แนวเกม ออนไลน์ PvP ฟรีทูเพลย์
ระบบ PS5, Xbox Series, PC
เรตเกม: T เหมาะสำหรับผู้เล่นวัย 13 ปีขึ้นไป
เกมแอ็คชั่นสงครามสู้รบฟรีทูเพลย์ของเหล่าอัศวินยุคกลาง ที่เน้นปริมาณความเยอะของผู้เล่นเป็นหลัก พร้อมกับชูจุดขายจากความโกลาหลวุ่นวายในสมรภูมิ
สำหรับ Warlander นั้นเป็นเกมแนวแอ็คชั่นแฮคแอนด์สแลชออนไลน์มัลติเพลย์เยอร์มุมมองบุคคลที่สาม ถูกพัฒนาโดยทีมงาน Toylogic บอกเล่าการทำศึกสงครามระหว่างเหล่านักรบในตีมยุคกลางแฟนตาซี ซึ่งตัวเกมได้เริ่มเปิดให้บริการดาวน์โหลดเล่นฟรีไปก่อนหน้านี้แล้วบนเครื่องพีซีเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และล่าสุดก็ถึงคราวที่ชาวคอนโซลทั้งหลายจะได้สัมผัสมันเสียที
ตัวเกมจะให้ผู้เล่นได้สร้างตัวละครจาก 3 คลาสอาชีพที่มีให้เลือก ได้แก่ Warrior สายนักรบผู้ถนัดใช้ดาบฟาดฟันสลับกับยกโล่ขึ้นมาป้องกันบล็อกการโจมตี, Mage สายจอมขมังเวทย์เน้นร่ายคาถาธาตุโจมตีศัตรูจากระยะไกล และสุดท้าย Cleric พระนักบวชสายซัพพอร์ตที่คอยฮีลให้แก่เพื่อนร่วมทีม โดยในเกมเราจะได้ลองหมดทุกคลาสเพราะมีช่องสล็อตตัวละครว่างมากมายพอที่จะสร้างกองทัพส่วนตัวได้เลย และถึงแม้ว่าแต่ละคลาสจะมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างอย่างชัดเจน แต่ตัวเกมก็ยืดหยุ่นมอบอิสระให้ผู้เล่นปรับแต่งอาวุธและสกิลตัวละครได้ตามใจชอบ เช่น ต่อให้เป็นนักบวชสายฮีลก็สามารถถือค้อนไล่ทุบระยะประชิดหรือเปลี่ยนอาวุธหลักเป็นหน้าไม้ ทั้งฮีลและยิงจากระยะไกล ได้อะไรแบบนี้
กติกาการเล่นจะแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝั่งสองทีม เปิดศึกปะทะต่อสู้แข่งขันกันว่าใครจะสามารถยกพลบุกทะลวงปราสาทเข้าไปทำลาย Core ของฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนกัน ฟังดูเหมือนจะธรรมดาเข้าใจง่ายนะ ทว่าเวลาเล่นจริงกลับค่อนข้างซับซ้อนน่าปวดหัวอยู่พอสมควร เพราะมันไม่ใช่แค่การเดินหน้าลุยไปตีเฉยๆ แต่คุณกับเพื่อนๆต้องช่วยกันผลักช่วยกันดันเครื่องกระทุ้งประตูเมืองเพื่อใช้พังด่านประตูฝ่ายตรงข้าม บางครั้งอาจต้องวาร์ปย้อนกลับฐานเกิดไปสร้างเครื่องยิงคาตาพัลต์เพื่อช่วยถล่มอีกแรง ขณะที่ฝ่ายศัตรูเองก็ต้องปีนกำแพงขึ้นไปซ่อมแซมป้อมปืนธนูยิงขัดขวางผู้รุกราน แถมยังมีระบบเรียกใช้ภัยพิบัติร้ายแรงอย่างเช่นพายุ อุกกาบาต หรือหุ่นยนต์ยักษ์มาช่วยทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามอีก คือคุณต้องลงมือทำทุกอย่างทั้งรุกและรับในแมตช์ๆเดียว ถึงแม้ช่วงแรกตัวเกมจะบรีฟสรุปสอนพื้นฐานทั้งหมดมาให้คร่าวๆแล้ว แต่เชื่อเหลือเกินว่าแมตช์แรกเมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์จริงที่ทุกสิ่งเกิดขึ้นพร้อมกันสุดชุลมุนวุ่นวาย โดยไม่มีเส้นประ ปักหมุด หรือเครื่องหมายชี้นำทางใดๆ คุณจะไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรได้แค่ยืนงงหยุดนิ่งแล้ววิ่งเข้าไปตายฟรีเหมือนกับผม
ด้านโหมดที่มีให้เลือกในช่วงเริ่มเปิดให้บริการจะมีให้เล่นอยู่เพียงแค่สองโหมด ได้แก่ Two Army Battle โหมดสงครามขนาดย่อมที่แบ่งผู้เล่น 40 คนออกเป็นสองฝั่งต่อสู้กัน กับ Five Army Battle โหมดสงครามขนาดใหญ่มหึมาจุผู้เล่นพร้อมกัน100 คน โดยแบ่งออกเป็นห้าทีมห้าสีที่ต่างฝ่ายต่างต้องต่อสู้กันเองเพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งคล้ายๆกับศึกแบทเทิลรอยัล ซึ่งต้องขอบคุณฟีเจอร์ Cross-platform ที่เปิดโอกาสให้ชาวพีซีและชาวคอนโซลสองค่ายดังสามารถเล่นแจมด้วยกันได้ มันจึงช่วยให้ตัวเกมดูคึกคักไม่เงียบเหงามีคนออนไลน์พร้อมไฝว้กับคุณอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าชื่อเสียงเรียงนามของมันจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักก็ตาม
ระบบความคืบหน้าของเกมนี้มีลักษณะคล้ายเกมแนวอาร์พีจีที่คุณยิ่งเล่นมากเท่าไหร่ ตัวละครของเราก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น เพราะทุกครั้งหลังจบแมตช์จะมีการสุ่มเครื่องประดับชุดเกราะมาให้เป็นของรางวัล อาจเป็นหมวกเหล็กใหม่ เกราะลำตัว เกราะแขน เกราะขาใหม่ ที่บัฟช่วยเพิ่มค่าสถานะด้านต่างๆให้กับตัวละคร มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความแรร์หายากของอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ ซึ่งความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมนี้เองพอไปอยู่ในศึกสงครามขนาดใหญ่ผู้เล่นจำนวนมากมันกลับทำให้เกมดูสมดุลอย่างน่าประหลาด เนื่องจากคุณจะได้พบปะเจอศัตรูหลายระดับทั้งที่เทพเก่งกว่าและอ่อนด้อยกว่าคุณเหมือนเวลาไปสู้ในสนามรบชีวิตจริง ฉะนั้นถ้าใครอยากเก่งอยากโดดเด่นในสมรภูมิก็ต้องฝึกฝนพัฒนาตัวเองด้วยการนั่งเล่นมันบ่อยๆ
งานด้านภาพของเกมจะเป็นสไตล์สามมิติที่ออกแนวการ์ตูนนิดๆหน่อยๆ กล่าวคือมันจะไม่ดุเดือดเลือดสาดโหดเรียลสมจริงแบบ For Honor แต่ในขณะเดียวกันมันก็ไม่การ์ตูนจ๋าง้องแง้งแบ๊วใสแบบ Happy Wars เหมือนเป็นอะไรที่อยู่ตรงกึ่งกลางหยิบเอาข้อดีของเกมทั้งสองมาผสมผสานกันอย่างละครึ่ง แต่เป็นเกมลูกครึ่งฉบับงบน้อยต้นทุนต่ำน่ะนะ เพราะไม่ได้มุ่งเน้นความสวยงามทางด้านภาพกราฟิกอะไรนักแค่พอไปวัดไปวาได้เท่านั้น แถมอินเตอร์เฟสเวลากดเข้าเมนูปรับแต่งต่างๆก็ชวนดูสับสนใช้งานยุ่งยากอีกต่างหาก
ตัวเกมนั้นมีระบบ Season Pass เล่นเพื่อปลดล็อคของรางวัลประจำซีซั่น มีทั้งของรางวัลแบบแจกฟรีและของรางวัลระดับพรีเมียมที่ต้องเสียเงินอัปเกรด รวมไปจนถึงระบบร้านค้า Shop ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ใช้เงินในเกมและเงินจริงเอาไปซื้อหาไอเทมอุปกรณ์เครื่องประดับมาตกแต่งตัวละคร บางชิ้นเป็นแค่ไอเทม Cosmetic มอบความสวยงามกิ๊บเก๋ยูเรก้าเพียงอย่างเดียว ในขณะที่บางชิ้นสามารถบัฟเพิ่มค่าพลังให้กับตัวละคร หากถามว่าสรุปแล้วมันเป็นเกม Pay-to-win หรือเปล่า? เราบอกได้เลยว่า ใช่ แต่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับเกมฟรีทูเพลย์หิวเงินอื่นๆ เพราะอาวุธชุดเกราะเกรดดีระดับเทพ คุณสามารถหามาใช้งานได้จากการเล่นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าใครไม่ค่อยมีเวลาว่างนั่งเล่นฟาร์มก็สามารถเติมเงินซื้อแลกเอาเพื่อเซฟประหยัดเวลาได้ นั่นเอง
"หากพูดถึงเกมออนไลน์ที่อินเทรนด์ฮิตติดกระแสในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มักดำเนินตามรอยคล้ายๆกัน นั่นคือเน้นเล่นง่ายเข้าไว้ มีเป้าหมาย Objective ในฉากเพียงแค่หนึ่งถึงสองอย่างก็พอ แล้วค่อยไปใส่ใจรายละเอียดเยอะตรงลูกเล่นของฉากหรือสกิลความสามารถของตัวละครแทน แต่สำหรับ Warlander แล้วพวกเขากลับมาแปลกเลือกทำในสิ่งสวนทางตรงกันข้าม เน้นภารกิจเยอะเข้าว่า เดี๋ยวต้องไปยึดจุดรีสปอว์น เดี๋ยวต้องไปดันเครื่องกระทุ้งพังประตู เดี๋ยวต้องปีนบันไดไปบังคับป้อมปืน ซ่อมนั่นซ่อมนี่จิปาถะไปเรื่อย ขณะที่สกิลตัวละครของผู้เล่นถูกจำกัดทำได้แค่ยิงไกลสลับกับตีใกล้เท่านั้น ทุกอย่างมันเลยไม่คลิกไม่น่าดึงดูดชวนให้ติดใจอยากกลับมาซ้ำ กลายเป็นเกมออนไลน์สายขยันฟาร์มที่พอเล่นแค่รอบเดียวคุณก็รู้สึกหมดไฟอยากลบทิ้งเปลี่ยนไปเล่นเกมอื่นแล้ว"
เกมเพลย์ | 6 |
กราฟิก | 7 |
เสียง | 7 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 6 |
ภาพรวม | 6.5 |
ข้อดี: แมตช์หนึ่งจุคนได้เยอะดูชุลมุนวุ่นวายดี, มีเพื่อนออนไลน์พร้อมเล่นกับคุณตลอดเวลา และเป็นเกมฟรีทูเพลย์ที่ไม่มีปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างสายฟรีกับสายเติม
ข้อเสีย: คลาสตัวละครมีให้เลือกน้อยนิด, โหมดการเล่น ณ ตอนนี้ยังไม่ค่อยหลากหลาย, ภารกิจทลายกำแพงตีป้อมไม่น่าสนใจ, เกมเพลย์ซ้ำซากชวนเบื่อไวมาก, กราฟิกดูธรรมดางั้นๆไม่รู้สึกว้าว, ดีไซน์ไอเทมของตกแต่งกลมกลืนกันไปหมด, อินเตอร์เฟสเมนูออกแบบมาใช้งานลำบาก และเน้นความโกลาหลซะจนเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท PLAION
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*