แนวเกม แอ็คชั่นโอเพ่นเวิลด์
แพลตฟอร์ม PS5, PS4, Xbox Series, Xbox One, PC
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
เมื่อหนึ่งในแฟรนไชส์โอเพ่นเวิลด์สุดเก่าแก่เริ่มหลุดกรอบออกทะเลไปไกลจนฉุดไม่อยู่ ผู้สร้างจึงต้องขอเบรคพักหักพวงมาลัยเพื่อพาสิ่งต่างๆกลับหวนคืนสู่รากเหง้า ในฐานะซีรีส์เกมคู่แข่ง GTA
สำหรับเกม Saints Row ที่เพิ่งออกวางจำหน่ายนี้ยังคงเป็นผลงานจากสตูดิโอ Volition เจ้าเก่าขาประจำ เพียงแต่มันไม่ใช่การหยิบนำตัวเกมภาคแรกเมื่อปี 2006 กลับมารีเมคปัดฝุ่นปรับปรุงภาพกราฟิกแต่อย่างใด เพราะนี่คือการรีบูตรื้อถอนแฟรนไชส์แบบยกเครื่องใหม่หมดจด ไล่ตั้งแต่งานด้านภาพวิชวล ระบบเกมเพลย์ ฉากหลังสถานที่ ไปจนถึงตัวบทพล็อตเรื่อง เพื่อลบภาพจำและเริ่มต้นทุกสิ่งอย่างแบบเฟรชสตาร์ทนับหนึ่งกันใหม่อีกครั้ง
อย่างที่เกริ่นไป เมื่อทีมผู้พัฒนาเขาต้องการปูซีรีส์นี้ขึ้นมาแบบสดใหม่ เนื้อเรื่องภายในเกมจึงถูกปรับเปลี่ยนแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยมันจะบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเมือง Santo Ileso มหานครใหญ่ใจกลางผืนทรายที่ปัจจุบันกำลังตกอยู่ใต้การปกครองของสามแก๊งค์คู่อริ ได้แก่ แก๊งค์นักกล้ามบ้าพลัง Los Panteros, แก๊งค์ไนท์คลับออกล่ายามค่ำคืน Idols และท้ายสุด Marshall Defense Industries กลุ่มทหารรับจ้างใช้อาวุธสุดไฮเทค
ซึ่ง The Boss ฉายานามตัวละครเอกของผู้เล่น เขาเองก็อยากโด่งดังสร้างตัวตนให้คนรู้จักจึงเลือกเข้าสมัครทำงานเป็นสมุนรับใช้ให้กับกลุ่มทหารรับจ้าง แต่ด้วยความบ้าบิ่นมุทะลุและรักพวกพ้องเห็นเพื่อนสำคัญกว่าภารกิจจึงส่งผลเสียต่องาน และโดนนายใหญ่เพ่งเล็งสั่งเด้งออกมาในท้ายที่สุด เมื่อเป็นลูกน้องเขาแล้วมันไม่รุ่ง ตัวเอกจึงมุ่งหวังขอเป็นเจ้านายตัวเองขยับขยายสร้างอาณาจักรแก๊งค์อาชญากรรมของตนขึ้นมาซะเลย
เมือง Santo Ileso ที่เป็นฉากหลักของเกม จริงๆแล้วมันลอกแบบมาจากนครลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา ดังจะเห็นได้จากแผนผังพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นทะเลทรายเวิ้งว้างโอบอุ้มรายล้อมอยู่รอบตัวเมือง โทนสีหลักของเกมจึงเป็นสีน้ำตาลอมส้มดูอบอุ่นตัดกับสีน้ำเงินของท้องฟ้า ขณะที่ในตอนกลางคืนนั้นบรรยากาศจะเปลี่ยนไปเหมือนอยู่คนละโลกด้วยแสงไฟนีออนประดับหลากสีสันสมกับชื่อนครที่ไม่เคยหลับใหล ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าตัวเกมนำเสนอออกมาได้ดีโดยเฉพาะเรื่องแสงเงาสะท้อน โดยประสิทธิภาพการแสดงผลบนเครื่อง PS5 สามารถรันได้อย่างลื่นไหลที่ระดับความละเอียด 1440p (เลือก 4K ได้นะแต่เฟรมเรตจะแกว่ง) และเรากล้าพูดได้เลยว่าหากมีการจัดอันดับเกมโอเพ่นเวิลด์ภาพสวยในยุคปัจจุบัน ต้องมีรายชื่อเกมนี้ติดอยู่ในลิสต์ ถึงแม้ขนาดแผนที่เมื่อเทียบกับเกมอื่นๆมันอาจจะดูเล็กไปหน่อยและแอนิเมชันใบหน้าตัวละครอาจจะดูอัปลักษณ์เหยเกไปนิดก็เถอะนะ
ทางฝั่งกิจกรรมที่มีให้ทำจะแบ่งเป็นมิชชั่นหลักเล่นไปตามเนื้อเรื่องก่อตั้งแก๊งค์ ตกแต่งแหล่งกบดาน ทำภารกิจสุดพิสดารต่างๆตามสไตล์วัยรุ่นสร้างตัว ส่วนใหญ่มักจะให้เรายิงกราดทำลายล้างทุกสิ่งแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก หากเจอศัตรูเยอะหน่อยก็แค่กลิ้งหลบสะสมเกจพลังไปเรื่อยๆเพื่อใช้ท่าเผด็จศึกเวียนวนอยู่แค่นี้ อาจมีบ้างที่ต้องใช้หัวคิดเวลาเจอกับเหล่าบอสหุ้มเกราะที่ต้องโจมตีทำลายเกจเกราะสีเหลืองของมันก่อนถึงจะใช้ท่าเผด็จศึกกับมันได้ บางครั้งอาจได้ขับรถไล่ล่า และบางทีอาจมีฉากล้อเลียนภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องดัง อย่างฉากที่เราต้องขับรถลากจูงเหวี่ยงตู้คอนเทนเนอร์ไปมาตามท้องถนนแบบที่เคยเห็นในหนัง Fast Five เป็นต้น
ส่วนนอกนั้นที่เหลือก็จะเป็นเหล่ากิจกรรมเสริมฆ่าเวลา อาทิเช่น ปล้นขโมยรถ ตามกำจัดเป้าหมาย ทลายแหล่งมั่วสุมของกลุ่มคู่อริ ลงทุนอสังหาฯขยายอาณาจักร บินร่อนกลางเวหา ขับเฮลิคอปเตอร์ส่งสินค้า ถ่ายรูปภาพวิวสวยๆเพื่อปลดล็อคจุด Fast Travel คุ้ยหาของมีค่าในถังขยะ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ เพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ XP อัพเลเวลปลดล็อคสกิลใหม่ๆให้ตัวละครและหาเงินมาซื้อเสื้อผ้าอาวุธแต่งรถแต่งปืนตามใจฉัน ซึ่งกิจกรรมเสริมเราจะเลือกทำหรือไม่ทำก็ได้ไม่บังคับ ขึ้นอยู่กับเราว่าอยากจะเทพไวหรืออยากค่อยๆไต่เต้าเล่นไปตามสเต็ปของเกม
พูดถึงความกาวอันเป็นเอกลักษณ์จุดขายของซีรีส์ ในภาคนี้มันก็ยังแอบแฝงความเวอร์วังบ้าบอหลุดโลกมาให้ได้เห็นอยู่นะ ไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊กระโดดขึ้นเกาะเครื่องบินเจ๊ต ฉากดวลปืนสนั่นขณะกำลังนอนแผ่หงายอยู่บนหลังคารถที่กำลังวิ่ง วัตถุสิ่งของทุกอย่างที่เป็นเหมือนกับถังแก๊สแค่สะกิดโดนนิดก็พร้อมระเบิดตูมตามในทันที หรือว่าจะเป็นลีลากายกรรมผาดโผนฉีกทุกกฎเกณฑ์ต่างๆที่ขนมาสนองความบันเทิง แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับผลงานเกมภาคเก่าก่อนยุคหลังๆ เราว่าความกาวของมันได้ถูกลดทอนลงไปเยอะ ตัวละครดูติดพื้นเป็นมนุษย์เดินดินมากขึ้นไม่ได้มีพลังวิเศษ ไม่สามารถวิ่งเร็วหรือกระโดดสูงข้ามตึกได้ มีเพียงแค่สกิลหมัดเพลิงเรดฮอว์คกับความอึดถึกทนดูดซับกระสุนได้หลายนัดเท่านั้นที่ดูจะเหนือเหลื่อมศัตรูอยู่นิดๆ ซึ่งประเด็นเรื่องการลดความกาวลงส่วนตัวเราโอเคไม่ติดใจเพราะตัวเกม Saints Row สองภาคแรกก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
ขึ้นชื่อว่า บิ๊กบอส ขาใหญ่ประจำแก๊งค์ มันคงดูไม่ค่อยสมศักดิ์ศรีเท่าไหร่นักถ้าเราจะต้องบุกเดี่ยวไปซ่าหาเรื่องกับแก๊งค์ศัตรูหลายสิบตีนถึงถิ่น ดังนั้นตัวเกมจึงเพิ่มฟีเจอร์ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถโทรเรียกลูกน้องกองหนุนทั้งสามหน่อมาช่วยอีกแรง โดยแต่ละคนก็มีความถนัดและประโยชน์ใช้สอยที่ต่างกันไป และเราสามารถอัปเกรดลูกน้องให้แกร่งขึ้นได้ผ่านการทำภารกิจเฉพาะของพวกมัน ทว่าสมุน AI เหล่านี้มันก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมายนักหรอก ยิงก็ไม่ได้แม่นยำ หลบหลีกก็ไม่เป็น ส่วนใหญ่มักยืนนิ่งเป็นตัวล่อดึงดูดความสนใจรับกระสุนแทนเราก็เท่านั้น ฉะนั้นแล้วหากใครมีเพื่อนรู้ใจการเล่นแบบออนไลน์ Co-op ตะลุยเกมไปด้วยกันสองคนตั้งแต่ต้นยันจบ ดูน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
จากวิธีการดำเนินเกมขยายอาณาจักรให้เติบใหญ่และกิจกรรมทั้งหมดที่พูดมาฟังดูมันก็น่าสนุกอยู่หรอกนะ แต่สิ่งที่คอยขัดขวางพังทุกอย่างให้กลายเป็นฝันร้ายมันกลับเป็นเรื่องเบสิคพื้นฐานอย่างการบังคับควบคุมที่นอกจากจะต้องขืนนิ้วต่อสู้กับระบบช่วยเล็งที่เหนียวหนึบดูดตามติดเป้าหมายแล้ว เรายังต้องปวดขมับกับการขยับส่ายโยกซ้ายขวาอยู่ไม่สุขของเหล่าบรรดาศัตรูเพราะทีมพัฒนาดันลืมใส่ระบบหลบหลังที่กำบังเข้ามา บางเวลาที่ศัตรูโผล่มาเยอะๆพร้อมกันหลายตัวภายในฉาก จึงเห็นพวกมันได้แต่วิ่งมั่วสะเปะสะปะเกลือกกลิ้งอยู่ตรงหน้าเรานั่นแหละเนื่องจากตัวเกมไม่มีจุดให้พวกมันได้หยุดพำนักพักพิง อีกทั้งเรื่องฟิสิกส์เองมันก็ไม่ได้มอบความสมจริงสมจังอะไรเลย วัตถุสิ่งของทุกอย่างล้วนรู้สึกเหมือนกล่องโฟมที่ไร้มวลน้ำหนักพร้อมกระเด้งกระดอนได้ทุกเมื่อ ยกตัวอย่างแรงดันน้ำจากท่อประปาแตกที่สามารถยกรถยนต์หนักหลายตันลอยขึ้นฟ้าได้หน้าตาเฉย, ฮ.พ่วงของหนักที่พอสลิงโดนเกี่ยวนิดเดียวก็หมุนติ้วเป็นพายุ หรือว่าล้อรถที่พร้อมตะแคงปีนป่ายรั้วผนังข้างทางแม้มุมองศาจะไม่เอื้ออำนวย สิ่งต่างๆเหล่านี้ถึงจะฟังดูเป็นเรื่องตลกขำขัน แต่ในภารกิจที่ต้องอาศัยความแม่นยำพวกมันคือสาเหตุหลักที่ทำให้คุณเผชิญกับมิชชั่นเฟลอยู่หลายหน
หากเท่านี้ยังสร้างความน่าหงุดหงิดใจไม่พอ ตัวเกมยังประสบปัญหาบัคที่ปรากฏมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เช่น กำลังปรับแต่งตัวละครอยู่ดีๆเมนูก็เกิดค้างกดปุ่มอะไรไม่ได้ต้องปิดเกมแล้วเปิดใหม่, ตัวละคร NPC ที่สำคัญต่อการดำเนินเรื่องบางทีก็ไม่โผล่ในจุดที่ควรโผล่, เสื้อผ้าคอสตูมใหม่ที่ได้มาพอสวมใส่เสร็จสักพักดันกลับคืนค่าเป็นชุดเดิม แถมมิชชั่นในเกมเราจำเป็นต้องเล่นเคลียร์มันให้ผ่านจบในรวดเดียวอย่าได้ค้างคาเอาไว้ เพราะถึงแม้ระหว่างทางจะมีจุดเชคพอยท์มาให้ แต่ถ้าเราเผลอพักปิดเครื่องคอนโซลเมื่อไหร่ทุกอย่างจะถูกรีเซตพาตัวเราย้อนกลับไปยังจุดสตาร์ทเริ่มต้น ณ ศูนย์บัญชาการ HQ ในช่วงก่อนกดรับภารกิจนั้นทันที นี่ขนาดเราเผื่อใจพยายามปล่อยผ่านเล่นแบบปิดตาข้างเดียวแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วนะ ตัวเกมก็ยังชวนหัวอุ่นสบถถ้อยคำหยาบได้อยู่เรื่อยๆ
"บอกตามตรงเราไม่ติดเลยนะ ถ้าแฟรนไชส์เกม Saints Row อยากจะย้อนศรกลับไปยังจุดแรกเริ่มหรือว่าอยากจะทดลองอะไรใหม่ๆที่ต่างออกไปจากเดิม ซึ่งเราเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งและสิ่งที่พวกเขาพยายามนำเสนอ (แม้จะไม่สำเร็จ) ในเกมนี้ก็เข้าท่าดูดีในระดับหนึ่ง แต่หากต้องการคิดจะแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกับ Grand Theft Auto อย่างจริงจังแล้วละก็ แทนที่จะมัวใส่ใจห่วงเรื่องกาวหรือไม่กาว เราว่าพวกเขาควรเอาเวลาไปโฟกัสกับตัวบทพล็อตเรื่อง ฟิสิกส์ความสมจริง ระบบบังคับควบคุม และปัญหาบัคจะดีเสียกว่า"
เกมเพลย์ | 6 |
พล็อตเนื้อหา | 7 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 7 |
ฟิสิกส์ความสมจริง | 5 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
ภาพรวม | 6.9 |
ข้อดี: นคร Santo Ileso ดูมีสีสันชีวิตชีวาจัดแสงเงาได้สวยงามมากๆ, หลากภารกิจสุดเพี้ยนเน้นเฮฮาเอามันส์เข้าว่า, นานาเครื่องประดับของสวมใส่ถูกใจสายแฟชั่น, รถทุกคันที่เห็นบนท้องถนนสามารถขโมยมาแต่งได้เกือบทั้งหมด และลูกเล่นการขยับขยายสร้างอาณาจักรสุดแจ่ม
ข้อเสีย: ระบบเล็งยิงน่าปวดหัว, ฟิสิกส์การบังคับอย่างแย่, พบปัญหาบัคหลายจุด, เช็คพอยท์มีมาให้แต่ก็เหมือนไม่มี, ระบบ AI เก่าแก่ไร้ความคิดความอ่าน และเป็นประสบการณ์โอเพ่นเวิลด์ที่จืดจางไม่มีอะไรโดดเด่นกว่าเกมอื่นๆ
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Ripples Thailand
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*