แนวเกม แอ็คชั่นเซอร์ไววอล
แพลตฟอร์ม PS5, PC (จะตามมาทีหลัง)
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
โอกาสทองสำหรับใครที่ติดใจตัวเกมภาคสองและต้องการรับรู้เรื่องราวในภาคแรก แต่ไม่อยากปวดหัวกับภาพและระบบอันโบราณคร่ำครึ เกมนี้ถือว่าทำมาเพื่อตอบโจทย์สนองคุณโดยเฉพาะ
ยอมรับว่าเมื่อก่อนผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่โดนกระแสเกมแห่งปีของ The Last of Us ตกมาเหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นเพิ่งได้เครื่องคอนโซล เพลย์สเตชัน 4 มาใหม่ๆจึงสอยแผ่นเกมเวอร์ชันรีมาสเตอร์มาเล่นซะ กะว่าจะนั่งเสพมันอย่างสุขสมอารมณ์หมายโดยลืมนึกไปว่าแท้จริงมันก็แค่เกมเก่าจากยุค PS3 ที่ถูกเอามาปรับภาพใหม่เล็กน้อย ขณะที่ระบบต่างๆยังเหมือนเดิม ซึ่งกว่าจะเอาตัวรอดผ่านนรกขุมนั้นมาได้ เรียกว่าหัวร้อนผิดหวังมาเยอะพอสมควร ยิ่งย้อนกลับไปอ่านบทความรีวิวเก่าๆสมัยนั้นที่พากันอวยถึงความเทพของมัน เราก็ยิ่งเจ็บแค้นฝังลึกเหมือนคนถูกหักอก แต่ก็พอเข้าใจได้แหละในเรื่องยุคสมัยที่แปรเปลี่ยน ของที่ในอดีตเคยเลิศหรู อาจดูธรรมดาต๊อกต๋อยในปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อดึงความรู้สึกประทับใจเก่าๆเหล่านั้นให้หวนกลับคืนมาอีกครั้งในยุคนี้ จึงไม่เหลือทางเลือกอื่นใดให้ โซนี่ นอกจากต้องนำมันมารีเมคด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเป็นสะพานเชื่อมสนิทปิดบังความแตกต่างระหว่างตัวเกมสองภาคที่ทิ้งช่วงระยะเวลาห่างกันถึง 7 ปี
สำหรับเรื่องราวสตอรี่ยังคงพล็อตโครงเดิมเอาไว้ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป บอกเล่าติดตามการเดินทางผจญภัยของ "โจเอล" หนุ่มใหญ่นักลอบขนส่งสินค้าผู้เคยผ่านเหตุการณ์ความสูญเสีย กับ "เอลลี่" สาวน้อยวัยทีนผู้กุมกุญแจความลับสำคัญบางอย่าง โดยทั้งคู่ต้องร่วมต่อสู้ฝ่าฟันช่วยเหลือกันและกันเพื่อพาตัวเองไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง ท่ามกลางอุปสรรคมากมายที่พวกเขาต้องเผชิญ ณ ผืนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา ที่ปัจจุบันถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างโดนธรรมชาติทวงคืนกลืนกิน อันเป็นผลพวงมาจากเชื้อสปอร์ปริศนาที่แพร่กระจายในอากาศแผ่ปกคลุมแปรสภาพประชากรส่วนใหญ่ให้กลายเป็นอสูรร้าย แต่นั่นยังไม่นับรวมความป่าเถื่อนโหดดิบที่มนุษย์สามารถกระทำต่อกันเพื่อเอาตัวรอด
ความประทับใจแรกเมื่อเปิดเกมขึ้นมา แน่นอนว่าใครๆก็ต้องตื่นตะลึงอึ้งกับงานภาพกราฟิกที่พัฒนาก้าวกระโดดไปไกลจากเดิมมาก บอกเลยว่ามันโคตรสวยรวยดีเทล ตั้งแต่โมเดลตัวละครที่สื่อสารแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าแววตาอย่างชัดเจน ยันฉากหลังสภาพแวดล้อมที่เติมรายละเอียดต้นไม้ใบหญ้าหนาแน่นอิ่มฟูเต็มพื้นที่ดูไม่โหรงเหรงอีกต่อไป แสงเงาเอฟเฟกต์ไฟน้ำไหลต่างดูเยี่ยมยอด เศษข้าวของแตกหักกระจัดกระจายเมื่อถูกแรงกระทบ หรือเวลาตัวละครดำน้ำโดนฝนเสื้อผ้าก็เปียกชื้นสมจริง แต่สิ่งที่เรามองว่าเด็ดสุดจริงๆนั้นคงต้องยกให้เหล่า อณูสปอร์ ในรังของพวกอสูรกาย ที่คราวนี้โผล่มาให้เราเห็นเป็นเม็ดละอองเล็กๆลอยล่องอยู่ในอากาศและสามารถเปลี่ยนสีไปตามแสงไฟที่ส่องโดนมัน ต่างจากต้นฉบับที่เป็นแค่กลุ่มฝุ่นควันสีน้ำตาลขมุกขมัวบดบังวิสัยทัศน์จนมองอะไรไม่ค่อยชัด
ระบบการเล่นเบสิคพื้นฐานนั้นยังเหมือนเก่า นั่นคือเราต้องคอยบริหารจัดการเลือกใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะมาเหนี่ยวไกกราดยิงแบบเกมชูตติ้งคงไม่ได้เนื่องด้วยจำนวนกระสุนที่มีให้เก็บน้อยนิดแบบพอใช้ จะคราฟต์ของ อัปเกรดอะไรแต่ละทีก็ต้องคิดให้ดีๆ รวมถึงศัตรูแต่ละประเภทก็มีวิธีกำจัดที่แตกต่างกันไป หากเป็นมนุษย์ก็ใช้กลยุทธ์ทหารควักปืนเปิดฉากยิงปะทะได้ แต่ถ้าเป็นพวกอสูรที่หูไวต่อเสียงการเลือกใช้วิธีย่องเบาโยนของหลอกล่อพวกมันก็น่าจะเหมาะสมกว่า และระหว่างทางก็จะมักมีปริศนามาให้เราได้ใช้สมองขบคิดแก้ปัญหาอยู่เรื่อยๆ เรียกว่าถ้าหากใครใจร้อนเปิดเกมรีเมคนี้ขึ้นมาแล้วกดเริ่มเล่นทันทีคุณจะรู้สึกว่าเกมเพลย์มันแทบไม่มีอะไรต่างไปจากต้นฉบับเลย
แต่เดี๋ยวก่อน! หากคุณลองใจเย็นยอมเสียเวลากดเข้าไปดูในเมนูออพชั่นสักนิด ในนั้นคุณจะได้เห็นฟีเจอร์ตัวช่วยการเข้าถึงมากมายที่ถูกซ่อนอยู่และโดนปิดเอาไว้เป็นค่าเริ่มต้น โดยตัวช่วยเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็มักเป็นฟีเจอร์ที่พวกเราเคยเห็นกันมาแล้วในตัวเกมภาคสอง ยกตัวอย่างเช่น ลดการรับรู้และความแม่นยำของศัตรู ปิดการส่ายของอาวุธ ตัวประกันไม่ดิ้นหลุดหนี หน่วงชะลอเวลาขณะเล็งเพื่อให้ยิงเข้าหัวทุกนัดดูเท่และประหยัดกระสุนไปในตัว คลื่นเสียงโซนาร์สแกนหาศัตรูหรือทรัพยากรรอบตัว อันมีประโยชน์อย่างมากเพราะคุณจะได้ไม่พลาดของสำคัญ หรือแม้แต่ตัวช่วยสุดโกงอย่างการกดปุ่ม O ค้างเพื่อพรางตัวล่องหน ศัตรูไม่มีทางมองเห็นเราทั้งๆที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก็ยังอุตส่าห์มีมาให้ได้เลือกใช้งาน อยากจะให้มันคงอยู่ถาวรหรือชั่วคราว อยากให้ช่วยน้อยช่วยเยอะแค่ไหนก็เลือกปรับแต่งได้ตามสะดวกไม่ต้องคิดมาก เพราะพวกมันเป็นตัวช่วยที่ถูกแยกออกมาต่างหากไม่ข้องเกี่ยวอะไรกับระดับความยากของเกม
The Last of Us Part I ยังมาพร้อมกับหน้าต่างเมนูอินเตอร์เฟสที่ปรับโฉมใหม่ให้ดูเป็นระเบียบสบายตาใช้งานง่ายยิ่งขึ้น เวลาอัปเกรดปืนที่โต๊ะช่างก็มีฉากถอดประกอบแต่ละชิ้นส่วนของปืนโชว์ให้เห็นแบบเรียลไทม์ เฟรมเรตก็นิ่งลื่นไหลไม่มีกระตุก รวมถึงมี ซับไตเติลแปลไทย ให้เสร็จสรรพทั้งในส่วนของประโยคบทพูดและตัวหนังสือในเอกสารคำใบ้ต่างๆ ช่วยให้เรารับรู้เข้าถึงอินไปกับเรื่องราวดราม่าได้อย่างเต็มที่ ส่วนปัญหา AI ที่เคยสร้างความปวดหัวกวนใจ มันก็ได้รับการปรับปรุงแก้ไขใหม่ เพื่อนของเราจะเลือกตำแหน่งหลบซ่อนตัวจากสายตาศัตรูที่ดูสมเหตุสมผลมากขึ้นและคอยส่งซิกส์บอกแจ้งเตือนเราถึงอันตรายอยู่เสมอ ขณะที่ AI ฝั่งศัตรูเองก็ดูจะฉลาดขึ้น รู้จักการตีโอบด้านหลัง แบ่งกระจายกำลังกันสำรวจ ไม่ได้แกล้งตาบอดแต่ขาขยับเดินตรงดิ่งมาหาเราอีกแล้ว นับว่าทีมงาน Naughty Dogs พวกเขารับฟังเสียงเรียกร้องของแฟนๆและศึกษาทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
หลังเล่นจบไปรอบหนึ่ง คุณสามารถนำแต้มที่เก็บสะสมมาจากการเล่นไปซื้อปลดล็อคสิ่งต่างๆ อาทิ ภาพอาร์ตเวิร์คงานศิลป์ หุ่นโมเดลตัวละคร ไปจนถึงคลิปวิดีโอบื้องหลังการสร้างเกมพร้อมบทสัมภาษณ์ทีมงาน นอกจากนี้เรายังสามารถปลดล็อคสกินเสื้อผ้าตัวละคร ตัวเลือกปรับแต่งเกมเพลย์ต่างๆอย่างกระสุนไม่จำกัดหรืออื่นๆอีกมากมายเพื่อเป็นแรงจูงใจในการเล่นรอบถัดไป แถมยังมีโหมด Permadeath ตายถาวร และโหมดจับเวลาสำหรับสายสปีดรันมาให้เลือกด้วยนะเออ
ส่วนเนื้อหาเสริม Left Behind ที่พ่วงเข้ามานั้น คุณสามารถเปิดเล่นมันตอนไหนก็ได้เพราะว่าแยกเซฟกัน ไม่จำเป็นต้องรอเคลียร์ภาคหลักให้จบก่อน (แต่ระวังสปอยล์หน่อยละ) แต่ทว่าน่าเศร้าที่โหมดออนไลน์ Multiplayer ในเวอร์ชันรีเมคใหม่นี้กลับไม่บรรจุใส่มาให้ มันก็เลยรู้สึกขาดๆเหงาๆไปสักหน่อย เอาเป็นว่าหากใครคันไม้คันมืออยากยิงผู้เล่นคนอื่นก็เก็บกดอารมณ์ข่มใจไว้รอไปสนุกกันในเกมภาคออนไลน์ฉายเดี่ยวที่จะตามมาในอนาคตรวดเดียวเลยก็แล้วกัน
"คงไม่มีใครปฏิเสธว่า The Last of Us Part I มันคือเกมภาคที่สมบูรณ์ครบองค์ประกอบในทุกด้านและเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการย้อนกลับไปหวนรำลึกความหลังครั้งเก่า ยิ่งหากคุณไม่เคยสัมผัสมันมาก่อนด้วยแล้วคุณยิ่งห้ามพลาดเด็ดขาด ส่วนตัวกระผมนั้นถึงแม้จะเคยเล่นเวอร์ชันรีมาสเตอร์มาหนหนึ่งรู้เห็นเรื่องราวทั้งหมดแล้ว แต่เกมนี้ก็ยังมอบความสนุกสดใหม่ได้ฟีลอารมณ์ระทึกตื่นเต้นอยู่นิดๆ เพราะด้วยเกมเพลย์ที่ปรับปรุงใหม่ กราฟิกที่ทันสมัยสมจริงขึ้น รวมทั้งซับไตเติ้ลภาษาไทย อย่างน้อยมันก็ช่วยทำให้เราเข้าถึงอรรถรสดื่มด่ำกับมันได้มากยิ่งกว่าเคย"
เกมเพลย์ | 10 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 9 |
ความคุ้มค่า | 8 |
ภาพรวม | 9 |
ข้อดี: กราฟิกอัปเกรดใหม่สวยงามกว่าเก่า, ปรับแต่งเกมเพลย์ได้อิสระเหมือนเรากำลังเล่นภาคสอง, สมองกล AI ฉลาดล้ำสมจริงยิ่งขึ้น, เมนูอินเตอร์เฟสใหม่สบายตาน่าใช้, แปลไทยเข้าใจง่ายอินทุกเรื่องราว, มีหลายสิ่งให้ปลดล็อคหลังเล่นจบ, มัดรวมครบทุกเนื้อหาทั้งภาคหลัก-ภาคเสริม, ใช้ประโยชน์เต็มที่จากลูกเล่นบนจอย DualSense และสปอร์ที่ดูเป็นสปอร์จริงๆ (ติดใจอะไรนักหนา ^^")
ข้อเสีย: โหมดออนไลน์หลายคนที่ขาดหาย กับความคุ้มค่าที่หักลบไปตามจำนวนรอบที่คุณเคยเล่นเคลียร์เกมต้นฉบับมา
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ Sony Interactive Entertainment (SIE)
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*