เริ่มต้นขึ้นแล้ว! สำหรับมหกรรมเหมาจ่ายเล่นเกมแบบบุฟเฟต์ของทาง โซนี่ ที่ให้คุณจ่ายเพียงนิดแต่ได้สิทธ์เข้าถึงคลังเกมนับร้อย ส่วนจะคุ้มมากคุ้มน้อยนั้นอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ในที่สุดบริการ เพลย์สเตชัน พลัส โฉมใหม่ ก็ได้มาถึงมือพวกเราเหล่าเกมเมอร์ชาวไทยกันแล้ว และตามที่บริษัท โซนี่ ได้คุยโปรโมทเอาไว้มันจะมีลำดับขั้นให้ผู้เล่นได้ตัดสินใจเลือกสมัครถึง 3 ระดับ ได้แก่ Essential, Extra และ Deluxe ซึ่งวันนี้เราจะมาชำแหละลำดับขั้นสูงสุดอย่าง Deluxe ให้ดูว่าเมื่อจ่ายแพงไปเราจะได้อะไรเพิ่มมาบ้าง
ทดลองเล่นเกมใหม่ๆ
สิทธิพิเศษอันดับแรกคือ Game Trials ที่เปิดให้เราได้ลองเล่นเกมดังๆที่เพิ่งออกวางจำหน่ายในระยะเวลาจำกัดเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนซื้อ ซึ่งระยะเวลาที่ให้ลองเล่นจะต่างกันไปตามเกมขั้นต่ำอยู่ที่ 2 ชั่วโมง แต่บางเกมให้เล่นยาวไปเลย 5 ชั่วโมงก็มี โดยความคืบหน้าและถ้วยรางวัลทั้งหมดจะถูกโอนถ่ายติดตัวเราไปด้วยหากเราตัดสินใจกดซื้อเกมตัวเต็มภายหลังจากที่หมดระยะเวลาทดลองเล่นไปแล้ว
แคตตาล็อกเกมนับร้อย
สิทธิประโยชน์อันดับต่อมา คือการเข้าถึงคลังเกมจากเครื่อง PlayStation 4 และ PlayStation 5 ที่ถูกขนมาให้เล่นกันแบบเต็มอิ่มจุใจ ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นเกมฟรี PS Plus ที่เคยแจกมาแล้ว แต่เชื่อว่ามันต้องมีบางเกมที่เราอาจตกหล่นเผลอพลาดข้ามไปปนอยู่ในนั้นบ้างแหละ อีกทั้งลิสต์เกมเหล่านี้มันก็ไม่ได้คงอยู่ถาวรซะเมื่อไหร่เพราะทาง โซนี่ จะทำการรีเฟรชใหม่ในช่วงกลางเดือนของทุกๆเดือน โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อแคตตาล็อกเกมเรียง A-Z ประจำเดือนนี้ทั้งหมดได้ที่หน้าเว็บไซต์ playstation.com
ย้อนวันวานด้วยเกมเก่าคลาสสิก
ถือเป็นโบนัสติดปลายนวมของสมาชิกระดับ Deluxe ที่จะได้หวนความหลังสัมผัสเกมดังในอดีตจากยุค PlayStation, PlayStation 2 และ PSP (ขาดแค่เกม PS3 เพราะบ้านเราไม่มีบริการสตรีมมิง) โดยมีให้เล่นทั้งรูปแบบรีมาสเตอร์ปรับปรุงกราฟิกใหม่ให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน และแบบออริจินอลดั้งเดิมมาเป็นโพลิก้อนเหลี่ยมหยักภาพไม่เต็มจอ ซึ่ง ณ เวลานี้ยังมีให้เลือกเล่นไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่เพราะเกมดังๆส่วนใหญ่ในอดีตล้วนมาจากค่าย เทิร์ดปาร์ตี้ และคงต้องรอให้ โซนี่ ไปติดต่อเจรจา
คุ้มไหม ตอบโจทย์ใคร?
แน่นอนถ้าคุณเป็นสาวกเครื่องเล่นเกมคู่แข่งอย่างไมโครซอฟต์หรือเป็นเกมเมอร์ชาวพีซีที่ไม่ได้แตะต้องเครื่องคอนโซลมาพักใหญ่ๆ เพลย์สเตชันพลัสโฉมใหม่ทั้งระดับ Extra และ Deluxe ถือว่าตอบโจทย์คุ้มค่าเอามากๆ เพียงแค่คุณมีเครื่องคอนโซลแล้วนำเงินที่ต้องจ่ายซื้อแผ่นเกมราคาสองพันอัพมาสมัครสมาชิกรายปี PS Plus แทน คุณก็จะได้สัมผัสประสบการณ์เกมมากพอๆกับที่สาวก โซนี่ ตามเก็บสะสมมาตลอด 10 ปีเลยทีเดียว
แล้วกลุ่มแฟนคลับ โซนี่ ดั้งเดิมละ
เบื้องต้นคงต้องขอแสดงความเสียใจด้วยสำหรับผู้เล่นที่ตามเก็บสะสมดองเกมไว้เยอะๆ เนื่องจากแคตตาล็อกเกมที่มีให้เล่น ณ ตอนนี้ กว่า 90% ก็น่าจะซ้ำทับไลน์กับเกมที่ตัวคุณมีอยู่แล้ว แต่ใช่ว่ามันจะดูไม่คุ้มค่าไปตลอดนะ เพราะอย่าลืมว่าบรรดาเกมออกใหม่ในตอนนี้สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นเกมเก่าตบเท้าร่วมเข้าไปอยู่ในแคตตาล็อก ฉะนั้นยิ่งวันเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ความคุ้มค่าของบริการเพลย์สเตชันพลัสโฉมใหม่ก็จะยิ่งมีแต่เพิ่มพูนขึ้นเท่านั้น
การมาของมันเปลี่ยนแปลงอะไร...
หากพูดถึงในช่วงระยะเวลาสั้นๆมันคงยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก ผู้เล่นเพลย์สเตชันพลัสหน้าเก่าหน้าเดิมก็ยังต้องรอลุ้นดูรายชื่อเป็นเกมๆไปแบบเดือนต่อเดือน เดือนไหนมีเกมเข้าท่าดูน่าสนใจจึงค่อยสมัครต่ออายุสมาชิก แต่ทว่าในระยะยาวนั้นบริการแบบเหมาจ่ายมันจะค่อยๆปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นเกมของพวกเราทุกคน เพราะทุกครั้งที่มีเกมออกใหม่เราจะเริ่มชั่งใจมีความคิดผุดขึ้นมาในหัวว่าเดี๋ยวสักพักมันก็เข้าไปอยู่ใน PS Plus พาลทำให้ไม่อยากกดซื้อมันแบบเดย์วัน รอไปก่อนดีกว่ากลัวเสียหมาภายหลัง แปรเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่ต้องคอยเปิดอ่านรีวิวทุกสำนักเพื่อควักเงินก้อนซื้อเกมใดเกมหนึ่งกลายเป็นไม่ต้องตัดสินใจคิดเยอะอีกต่อไป เปลี่ยนจากผู้เล่นที่เลือกเกมเองมาเป็นผู้เสพรอรับเกมที่มีคนคัดสรรให้ เปลี่ยนจากการนั่งกินร้านอาหารตามสั่งริมทางมานั่งทานร้านหรูโอมากาเสะตามใจเชฟ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพความสดใหม่ของเกมที่เสิร์ฟมาด้วยนะ (ได้ยินมั้ยจ๊ะ โซนี่)
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*