉริยะนิรนามตัวละครเอกของเกมถูกจับกุมตัวในข้อหาแฮคเจาะข้อมูลไฟล์ลับเกี่ยวกับสถานีอวกาศ Citadel Station เมื่อถูกพาตัวไปยังสถานีที่นั่นเขาได้พบกับ Edward Diego ผู้บริหารแห่งองค์กร TriOptimum Corporation ที่มาเจรจาต่อรองให้เราใช้ทักษะทำงานแลกเปลี่ยนด้วยการเขียนโค้ดปรับแต่ง SHODAN ระบบ AI สมองกลควบคุมสถานีเสียใหม่ เพื่อให้มันยกเลิกกฎระเบียบข้อบังคับด้านจริยธรรมออกไปเปิดทางให้บริษัทสามารถกอบโกยทำกำไรจากเชื้อไวรัสอาวุธชีวภาพที่แอบทดลองลับๆอยู่ในอวกาศ
พอระยะเวลาผ่านไปประมาณ 6 เดือน ตัวเอกผู้เพิ่งฟื้นตื่นขึ้นจากอาการโคม่าหลับยาวภายหลังรับการผ่าตัดปลูกถ่ายระบบประสาทระดับเกรดทหารเข้าไปในสมอง แฮคเกอร์ผู้เป็นเจ้าชายนิทรากลับพบว่าสถานีอวกาศที่เขาอาศัยอยู่ปัจจุบันมันได้แปรสภาพกลายเป็นขุมนรกไปซะแล้ว เหล่าหุ่นยนต์โดรนทั้งหลายต่างบ้าคลั่งพร้อมที่จะเข้าทำร้าย เหล่าเจ้าหน้าที่พนักงานที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์ ณ ตอนนี้ไม่กลายพันธุ์เป็นอสูรกายก็ถูกจับดัดแปลงเป็นหุ่นไซบอร์กไปจนเกือบหมด ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นผลพวงมาจากการที่ตัวเอกเข้าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขระบบสมองกลของสถานี และมีเราผู้เป็นแฮคเกอร์หนึ่งเดียวบนยานลำนี้เท่านั้นที่สามารถหยุดยั้งมหันตภัยก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป
ถึงแม้มันจะเป็นเกมแนว FPS ที่มีคลังปืนคลังอาวุธระยะประชิดให้ได้เลือกใช้ฆ่ากำจัดศัตรู แต่ภายในเกมนั้นคุณจะไม่ได้เดินหน้ากราดกระสุนยิงอย่างเมามันส์หรอกนะ เพราะเวลาส่วนใหญ่ของคุณจะหมดไปกับการเดินสำรวจฉากเก็บวัตถุสิ่งของ แก้ปริศนาพัซเซิลเพื่อเปิดทางไปต่อ รวมถึงแฮคเจาะระบบคอมพิวเตอร์ที่เราต้องคอยบังคับยานบินยิงทำลายอุปสรรคต่างๆในโลกไซเบอร์สเปซสามมิติ เรียกได้ว่าทีมพัฒนาอัดใส่พัซเซิลมาเยอะจนถึงขั้นปวดหัวไมเกรนถามหาเลยเชียวละ ซึ่ง ณ ตรงจุดนี้หากใครรู้สึกว่าปริศนาในเกมมันวุ่นวายน่ารำคาญเกินไป ก็สามารถเลือกปรับลดระดับความยากของมันลงได้ก่อนกดสตาร์ทเริ่มเกม
ด้วยเป้าประสงค์ของทีมงานผู้สร้างที่ต้องการคงเสน่ห์ความคลาสสิคของเกมเพลย์ต้นฉบับเอาไว้ให้มากที่สุด พวกลูกเล่นกลไกและฟีเจอร์สมัยใหม่ที่กลายเป็นมาตรฐานของบรรดาเกมยิงยุคปัจจุบันจึงไม่มีปรากฏให้ได้เห็นเลยสักอย่างภายในเกมนี้ ยกตัวอย่างเช่น การกระโดดข้ามแพลตฟอร์มที่เราต้องกะระยะให้พอดีเพราะไม่มีกลไกเกาะปีนป่ายคอยช่วยเหลือ กะพลาดทีแม้ตัวเราห่างจากขอบเพียงแค่หนึ่งเซนฯก็มีสิทธิ์ร่วงได้, เวลาลงบันไดก็เชื่องช้าไม่ทันใจเพราะไม่มีระบบรูดไถตัวลงมา, จุดเช็คพอยท์ก็ไม่ขยันอัปเดตต้องคอยกดเซฟเองบ่อยๆ บางทีแก้ปริศนาตรงนี้เสร็จแล้วขยับเดินไปอีกสองสามก้าวเจอศัตรูฆ่าตาย พอเกิดใหม่ก็ต้องย้อนกลับไปแก้ปริศนาเก่าตรงที่เดิมอีกรอบ หรือว่าการจะกระโดดให้สูงขึ้นอีกนิดยังต้องอาศัยปุ่ม Ctrl ย่อตัวช่วยอยู่เลยเป็นอะไรที่โคตรโบราณคร่ำครึเอามากๆ แล้วนับประสาอะไรกับ AI ของพวกศัตรูภายในเกม ที่พอเจอหน้าเราหากไม่ยืนนิ่งก็พุ่งตรงดิ่งเข้าหา มีแค่สองอย่างเท่านั้นเอง
ในตอนแรกที่เปิดเกมขึ้นมานั้น เชื่อว่าหลายคนคงตกใจกับภาพกราฟิกที่ได้เห็น รู้สึกสงสัยว่ารีเมคยังไงทำไมพิ้นผิวเท็กซ์เจอร์ถึงแตกเบลอแลดูเป็นเหลี่ยมหยักไม่คมชัดเหมือนเกมปัดฝุ่นทำใหม่ในสมัยนี้ เหตุผลแท้จริงแล้วการ์ดจอของคุณไม่ได้พัง อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ของคุณไม่ได้มีปัญหา หรือลืมอัปเดตเฟิร์มแวร์แต่อย่างใด เนื่องจากนี่เป็นความตั้งใจของทีมผู้สร้างที่ต้องการรักษาสไตล์ภาพเม็ดพิกเซลแบบดั้งเดิมเอาไว้แล้วไปเน้นเอฟเฟกต์แสงเงาให้สมจริงแทน ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นภาพกราฟิกสไตล์โมเดิร์นคลาสสิคที่มีทั้งความสวยงามและชวนหวนรำลึกความหลัง ซึ่งเราว่ามันก็ดูเก๋ดูเท่ไปอีกแบบดีอะนะ หากไม่ติดปัญหาเรื่องมองแยกไม่ออกระหว่างกำแพงผนังกับประตู หรือวัตถุสิ่งของกับฉากหลังสภาพแวดล้อม เพราะทุกสิ่งล้วนเป็นก้อนเหลี่ยมๆกลมกลืนกันไปหมดเลย
สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรานำมาใช้ทดสอบรันตัวเกมนั้น ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทางค่าย AMD สเปคภายในประกอบไปด้วย ซีพียู AMD RYZEN 5 5500, เมนบอร์ด ASUS TUF GAMING A520M-PLUS, การ์ดจอ ASUS TUF RX 6500 XT GAMING 4GB GDDR6, แรม G.SKILL SNIPER-X 16GB BUS3600 และติดตั้งเกมลงบนหน่วยความจำ SSD M.2 WD ขนาดความจุ 500GB
จากสเปคที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ตัวเกมแนะนำ Recommend โดยทั่วไปแล้วสามารถเปิดสุดแล้วเล่นได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรให้วุ่นวาย ทว่าอย่างไรก็ตาม เกมนี้มันกลับมีสิ่งหนึ่งที่คุณต้องคำนึงถึงและควรเข้าไปปรับก่อนเป็นอันดับแรกนั่นคือเมนูออพชั่น Resolution Scaling ที่ถูกเซตไว้ที่ 100% มาให้ตั้งแต่ต้น ซึ่งสูบกินทรัพยากรเพิ่มภาระให้กับเครื่องเกินความจำเป็น ส่งผลให้เกิดอาการเฟรมเรตร่วงดร็อปแม้คุณจะเลือกภาพกราฟิกระดับกลาง Medium หรือปรับต่ำสุด Low ก็ยังกระตุก ฉะนั้นเพื่อตัดปัญหาเราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนเข้าไปปรับตรงส่วน Resolution Scaling ลดมันลงมาให้เหลือสัก 50% เพียงเท่านี้ทุกสิ่งก็จะกลับมาเป็นปกติสามารถปรับภาพกราฟิกขั้นสุดระดับ Ultra เล่นได้ลื่นๆเฟรมเรตพุ่งทะลุเกิน 100fps แล้วละ
"ในปัจจุบันคำว่า 'รีเมค' มันคงหมดยุคแล้วกับการแค่หยิบเอาเกมเก่ามาปรับปรุงภาพกราฟิกใหม่ เพราะสมัยนี้นอกจากกราฟิกที่สวยสมจริงขึ้นแล้ว เกมเพลย์มันต้องทันสมัยตามยุคที่เปลี่ยนไปด้วย ซึ่งการที่ทีมผู้พัฒนาเกม System Shock ฉบับรีเมคยังคงยึดติดอยู่กับกรอบความคิดแบบเดิมๆโดยไม่สนใจคอเกมรุ่นใหม่ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดน่าเกลียดอะไร เพียงแต่มันจะทำให้เกมของคุณขายได้ในวงจำกัดแค่เฉพาะกลุ่มตลาดผู้เล่นรุ่นเก่าๆวัยแย้มฝาโลงที่ ณ เวลานี้เริ่มเหลือน้อยร่อยหรอลงไปทุกที..."
เกมเพลย์ | 7 |
กราฟิก | 7 |
เนื้อเรื่อง | 7 |
Performance | 8 |
ภาพรวม | 7.3 |
ข้อดี: พล็อตเรื่องวางมาดีน่าตามติด, ปริศนาแต่ละอย่างค่อนข้างท้าทาย, ความยากเลือกได้ละเอียดหลายระดับ, Optimize มาเยี่ยมเล่นได้ลื่นไหลไม่กินสเปคพีซี (หากเข้าไปปรับตามที่บอกไว้) และบรรยากาศความคลาสสิคที่ทำให้รำลึกถึงอดีต
ข้อเสีย: เกมเพลย์ดูเก่าแก่โบราณสมัยพระเจ้าเหา, พัซเซิลเยอะเกิ๊นทางเดินก็ลึกลับดั่งเขาวงกต, จุดเช็คพอยท์อยู่ห่างต้องหมั่นกดเซฟเองบ่อยๆ, กราฟิกสไตล์พิกเซลเหลี่ยมหยักมองอะไรไม่ค่อยชัดแยกวัตถุลำบาก และ AI ศัตรูที่สุดแสนกากไม่ชวนให้หัวใจสูบฉีด
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท PLAION
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*