xs
xsm
sm
md
lg

Review: Mario + Rabbids Sparks of Hope ลุงหนวด ก๊วนต่าย ตะกายดาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แนวเกม : เทิร์นเบส, อาร์พีจี, แอ็คชันผจญภัย
ผู้พัฒนา : ยูบิซอฟต์
แพลตฟอร์ม: นินเท็นโด สวิตช์
เรตเกม E10+ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 10 ปีขึ้นไป


มาริโอและเหล่ากระต่ายจอมป่วนกลับมาแท็กทีมกันอีกครั้งในเกมคอลแลปส์ภาคต่อที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างค่ายเกมฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก เกิดเป็นความสนุกที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ

"Mario + Rabbids Sparks of Hope" เล่าเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก หลังจากที่มาริโอและเหล่าแรบบิดช่วยเหลืออาณาจักรเห็ดได้สำเร็จ ทุกคนก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จนกระทั่งเคอร์ซา (Cursa) ผู้เป็นตัวตนระดับคอสมิกปรากฎตัวขึ้นหมายจะกลืนกินพลังงานทั้งหมดในจักรวาล และทำให้ทั้งกาแล็กซีตกอยู่ในความโกลาหล เคอร์ซาได้ส่งสมุนออกตามล่าสปาร์คส (Sparks) ที่กระจัดกระจายอยู่ตามดาวเคราะห์ต่าง ๆ มาริโอและผองเพื่อนพร้อมด้วยเหล่าแรบบิดจึงต้องออกเดินทางสู่อวกาศเพื่อช่วยเหลือเหล่าสปาร์คสก่อนที่จักรวาลนี้จะสูญสิ้น

เคอร์ซา (Cursa) บอสใหญ่ของเกม

ออกเดินทางท่องจักรวาลเพื่อช่วยเหลือเหล่าสปาร์คส (Sparks)
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนอย่างแรกก็คือกราฟิกที่สวยขึ้นกว่าภาคก่อน แม้จะไม่ได้พัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่เท็กเจอร์ของตัวละครและฉากมีความคมชัดมากขึ้น แสงและเงาดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประหนึ่งว่าทีมพัฒนาสามารถใช้ Snowdrop Engine รีดศักยภาพของเครื่องนินเท็นโด สวิตช์ ออกมาได้อย่างหมดจด ขณะที่เพลงประกอบได้คุณแกรนท์ เคิร์กโฮป นักประพันธ์เพลงวิดีโอเกมชื่อดังชาวอังกฤษที่เคยฝากผลงานไว้ในเกมภาคแรก กลับมารังสรรค์ผลงานร่วมกับคุณโยโกะ ชิโมมูระ นักประพันธ์ชาวญี่ปุ่นระดับตำนาน และคุณแกเร็ธ โคเกอร์ นักประพันธ์เพลงวิดีโอเกมที่คว้ารางวัลมาแล้วมากมาย ทำให้เราได้ฟังเพลงประกอบสุดไพเราะที่แสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะของดาวแต่ละดวง รวมถึงเพลงประกอบสุดเร้าใจในฉากต่อสู้ แต่จุดที่น่าเสียดายก็คือเสียงพากย์ที่ไม่ได้เป็นแบบ Full Voice จะมีเฉพาะบางคำหรือบางประโยคเท่านั้น ซึ่งทำให้อรรถรสในการเล่าเรื่องถูกลดทอนลงไป

กราฟิกดีขึ้นกว่าภาคแรก

มีเสียงพากย์เฉพาะบางตัวละครหรือบางประโยคเท่านั้น
ด้านเกมเพลย์จะมีความคล้ายคลึงกับภาคแรก เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบแผนที่จากการเล่นเป็นเส้นตรง มาเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เราสามารถเดินสำรวจได้ ซึ่งในฉากจะมีทั้ง NPC สำหรับรับเควสต์ ศัตรูที่เดินเพ่นพ่านไปมา เหรียญหรือไอเทมที่ซ่อนไว้ รวมถึงดันเจี้ยนและเส้นทางลับให้เราได้ค้นหา ทำให้ตัวเกมดูมีความเป็นอาร์พีจีมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายความสร้างสรรค์ของลูกเล่นต่าง ๆ ตามสไตล์เกมมาริโอ

แผนที่กว้างให้เดินสำรวจ

ปักหมุดจุดรับเควสต์ต่าง ๆ ไว้แล้ว
เป้าหมายหลักที่เราต้องทำในดาวแต่ละดวงคือการรวบรวม Purified Darkmess Energy Crytal จำนวน 2 ชิ้น จากการกำจัด Darkmess Tentacle เพื่อเปิดเส้นทางวาร์ปไปยังดาวถัดไปจนถึงที่อยู่ของ เคอร์ซา บอสใหญ่ของเกม ซึ่งเราจะมุ่งเน้นทำแต่เควสต์หลักอย่างเดียว หรือจะเลือกแวะข้างทางทำเควสต์รอง สำรวจดาวให้ทั่ว เก็บความลับให้ครบก่อนไปดาวดวงใหม่ก็ได้ ถ้าเลือกแวะข้างทางก็จะมีโอกาสได้รับเหรียญเฉพาะของดาวดวงนั้น เพื่อนำไปแลกอาวุธใหม่หรือไอเทมพิเศษ รวมถึงอาจได้พบกับสปาร์คสตัวใหม่ที่จะไม่ได้เจอตามเนื้อเรื่อง และไม่ต้องกังวลว่าเราจะพลาดเควสต์หรือเก็บความลับไม่ครบ เพราะบนแผนที่จะปักหมุดจุดรับเควสต์ต่าง ๆ เอาไว้ และแสดงเปอร์เซ็นต์ความก้าวหน้าการสำรวจแยกตามดาวแต่ละดวง ถ้าขยันเล่นยังไงก็เก็บครบ 100% แน่นอน

Darkmess Tentacle เป้าหมายหลักที่ต้องพิชิต

ไขปริศนาเพื่อรับเหรียญประจำดาว

อยากเก็บความลับให้ครบดูได้ที่หน้านี้
เมื่อเราเดินชนศัตรูจะตัดเข้าสู่ฉากต่อสู้ โดยระบบต่อสู้ยังคงเป็นแนววางกลยุทธ์แบบสลับฝั่งกันเดินเหมือนภาคแรก แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนก็คือเราสามารถบังคับตัวละครให้เดินไปมาได้อิสระ (ภายในระยะการเดินของตัวละครนั้น) ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการวางแผนอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถบังคับลุยจิให้มาช่วยมาริโอทำ Team Jump ส่งมาริโอร่อนข้ามเหวหรือพื้นที่ต่างระดับ แล้วค่อยบังคับลุยจิกลับไปดักโจมตีศัตรูอีกทาง หรือบังคับให้ทุกตัวละครมายืนใกล้แรบบิดพีชเพื่อใช้สกิลรักษาหมู่ แล้วค่อยบังคับทุกตัวละครกลับไปยืนตำแหน่งเดิม ในขณะที่ภาคแรก ถ้าบังคับให้ตัวละครเดินไปแล้วก็จะไม่สามารถเดินต่อได้อีก ทำให้ต้องวางแผนการเดินอย่างรอบคอบ

เดินได้อิสระภายในระยะการเดินของตัวเอง

ช่วยให้วางแผนการเคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น
อีกหนึ่งระบบที่เพิ่มเข้ามาคือเหล่าสปาร์คสที่มาพร้อมสกิลต่าง ๆ ซึ่งจะได้รับมาตามเนื้อเรื่องหรือทำเควสต์รองในดาวแต่ละดวง โดยแต่ละตัวละครจะสามารถติดตั้งสปาร์คสได้สูงสุด 2 ตัว (หนึ่งทีมมี 3 ตัวละคร รวมเป็น 6 ตัว) ซึ่งสปาร์คสแต่ละตัวจะมี Active Skill และ Passive Skill ที่ไม่เหมือนกัน ตั้งแต่เพิ่มพลังให้กับตัวละคร เสริมพลังธาตุให้กับอาวุธ เรียกอุกกาบาตมาถล่มศัตรู ฯลฯ ทำให้เราสามารถผสมผสานแผนการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ และยังสามารถอัปเกรดด้วย Star Bit หรือ Star Potion เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของสกิลได้อีกด้วย

ติดตั้งสปาร์คที่ชอบได้ตามต้องการ

อัปเกรดเลเวลด้วย Star Bit หรือ Star Potion

สกิลหลากหลาย ช่วยพลิกสถานการณ์
ในส่วนของตัวละคร ภาคนี้ได้เพิ่มตัวละครใหม่อย่าง เอดจ์, แรบบิดโรซาลินา และบาวเซอร์ เข้ามาเสริมทัพ พร้อมเปลี่ยนอาวุธของตัวละครเดิมทั้งหมด จากเดิมในภาคแรกอาวุธของหลายตัวละครจะรูปแบบการโจมตีคล้าย ๆ กัน มาในภาคนี้ได้ปรับเปลี่ยนอาวุธของแต่ละตัวละครให้มีความเฉพาะตัวมากขึ้น เช่น มาริโอใช้ปืนคู่ทำให้ยิงศัตรูได้สองตัวพร้อมกัน (หรือจะยิงศัตรูตัวเดียวสองครั้งก็ได้) แรบบิดพีชใช้ปืนจรวดนำวิถีทำให้ลดโอกาสยิงติดที่กำบัง หรือแรบบิดลุยจิใช้จานร่อนโจมตีชิ่งใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้กันได้ นอกจากนี้ยังมี Skill Tree และสกิลติดตัวที่ช่วยให้เราสามารถกำหนดสายการเล่นของตัวละครได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้การจัดทีมมีความหลากหลายยิ่งกว่าเดิม และไม่ต้องกังวัลปัญหาการเก็บเลเวลตัวใดตัวหนึ่ง แล้วตัวอื่นจะมีเลเวลน้อยไม่ทันเพื่อน เพราะทุกตัวละครจะได้รับค่าประสบการณ์เท่ากันแม้ไม่ได้ลงสู้ หมายความว่าทุกตัวละครจะมีเลเวลและแต้มสกิลเท่ากันเสมอ จะหยิบตัวละครตัวไหนมาเข้าทีมเมื่อไรก็ได้ ไม่ต้องกลับไปฟาร์มเลเวลให้เสียเวลา

หนึ่งทีมมี 3 ตัวละคร เปลี่ยนตัวได้ตลอดเวลา (ยกเว้นตอนสู้)

อัปเกรดสกิลตามสายการเล่นที่ชอบ ไม่พอใจก็รีเซ็ตแต้มสกิลใหม่ได้

อาวุธมีรูปแบบการโจมตีแตกต่างกัน เพิ่มความหลากหลายในการเล่น
ถึงดูเผิน ๆ จะเหมือนเล่นยาก แต่เอาเข้าจริงเล่นง่ายกว่าที่เห็น ด้วยระบบการเล่นที่ค่อนข้างยืดหยุ่นมากกว่าภาคแรก ทุกครั้งที่เจอศัตรูใหม่ก็มีไกด์บอกธาตุที่แพ้ทางหรือวิธีปราบให้ ถ้ามีเงื่อนไขการชนะที่เฉพาะเจาะจงก็มีแนะนำตัวละครที่ช่วยให้ผ่านง่ายขึ้น และถึงแม้จะไม่ได้ขยันเก็บเลเวล ไม่ได้เล่นเควสต์รอง หรือเก็บสปาร์คสไม่ครบ แค่เล่นไปตามเนื้อเรื่องเลเวลของตัวละครและสปาร์คสที่ได้มาก็พอจะเล่นให้จบเกมได้ ขอเพียงทำความเข้าใจเงื่อนไขการชนะ ตรวจสอบศัตรูที่จะต้องเจอ แล้วจัดทีมตัวละคร ปรับแต่ง Skill Tree (แต้มสกิลรีเซ็ตได้ไม่จำกัด) กับติดตั้งสปาร์คสให้เหมาะกับการต่อสู้ในฉากนั้น ๆ ก็พอ สิ่งที่ต้องระวังคือในหนึ่งเทิร์นแต่ละตัวละครสามารถทำได้แค่ 2 Action ระหว่างโจมตี ใช้สกิลสปาร์คส ใช้สกิลติดตัว หรือใช้ไอเทม หลังจากโจมตีจะไม่สามารถเดินต่อได้ และไม่มีระบบเซฟในฉากต่อสู้ แม้ตัวเกมจะเซฟให้ทุกครั้งที่เปลี่ยนแผนที่หรือกดดูหน้าเมนูตัวละครก็ตาม

ตรวจสอบเงื่อนไขการชนะและศัตรูที่ต้องเจอ

จัดทีม อัปเกรดสกิล และเลือกสปาร์คให้เหมาะก็ชนะได้ไม่ยาก
"Mario + Rabbids Sparks of Hope" ได้นำสิ่งที่เคยทำได้ดีอยู่แล้วในภาคแรกมาพัฒนาต่อยอดให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ทั้งการสำรวจไขปริศนาที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ เกมเพลย์ที่เข้าถึงง่ายพร้อมด้วยตัวช่วยมากมาย ทำให้การผจญภัยท่องอวกาศครั้งนี้เพลิดเพลินตลอดทริป แม้คุณจะไม่เคยเล่นเกมวางกลยุทธ์มาก่อน แต่ถ้าอยากลองสัมผัส อยากลองท้าทายความคิดและการวางแผนด้วยตัวเอง ซีรีส์ Mario + Rabbids คือตัวเลือกที่ดีในการเริ่มต้นเข้าสู่โลกของเกมวางแผนที่อาจจะทำให้คุณกลายเป็นสุดยอดกุนซือโดยไม่รู้ตัว

เกมการเล่น9
กราฟิก9
เสียง9
ภาพรวม9

ข้อดี : ฉากสำรวจเพลินเหมือนได้เล่นเกมมาริโอซีรีส์หลัก, ระบบต่อสู้วางแผนเข้าถึงง่าย, มีความลับมากมายให้ค้นหาหลังจบเกม
ข้อเสีย : ศัตรูย้อมแมวค่อนข้างเยอะ,สปาร์คบางตัวแทบจะไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้, เซฟระหว่างต่อสู้ไม่ได้ ทำให้ต้องเผื่อเวลาสำหรับฉากที่เล่นนาน

สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Ubisoft


































*ขอเรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*


กำลังโหลดความคิดเห็น