แนวเกม แข่งรถแรลลี่
แพลตฟอร์ม PS5, PS4, Xbox Series, Xbox One, PC
เรตเกม PEGI: 3 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป
ภาคใหม่เกมกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่แสนอันตรายและหฤโหดที่สุดในโลก หินยิ่งกว่าเกมเรซซิ่งไหนๆในปฐพีที่คุณเคยรู้จัก โหดจนบางทีอาจถึงขั้นเล่นไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป
สำหรับ Dakar Desert Rally นั้นจริงๆแล้วมันไม่ใช่เกมแข่งรถแรลลี่ฝ่าแดนทะเลทรายที่เพิ่งถูกทำออกมาเป็นภาคแรก เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีเกมอย่าง Dakar 18 ผลิตออกมาบนเครื่อง PS4 หรือย้อนกลับไปไกลกว่านั้นในสมัยเครื่องเล่น PS2 ก็เคยมีเกมแข่งรถสุดหฤโหดที่พยายามลอกเลียนแบบรายการแข่งขันดังกล่าวออกมาให้เล่นเช่นเดียวกัน ซึ่งตัวเกมแต่ละภาคล้วนผ่านมือทีมงานผู้สร้างมาหลายหลากมากมายไม่ซ้ำหน้าต่างกรรมต่างวาระกันตามยุคสมัยที่แปรเปลี่ยนรวมถึงบริษัทผู้ถือครองลิขสิทธิ์ จนกระทั่งล่าสุดสิทธิ์ในการสร้างสรรค์ดาการ์แรลลี่ฉบับวิดีโอเกมก็ได้ตกทอดมาถึงมือค่ายผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายที่ดูพอจะมีราศีหน่อยอย่าง Saber Interactive
ตรงตามชื่อเกมนี้จะหยิบเอาบรรยากาศการแข่งขันศึก ดาการ์แรลลี่ 2022 ที่ทางสหพันธ์ยานยนต์ Amaury Sport Organisation (ASO)ได้จัดขึ้นและจบสิ้นสุดลงไปในประเทศซาอุดีอาระเบียเมื่อช่วงต้นปี มาถ่ายทอดสู่รูปแบบเกมแนวเรซซิ่งซิมูเลชั่น ซึ่งความประทับใจแรกต้องบอกเลยว่า ฉากสภาพแวดล้อมทะเลทรายที่เป็นสนามแข่งขันโอเพ่นเวิลด์ไร้รั้วกำแพงขวางกั้นกินเนื้อที่กว่า 20,000 ตารางกิโลเมตรของเกมนั้น ทำเอาเราขนลุกซู่รู้สึกว้าวเอามากๆ มันมอบความรู้สึกอิสระเสรีชนิดที่พบได้ไม่บ่อยนักในเกมแนวเรซซิ่ง เพราะคุณสามารถขับลัดเลาะไปได้หมดไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับเส้นทางราบเรียบปกติ จะขับทางวิบากเต็มไปด้วยโขดหิน จะเหินขึ้นเนินสันทรายลูกไหนก็ได้ จะเบี่ยงซ้ายออกขวาแวะตัดเข้าป่าเขาลำเนาไพร เลือกตะลุยฝ่าแอ่งน้ำ หรือขับอ้อมไปก็ย่อมได้ ขอแค่ผ่านเช็คพอยท์จุดหมายปลายทางเดียวกันนั่นก็เพียงพอ
นอกจากสเตจสังเวียนประลองความเร็วที่กว้างใหญ่ไพศาลแล้ว สภาพฝนฟ้าอากาศ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ชูให้ตัวเกมดูสมจริงระทึกตื่นเต้นน่าเล่นขึ้นไปอีก โดยทีมผู้พัฒนาได้เลือกคัดจัดมาให้ครบทั้งสี่ฤดู ไม่ว่าจะสภาพอากาศร้อนแดดจ้า ฝนตกเทกระหน่ำ หิมะร่วงหล่นโปรยปราย พายุทะเลทรายโหมซัด มีทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน เรียกได้ว่าอุปสรรคครบรสหลากหลายไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละสนาม แถมสภาพอากาศเหล่านี้ก็ยังส่งผลต่อการขับขี่และดีเทลต่างๆบนตัวรถอีกด้วย เช่น ขับฝ่าผืนทรายแห้งแล้งไปนานๆฝุ่นเริ่มจับน้ำตาลทั้งคัน ขับลุยฝนพื้นเปียกก็จะมีโคลนเหนียวเข้มติดตามล้อบอดี้ ขับลุยหิมะมีน้ำแข็งเกาะขาวโพลน หรือกระทั่งตอนขับชนก็จะเห็นกระจกแตกร้าว ประตูชิ้นส่วนหลุดหักตรงตำแหน่งที่ปะทะ ทุกอย่างดูดีไปเสียหมดยกเว้นก็เพียงแต่ ปัญหาเฟรมเรต ที่มักตกร่วงเป็นพักๆไม่สามารถรักษาคงนิ่งไว้ที่ 60fps ได้ตลอดในโหมด Performance จนผู้เล่นหลายคนต้องจำใจหันไปพึ่งโหมด Resolution แทน เพราะถึงแม้จะได้แค่ 30fps แต่มันก็นิ่งไม่กระตุกทำให้เราเสียจังหวะ
ดาการ์แรลลี่ หัวใจหลักคอนเซปต์ของมันคือการทดสอบสมรรถนะของรถยนต์เวลาที่ต้องเผชิญกับสภาพพื้นผิวภูมิประเทศสุดทรหดต่างๆนานา เป็นศึกต่อสู้กันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ซึ่งทางทีมผู้พัฒนาคงเล็งเห็นว่าการแข่งขันกับตัวเองแบบเดิมๆมันอาจดูน่าเบื่อเกินไป ในภาคนี้พวกเขาจึงได้นำเสนอโหมด Sport ใหม่เสริมเพิ่มเติมเข้ามาให้ โดยในโหมดดังกล่าวเราจะไม่ได้แข่งขันจับเวลาอยู่คันเดียว แต่จะมีเหล่าคู่แข่ง AI ถูกปล่อยตัวออกสตาร์ทไปพร้อมกับเรา ทุกคันสามารถขับเบียดไล่บี้แซงอันดับกันอย่างสนุกสนานชวนลุ้นระทึกว่าใครจะขับเข้าเส้นชัยได้เป็นคันแรก ให้อารมณ์คล้ายกับการแข่งรูปแบบสปรินท์ในเกมเรซซิ่งทั่วไป แถมเราก็ไม่ต้องมาจดจ้องมองดูสัญลักษณ์บอกทางว่าจะต้องขับไปตรงจุดไหน เพราะทุกจุดเช็คพอยท์จะถูกมาร์คตำแหน่งด้วยแท่งเสาวงกลมสีเหลืองไฮไลท์แสดงให้เห็นแบบเด่นชัด จะขับตกขอบหลุดแทร็กออกทะเลยังไงก็ไม่มีวันหลงทางอย่างแน่นอน
ถึงแม้มันจะสนุกน่าตื่นเต้นและเล่นง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก แต่โหมดกติกาการเล่นสไตล์ Sport ที่ถูกสร้างมาเพื่อเอาใจเกมเมอร์มือใหม่นี้ มันกลับแฝงจุดบอดข้อด้อยร้ายแรงที่ทำให้ทุกสิ่งพังทลายเล่นแล้วรู้สึกไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก นั่นคือเรื่องของ สมองกล AI คู่แข่งขัน ที่แต่ละคันล้วนต่างตะบี้ตะบันเหยียบใส่มิดพร้อมพุ่งเสยชนยับดับทุกชีวิตที่เข้ามาขวางเส้นทางสู่ชัยชนะของตน คือมันไม่ใช่อะ ดาการ์แรลลี่ของจริงนั้นหากพูดเปรียบเปรยมันก็เหมือนกับการแข่งขันมาราธอนที่นักวิ่งทุกคนต่างมีมารยาทให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่เบียดผลักขัดขาแกล้งกัน และพร้อมยื่นมือช่วยเหลือหากเห็นใครพลาดล้มบาดเจ็บหรือไปต่อไม่ไหว แต่นี่อะไรขับอยู่ดีๆก็มาปัดตูดเราจนหมุนติ้ว จังหวะขึ้นเนินกระโดดก็มาชนเราให้เสียหลักกลางอากาศตกลงมาคว่ำ กำลังเลี้ยวเข้าโค้งริมหน้าผาก็ดันท้ายรถเราจนตกเหว ยิ่งตอนมันขับรถคันใหญ่ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษเพราะมันจะเลี้ยวจะถอยแบบไม่ดูตาม้าตาเรือหวังฆ่าแกงกันเลยทีเดียว นี่ถ้าเจอ AI กวนส้นแบบนี้ในเกมอย่างนีดฟอร์สปีดหรือเบิร์นเอาท์เราจะไม่ปริปากบ่นเลยนะ แต่กับเกมนี้ที่ทุกการซ่อมแซมตัวรถจะถูกหักเงินในบัญชีและโดนทำโทษเวลา อันดับคะแนนร่วงหล่นทั้งๆที่มันเกิดจากการจงใจกลั่นแกล้งของคู่แข่ง ไม่ใช่อุบัติเหตุหรือความผิดของเราเลย เรื่องนี้เราไม่อาจยอมรับได้จริงๆ ให้ตายเถอะ!!!
ส่วนใครที่เป็นแฟนคลับขาประจำซีรีส์ผู้ต้องการความสมจริงและไม่อยากหัวร้อนกับพวกปัญญาประดิษฐ์ ภายในเกมก็ยังมีโหมดสไตล์การเล่นดั้งเดิมอย่าง Professional และ Simulation (ปลดล็อคเมื่อเลเวล 25) มาให้ได้เลือกเหมือนเคย ซึ่งกติกาการแข่งจะตรงตามจริงคล้ายกับเกมภาคก่อนๆ ออกสตาร์ทปล่อยรถไปทีละคันและแข่งขันหาผู้ที่ทำเวลาได้ดีที่สุด มีแค่รถยนต์ของเราคันเดียวกับฉากหลังธรรมชาติ ขับกินลมชมวิวไปโดยไม่ต้องเบียดเสียดแก่งแย่งไลน์กับใคร แต่ทว่าในโหมดนี้มันจะไม่มีแท่งเสาสีเหลืองแสดงจุดเช็คพอยท์ที่ต้องขับผ่านมาให้ดูนะ ต้องอาศัยการแกะรอยคลำหาทางกันเอาเองผ่านเข็มทิศที่บอกมุมองศากับลายเส้นยึกยือบนหน้าสมุดจด Road Book ที่เชื่อว่ามือใหม่คงไม่มีใครอ่านออก และด้วยขนาดของสนามแข่งโอเพ่นเวิลด์ที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ไม่มีรถ AI คู่แข่งให้เราได้ขับตามตูดมันไป ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายดายที่เราจะหลงเส้นทางขับเลยข้ามจุดเช็คพอยท์และถ้าพลาดบ่อยครั้งเข้าเราก็ไม่อาจเล่นจบเคลียร์สเตจนั้นได้ สุดท้ายเหล่ามือใหม่ก็ต้องเดินคอตกกลับมาเหนื่อยเพลียกับพวก AI ในโหมด Sport เหมือนเดิมเพราะยังไงซะมันก็ดีกว่าการขับแบบตาบอดไม่รู้เส้นทาง ซึ่งเรื่องนี้มันก็ช่างน่าฉงนชวนให้เราสงสัยว่าทำไมทีมงานถึงไม่ออกแบบเกมให้ผู้เล่นมีอิสระสามารถเลือก Custom ปรับแต่งประสบการณ์การเล่นจะเอาอันนั้นไม่เอาอันนี้ได้เหมือนกับที่เกมปกติอื่นๆทั่วไปเขาทำกันนะ?
ด้านพาหนะยานยนต์ที่มีให้เลือกขับจะถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลักๆ ได้แก่ รถยนต์สี่ล้อปกติ, มอเตอร์ไซค์สองล้อ, ควอดไบค์หรือ ATV, รถบรรทุกคันใหญ่ยักษ์นั่งกันได้ 3 คน และสุดท้ายรถจำพวก SSV ที่มีทรงหน้าตาคล้ายรถกอล์ฟ โดยรถแต่ละคันล้วนได้รับลิขสิทธิ์มาแบบถูกต้องจากค่ายยี่ห้อผู้ผลิตชั้นนำ อาทิ โตโยต้า มิตซูบิชิ ฮอนด้า ยามาฮ่า ฟอร์ด อาวดี้ เปอโยต์ ซีตรอง และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งหากตัวเราแข่งสะสมจนมีเงินเก็บเหลือมากพอหลังจากหักค่าซ่อมแซมจิปาถะแล้ว ก็สามารถเข้าไปที่โชว์รูมเพื่อสอยถอยรถคันใหม่มาขับได้เลย หรือถ้าใครเงินน้อยจ่ายไม่ไหวจะแบมือขอรอรับแต่รถยนต์แจกฟรีจากเหล่าสปอนเซอร์อันเป็นของรางวัลตอบแทนเมื่อแข่งชนะ ก็ย่อมได้เหมือนกัน
นอกจากโหมด Career เล่นเก็บเลเวลเก็บเงินไปซื้อปลดล็อครถแล้ว ตัวเกมยังบรรจุ โหมดออนไลน์มัลติเพลย์เยอร์ มาให้เล่นกันด้วย แต่เนื่องจากชื่อเสียงของรายการแข่งขัน ดาการ์แรลลี่ อาจไม่ได้โด่งดังมีฐานแฟนคลับติดตามเยอะเหมือนกับรายการแข่งแรลลี่ชิงแชมป์โลกขวัญใจมหาชนอย่าง WRC ดังนั้นตลาดเป้าหมายหลักของมันจึงค่อนข้างจำกัดเฉพาะกลุ่มซึ่งเรื่องนี้ทางทีมผู้พัฒนาก็ตระหนักรู้ดีและคาดคิดเอาไว้อยู่แล้วถึงได้ใส่ฟีเจอร์ บอท AI ลงไปในโหมดออนไลน์เพื่อให้พวกมันเข้ามาเสริมเติมเต็มในตำแหน่งผู้เล่นที่ขาดหายเวลาแข่งจะได้ไม่รู้สึกเหงา และเราก็ต้องมานั่งหัวเสียปวดกบาลกับพฤติกรรมการขับขี่สุดระห่ำของพวกมันอีกครั้งแบบเดียวกับที่เคยประสบพบเจอในโหมดอาชีพ เสมือนเจ้ากรรมนายเวรที่พยายามหนียังไงก็หนีไม่พ้น แต่เอาเถอะถึง AI สมองกลวงเหล่านี้จะชอบป่วนสร้างปัญหา ยังไงซะมันก็ดีกว่าการจัดแข่งขันออนไลน์ที่มีผู้เข้าร่วมหรอมแหรมแข่งกันอยู่แค่สองสามคันละนะ
แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าคุณจะเลือกเข้าเล่นโหมดไหนหรือเปลี่ยนไปขับรถอะไร มันก็ไม่ได้ช่วยให้ตัวเกมดูสนุกขึ้นมาหรอกนะ ด้วยนานาปัญหาข้อผิดพลาดในการขับขี่ที่พบเจอบ่อยจนเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทั้งเรื่องฟิสิกส์การปะทะเฉี่ยวชนเผลอสะกิดโดนกันนิดเดียว รถของคุณก็จะถูกดูดเข้าหารถของคู่แข่งเหนียวติดกันเป็นตังเมแกะลำบาก บางครั้งขับรถพุ่งกระโจนเข้าซอกหินแอนิเมชั่นก็ติดค้างจมอยู่ตรงนั้นออกไม่ได้ รถยนต์ AI หลังเกิดอุบัติเหตุบางทีก็เอ๋อจอดแช่แน่นิ่งไม่ขยับไปไหน ฟิสิกส์การบังคับควบคุมตัวรถเองก็ไม่แน่นอนเดี๋ยวโช้คอัพเด้งลอยเดี๋ยวล้อหมุนสะบัดทำโดนัทแม้วิ่งอยู่ในทางตรง หรือกระทั่งขับอยู่ดีๆก็ดันเหยียบไม่ขึ้นเร่งไม่ไปซะอย่างนั้นเหมือนมีอะไรเข้าไปติดอยู่ในฟันเฟือง ทั้งๆที่สภาพรถก็สีเขียวเป็นปกติดีทุกอย่าง ทำได้แต่มองดูรถคู่แข่งคันข้างๆแล่นฉิววิ่งผ่านหน้าเราไปคันแล้วคันเล่าโดยที่อธิบายหาสาเหตุไม่ได้ เรียกว่าต่อให้คุณเป็นเซียนขาซิ่งในตำนานหรือเชี่ยวชาญการขับรถมาจากไหนเจออะไรแบบนี้เข้าไปเป็นใครๆก็ท้อละครับ
"จุดแข็งของเกม Dakar Desert Rally เท่าที่เราเห็นดูจะเน้นบรรยากาศฉากหลังทะเลทรายและรายละเอียดความสมจริงของสนามแข่งเสียเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ประสบการณ์การขับขี่อาจดูดร็อปดูด้อยดูไม่ค่อยให้ความสำคัญอะไรสักเท่าไหร่ นี่ถ้าหากพวกเขาเจียดเวลาเอามาใส่ใจพิถีพิถันเรื่องฟิสิกส์และระบบเกมเพลย์ให้มากกว่านี้อีกสักหน่อย มันคงออกมาเป็นเกมซิมูเลชันออฟโรดที่ยอดเยี่ยมเกมหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ทว่าน่าเศร้าที่พวกเขาดันพลาดปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไปซะแล้ว"
| เกมเพลย์ | 5 |
| ฟิสิกส์ | 5 |
| กราฟิก | 8 |
| เสียง | 7 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
| ภาพรวม | 6.4 |
ข้อดี: แผนที่ทะเลทรายกว้างใหญ่อลังการ, สภาพอากาศแปรปรวนมีหมดทุกรูปแบบ, ยี่ห้อรถลิขสิทธิ์ให้เลือกขับเยอะ, ภาพสวยเก็บดีเทลรายละเอียดตัวรถได้ดีเยี่ยม และโหมด Sport เอาใจมือใหม่ให้อารมณ์คล้าย MotorStorm (แม้ไม่ค่อยรอบคอบคิดน้อยไปหน่อยก็ตาม)
ข้อเสีย: สไตล์การเล่นที่บังคับปรับเลือกอะไรเองไม่ได้, AI คู่แข่งสมองกลวงขับกวน***ชวนหัวร้อน, โหมดกราฟิก Performance สุดแกว่งยากที่จะแตะถึง 60fps, ฟิสิกส์การปะทะเฉี่ยวชนอย่างแย่, รถที่คุมง่ายสุดในเกมกลับเป็นรถบรรทุกคันยักษ์, พบบัคปัญหาข้อผิดพลาดอยู่หลายจุด และการเล่นที่ต้องเกร็งกดปุ่ม R2 แช่นานหลายนาทีอาจทำให้เกิดอาการนิ้วล็อคได้
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Ripples Thailand
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
