แนวเกม แอ็คชั่นผจญภัย
แพลตฟอร์ม PS5, Xbox Series, PC
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ผลงานแอ็คชั่นแฮคแอนด์สแลชต่อคอมโบสุดมันส์ ที่พยายามเดินรอยตามความสำเร็จของซีรีส์เกมดังจากแคปคอม แม้อาจไม่มีอะไรโดดเด่นเหนือกว่าแต่ทว่ามันก็ใกล้เคียง...
สำหรับเนื้อหาของเกมนั้น จะบอกเล่ากล่าวถึงอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เคดาสที่ครั้งหนึ่งเคยสงบสุข แต่ปัจจุบันกำลังล่มสลายพังทลายเนื่องจากการรุกรานของเหล่าปีศาจร้ายที่บุกมาจากอีกด้านของม่านมิติ พวกมันกลืนกินสิ่งมีชีวิตและสิงสู่ร่างกายผู้คนเพื่อเปลี่ยนเหยื่อให้กลายเป็นอสูรสัตว์ประหลาดออกอาละวาด จึงเป็นหน้าที่ของ "ไบรอาร์" (Briar) กับ "ลูท" (Lute) สองสาวพี่น้องนักรบไคมีร่าผู้หลอมรวมดวงวิญญาณเข้าด้วยกันเพื่อแลกกับพละกำลังอันเหนือธรรมชาติ ที่ต้องเข้าสกัดหยุดยั้งพวกมันและปกป้องมวลมนุษยชาติเอาไว้ให้จงได้
แวบแรกที่ได้ลองสัมผัสเกมเพลย์ ไม่ว่าใครก็ต้องนึกถึงระบบการเล่นของ "เดวิลเมย์คราย" เพราะองค์ประกอบทุกอย่างแทบจะคัดลอกสำเนากันมา ไม่ว่าจะเป็นแอ็คชั่นการต่อสู้ที่เน้นทำคอมโบสะสมเกจไปเรื่อยๆ ตัวละครสามารถกระโดดสองจังหวะ สามารถพุ่งแดชหลบหลีก โจมตีเสยงัดศัตรูขึ้นไปซัดต่อกลางอากาศ หรือการสลับเปลี่ยนอาวุธแบบเรียลไทม์ขณะต่อสู้เพื่อสร้างคอมโบที่หลากหลาย เช่นใช้ดาบใหญ่ฟันศัตรูธรรมดา พอเจอพวกเกราะหนาก็กดเปลี่ยนเป็นหมัดต่อยทะลวง ตามด้วยธนูยิงซ้ำจากระยะไกล ก่อนจบลงด้วยแส้เก็บกวาดเศษซากที่เหลือ ซึ่งอาวุธใหม่ๆเจ๋งๆเหล่านี้จะถูกปลดล็อคออกมาให้ใช้อัตโนมัติเมื่อเราเล่นผ่านด่านไปเรื่อยๆนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ตัวละครเอกของเราเธอเป็นนักรบหญิงแกร่งที่มีสองดวงวิญญาณสิงสถิตอยู่ในร่างเดียวกัน จึงส่งผลทำให้เกมเพลย์คอมแบทของมันมีเอกลักษณ์ความพิเศษเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร อันดับแรกคือคุณสามารถกดปุ่ม O ในจังหวะที่มีสัญลักษณ์ไอคอนปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอเพื่อสั่งให้ดวงจิตของน้องสาวยิงกระสุนวิญญาณเคาน์เตอร์หรือปัดป้องการโจมตีของศัตรูได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการชะลอเวลาให้ศัตรูตัวนั้นเคลื่อนไหวช้าลงเปิดช่องว่างให้เราหลบหลีกหรือกระหน่ำตีมันฟรีๆ นอกจากนี้ที่บริเวณมุมขวาด้านบนของจอภาพยังมีเกจ "ความสามัคคีกลมเกลียว" (Unity) ปรากฏอยู่ ซึ่งแสดงเป็นรูปไอคอนสองตัวละครที่จะค่อยๆขยับแนบชิดเข้าหากันมากขึ้น หากว่าเราทำคอมโบได้ต่อเนื่องลื่นไหลไม่ได้รับแดเมจใดๆเลย ยิ่งเกจนี้สูงเท่าไหร่ตัวเราก็จะสามารถใช้ท่าโจมตีประสานหรือ Synergy Attack ได้บ่อยมากยิ่งขึ้น แถมยังมีโอกาสปลดปล่อยระเบิดพลังอัลติเมทขั้นสุดที่จะขออุบไว้พูดถึงในช่วงท้าย
ตัวอย่างการทำคอมโบท่าประสานของอาวุธต่างๆภายในเกม
ไม่เพียงแค่คอยยิงลำแสงทำลายจังหวะหน่วงเวลาศัตรูเท่านั้น "ลูท" เธอยังมีพลังเสริมที่สามมารถกางอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ให้กับเราได้อีกด้วย โดยแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ อาณาเขตสีฟ้า Evocation Field (กดปุ่ม L2) เพื่อเผยศัตรูหรือแพลตฟอร์มที่ล่องหนอยู่ กับอาณาเขตสีแดง Banishment Field (กดปุ่ม R2) เพื่อให้เราสามารถโจมตีศัตรูที่ถูกสิงหรือทำลายแท่งคริสตัลสีแดงที่ปิดขวางทางไปต่อ ซึ่งตลอดเส้นทางการผจญภัยคุณจะได้พบเจอกับอุปสรรคทั้งสีฟ้าและสีแดง บ้างมาเดี่ยว บ้างก็มาคู่กันให้เรากดสลับปุ่มเปลี่ยนสีให้ทันท่วงที แม้กระทั่งบอสบางตัวเองก็ยังมีสีกำกับให้เราต้องคอยสังเกตดีๆ แต่สำหรับใครที่ประสบปัญหาในการแยกโสตประสาท ก็สามารถเข้าไปกดเปิดตัวช่วยเหลือ Auto Field ในเมนูออพชั่นได้ เพื่อให้ระบบช่วยกางอาณาเขตให้ตรงกับสีสันของสิ่งที่พบเจออัตโนมัติ เราจะได้มีเวลาโฟกัสจดจ่ออยู่กับศัตรูและการกดปุ่มทำคอมโบแบบเพียวๆโดยไม่ต้องห่วงพะวงเรื่องสีอีกต่อไป
ตัวละครเอกสองพี่น้อง เราสามารถเลือกอัปเกรดยกระดับความสามารถของพวกเธอให้แข็งแกร่งขึ้นได้ทั้งคู่ โดยสายสกิลทรีของพวกเธอนั้นจะถูกแยกตัดขาดออกจากกันแบบสิ้นเชิงและต่างก็ใช้ทรัพยากรในการอัปเกรดที่ไม่เหมือนกันเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์รักพี่เสียดายน้อง ซึ่งทางฝั่งสายสกิลของ "ไบรอาร์" ที่ใช้ก้อนผลึกสีแดงในการอัปเกรดนั้น จะมุ่งเน้นเพิ่มความรุนแรงและปลดล็อคท่วงท่าโจมตีใหม่ๆให้กับอาวุธแต่ละชนิดเป็นหลัก ในขณะที่สายสกิลของ "ลูท" ที่ใช้ก้อนผลึกสีฟ้าในการอัปเกรดนั้น จะมุ่งเน้นเสริมพลังการยิงเวทย์โจมตี กางโล่ป้องกัน ขยายวงอาณาเขต และการสะสมเกจ Unity เพื่อใช้งานท่าไม้ตายพิเศษรูปแบบต่างๆ เราเองมองว่ามันก็สำคัญจำเป็นทั้งคู่นั่นแหละแต่จะแอบเอนเอียงความสนใจค่อนไปทางสกิลของน้องสาวร่างวิญญาณเสียมากกว่า เพราะถ้าหากเลือกอัปเกรดดีๆมันจะช่วยให้การเล่นของเราดูสบายง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
เหมือนซีรีส์เกมต้นฉบับรุ่นพี่ เราจะไม่ได้เห็นตัวละครเอกออกแอ็คชั่นวาดลีลาบู๊ต่อสู้กับศัตรูติดต่อเนื่องกันแบบมาราธอนแทบทุกฉาก เพราะระหว่างทางตัวเกมจะคอยสอดแทรก พัซเซิล มาให้เราได้ขบคิดแก้ปริศนาเพื่อเป็นการพักเบรคเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งพัซเซิลส่วนใหญ่ก็มักพัวพันอยู่กับเรื่องลูกเล่นกางอาณาเขตให้ตรงสีนั่นแหละ และมุกของมันก็จะเดิมๆคือมีก้อนหินคริสตัลสีแดงขนาดใหญ่ปิดกั้นขวางทางไปต่อแล้วเราต้องกระโดดเหยียบแท่นสีฟ้าเพื่อไปตีผลึกคริสตัลแหล่งพลังงานสีแดงอันเล็กๆที่ซ่อนอยู่กระจายตามจุดต่างๆอยู่เสมอ แรกๆอาจพอทนไหว แต่พอนานไปเจอบ่อยๆซ้ำๆเข้ามันก็เริ่มรู้สึกเบื่อจำเจชวนท้อใจได้เหมือนกัน โดยเฉพาะปริศนาบางจุดที่เลือกมุมกล้องได้แย่เอามากๆทำให้เราแยกลึกตื้น-หน้าหลังของตำแหน่งวัตถุไม่ออก แถมเราก็ไม่สามารถหมุนเปลี่ยนมุมมองได้เลยเพราะมุมกล้องภายในเกมนั้นถูกล็อคตำแหน่งเอาไว้แล้วหรือที่เรียกว่า Fixed Camera นั่นเอง
ด้วยขุมพลัง Unreal Engine ที่ตัวเกมเลือกใช้ คุณภาพกราฟิก เอฟเฟกต์ และแสงเงา จึงออกมาดูดีอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานระดับเดียวกับเกม AAA ทว่าน่าเสียดายที่ฉากสภาพแวดล้อมที่พวกเขาเสิร์ฟนำเสนอมา มันมีแค่ฉากภายในกับภายนอกของปราสาทยุคกลางสมัยโบราณในช่วงเวลากลางคืนโทนมืดอึมครึมเท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนด่านเปลี่ยนบรรยากาศไปสู้กันยังฉากหลังสถานที่ใหม่ๆแต่อย่างใด จึงทำให้การดีไซน์ออกแบบดันเจี้ยนถูกจำกัดจินตนาการไปโดยปริยาย ทุกห้องทุกโถงทางเดินเลยดูซ้ำเดิมไปหมดเหมือนว่าเราเคยผ่านมันมาแล้ว มอบความรู้สึกไม่ต่างอะไรจากหนูติดจั่นที่กำลังวิ่งวนอยู่ที่เดิม ซึ่งไอ้ความวาไรตี้หลากหลายทางไอเดียความคิดสร้างสรรค์นี้ดูเหมือนจะเป็นธรรมชาติจุดบอดและปัญหาโลกแตกสำหรับเหล่าทีมพัฒนาเกมอินดี้ทุกรายที่มีพนักงานจำกัดเพียงแค่ไม่กี่ชีวิต (คงจนปัญญาสุดวิสัยจริงๆนั่นแหละ)
ดีไซน์มอนสเตอร์ศัตรูถือว่าทำออกมาได้ดีนะ มีทั้งพวกซอมบี้ อสูรสัตว์มีเขี้ยว นักรบใส่เกราะ วิญญาณเหาะบินลอยไปมา เดี๋ยวสปีดช้าสปีดเร็วให้เราต้องคิดปรับตัวเลือกใช้อาวุธให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา แต่แอบรู้สึกว่า เหล่าบอสใหญ่ ที่เป็นเมนบอสจริงๆดูจะมีน้อยนิดไปหน่อย เพราะบอสส่วนมากที่ได้เจอมักจะเป็นพวกบอสย้อมแมวหยิบเอาลูกกระจ๊อกมาอับไซส์ขยายร่างกายให้ใหญ่โตแทน ซึ่งวิธีการปราบมันก็ซ้ำเดิมเหมือนกับร่างลูกสมุนปกตินั่นแหละ อยากจะมันส์ตื่นเต้นท้าทายจริงๆก็ต้องรอไว้เจอพวกบอสเมนหลักที่บอกเลยว่าโคตรแข็งแกร่ง นี่ถ้าทีมงานพวกเขาใส่ใจทุ่มเทเวลาในการออกแบบบอสใหญ่ให้มันเยอะหลากหลายสักหน่อย มันคงบิ๊วอารมณ์คนเล่นให้ปะทุดุเดือดไปได้สุดมากกว่านี้
มาถึงระบบไฮไลท์สุดท้ายอย่างการแปลงร่าง ขณะที่เกมเดวิลเมย์ครายมีระบบ Devil Trigger ให้ดันเต้กลายร่างเป็นปีศาจ ในเกมนี้ตัวละครสาวนักรบของเราก็สามารถกลายร่างได้เช่นเดียวกันด้วยระบบ Rapture โหมดร่างม่วงระเบิดพลังคลุ้มคลั่งที่ทำให้ตัวละครสามารถวาร์ปเคลื่อนไหวอย่างไวว่องพร้อมกับโจมตีใส่ศัตรูอย่างรุนแรงอัดน่วมหมดโดยไม่สนว่าจะสีฟ้าหรือสีแดง เพียงแต่เงื่อนไขการใช้งานโหมดนี้มันอาจจะแปลกประหลาดยุ่งยากสักหน่อย เพราะตัวละครของคุณห้ามถูกศัตรูโจมตีแม้แต่ปลายเล็บเพื่อรักษาเกจความสมานกลมเกลียวหรือ Unity ให้สูงอยู่ตลอดเวลา จนกว่ารูปไอคอนตัวละครด้านขวาบนจะแนบสนิทชิดกันเปล่งแสงสีม่วงออกมา เราจึงจะสามารถกดปุ่ม L2 + R2 พร้อมกันเพื่อแปลงร่างได้ ถ้าเผลอโดนสะกิดแม้เพียงนิดเดียวก็ต้องเริ่มต้นเก็บเกจกันใหม่ แรกๆมันก็ยากลำบากแหละนะ แต่หากอดทนเล่นไปเรื่อยๆจนสามารถอัปสายสกิลของลูทได้มากพอเพื่อให้เธอแช่แข็งหยุดเวลาปัดป้องบล็อกทุกสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอ เมื่อถึงคราวนั้นคุณจะรู้สึกว่าตัวเองแทบเป็นอมตะไม่มีอะไรมาแตะถึงเนื้อต้องตัวได้เลย นึกอยากจะแปลงร่างบ่อยถี่แค่ไหนก็ทำได้ดั่งใจนึกไม่เหนื่อยเหมือนเคยอีกแล้ว ฉะนั้นแล้วถ้าคิดจะเล่นเกมนี้ให้สนุกสิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นต้องมีคือความอดทนและเวลาในการทำความเข้าใจคุ้นเคยกับมันสักเล็กน้อย
"ด้วยความที่มันเพิ่งออกวางจำหน่ายเป็นภาคแรก เวลาส่วนใหญ่ในช่วงต้นจึงสูญเสียไปกับการแนะนำระบบพื้นฐาน แนะนำโลก-ตัวละคร และสอนลูกเล่นต่างๆ กว่าจะเข้าเนื้อหาเจอวายร้ายเมนหลักจริงๆก็ปาเข้าไปกลางเกมแล้ว ดังนั้นหากใครสัมผัสแค่ผิวๆก็อาจรู้สึกว่ามันเป็นเกมอินดี้ธรรมดาที่พยายามลอกเลียนแบบเกมดัง ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิดเพราะถ้าได้ลองใช้เวลาอยู่กับมันนานมากพอคุณจะรู้ได้ทันทีว่ามีอะไรมากกว่านั้น แน่ละมันอาจยังเทียบชั้นสู้ไม่ได้กับแฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่อย่าง Devil May Cry, Bayonetta หรือ Nier Automata แต่ถ้าลองให้โอกาสพวกเขาได้สานต่อ พัฒนาขัดเกลาฝีมือตนไปเรื่อยๆ พร้อมกับมีแบ็คอัพนายทุนหนุนหลัง มีทรัพยากรให้ใช้ในระดับที่ใกล้เคียงกัน เชื่อเหลือเกินว่าชื่อของเกม Soulstice มันจะทำให้ซีรีส์เกมดังต่างๆรู้สึกสั่นสะท้านเริ่มร้อนๆหนาวๆกันบ้างละ"
เกมเพลย์ | 7 |
พล็อตเนื้อหา | 8 |
กราฟิก | 8 |
เสียง | 8 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
ภาพรวม | 7.7 |
ข้อดี: ฉากหลังสวยงามบรรยากาศดีเลิศ, เรื่องราวปมอดีตของสองสาวพี่น้องดำมืดกว่าที่คิด, อาวุธทั้งเจ็ดชิ้นกดสลับเปลี่ยนได้ดั่งใจนึก, ต่อคอมโบท่วงท่าได้หลากหลาย, ลูกเล่นกางฟิลด์ให้ตรงสีมอบความรู้สึกสดใหม่, สกิลของลูทล้วนอุดมไปด้วยคุณประโยชน์, โหมดระเบิดพลังสุดมันส์แถมยังคลั่งได้อีก, มีชาเลนจ์ท้าทายมากมายให้ได้ทำ, เนื้อหาเกมค่อนข้างยาวเล่นได้นานหลายวัน และราคาบนสตีมที่แสนถูกคุ้มค่าสุดๆ
ข้อเสีย: ระบบกลไกซับซ้อนแต่กลับอธิบายคลุมเครือไม่ชัดเจน, มุมกล้องในบางจุดที่อาจเป็นปัญหา, บางท่ากดติดลำบากเช่นต้องดันอนาล็อคสองครั้งแล้วโจมตี, ดีไซน์ด่านกับปริศนาดูเดิมๆซ้ำๆจำเจ และการเดินเรื่องในช่วงแรกที่อืดยืดไปหน่อย
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Ripples Thailand
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*