xs
xsm
sm
md
lg

"JAMNIME FESTIVAL 2022" เทศกาลภาพยนตร์อนิเมะใหญ่สุดในไทย 29 ม.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เจแปน อนิเมะ มูฟวี่ ไทยแลนด์ หรือ "แจม" (JAM) ผนึกกำลังพันธมิตร เตรียมจัดงาน "JAMNIME FESTIVAL 2022" เทศกาลภาพยนตร์อนิเมะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ วันที่ 29 ม.ค. – 2 ก.พ. นี้

"JAMNIME FESTIVAL 2022" จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จากการจัดงานครั้งแรกในปี 2020 โดยในปีนี้ "JAM" ร่วมกับพันธมิตรค่ายหนังนำเข้าภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นชื่อดังของประเทศไทย ได้แก่ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จํากัด, บริษัท ดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) จำกัด และบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) รวบรวมสุดยอดภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นชื่อดังได้รับความนิยมและยังไม่เคยเข้าฉายในประเทศไทยมาก่อน 7 เรื่อง ได้แก่ ปอมโปะ ทีมป่วนก๊วนทำหนัง, Sing a bit of harmony, Summer ghost, วาตารุ เทพบุตรสองโลก 7 วิญญาณมังกรรวมพลัง, Eureka seven hi evolution, มาโยยกะ มหัศจรรย์บ้านริมผา, แม่ฉันชื่อนิกุโกะ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีภาพยนตร์ที่เคยเข้าฉายแล้วได้รับการตอบรับที่ดีอีก 2 เรื่อง ได้แก่ โจเซ่ กับเสือและหมู่ปลา และ Violet Evergarden จดหมายฉบับสุดท้ายแด่เธอผู้เป็นที่รัก

ภาพยนตร์ทั้ง 9 เรื่อง จะเข้าฉายระหว่างวันที่ 29 ม.ค. – 2 ก.พ. นี้ ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์, หาดใหญ่ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่, ศรีราชา ซีนีเพล็กซ์, โคราช ซีนีเพล็กซ์ และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ บัตรราคา 250 บาท ซึ่งทุกที่นั่งจะได้รับ Pamphlet 1 เล่ม เป็นหนังสือที่รวบรวมเนื้อหาพิเศษจากภาพยนตร์ โดยจะเปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. เป็นต้นไป ผ่านช่องทาง Box Office หรือตู้ E-Ticket ทั้ง 5 สาขาที่ร่วมรายการ หรือเว็บไซต์ www.majorcineplex.com แล้วนำบัตรชมภาพยนตร์มาแลกรับของพรีเมียมที่สาขาที่เลือกชมภาพยนตร์

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษในวันที่ 29 – 30 ม.ค. กับการเสวนาพูดคุยกับสุดยอดกูรูผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในวงการอนิเมชั่นจากหลากหลายค่ายภาพยนตร์ชั้นนำ ช้อปสินค้าของพรีเมียมลิขสิทธิ์แท้จากญี่ปุ่น และมินิคอนเสิร์ตจากวงดนตรีสายอนิเมะชื่อดัง "Scarlette Band" ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ ลานอินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน


นางสาวพิชชาภา ณรงค์พันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟว์สตาร์ เอเจนซี่ จำกัด ผู้ก่อตั้ง เจแปน อนิเมะ มูฟวี่ ไทยแลนด์ หรือ "JAM" กล่าวว่า "JAM" เกิดขึ้นจากการที่เราได้มีโอกาสทำโปรเจคร่วมกับพันธมิตรค่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ และอีกหลายพาทเนอร์มีชื่อเสียงในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเดือนธ.ค. ปี 60 ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้น ถือได้ว่าเราคือเจ้าแรก ๆ ที่เข้ามาดูแลและบริหารงานการตลาดแบบครบวงจรให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่น ตั้งแต่การคิดคอนเซ็ปต์ คอนเทนต์ การโปรโมทภาพยนตร์ผ่านช่องทางและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของบริษัท การประชาสัมพันธ์ รวมถึงการทำโปรโมชั่น ตลอดจนเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ โดยหลักการทำการตลาดของ "JAM" มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่คนรักภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นในไทย ให้มีช่องทางสื่อสารชัดเจน สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ของภาพยนตร์ได้โดยทีมงานมืออาชีพ มีความรู้และความเข้าใจในด้านภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่น รวมทั้งมีประสบการณ์ในการทำงานด้านลิขสิทธิ์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นโดยตรง
“การสร้างตลาดของภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นให้เติบโตนั้น เราไม่ได้มองว่าแค่นำภาพยนตร์เข้ามาฉายแล้วจบไป แต่ต้องวางแผน คิดวิธีการ และทำให้สอดคล้องกับการทำตลาดของบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น หมายความว่าที่ญี่ปุ่นมีอะไร แบบไหน แล้วทางเราจะสามารถทำได้หรือไม่? เราต้องพยายามศึกษาและขออนุญาตไปทางต้นสังกัด ทุกอย่างต้องมีการเจรจา พูดคุย ซึ่งหากทำได้ นั่นหมายความว่า ลูกค้าของเราจะได้รับความสนุกและความสุขกลับไปแบบเดียวกับที่คนญี่ปุ่นได้รับเช่นกัน ซึ่งนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีกลุ่มแฟนคลับที่เหนียวแน่น

ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา "JAM" มุ่งเน้นการทำตลาดภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่น ให้ได้รับการยอมรับจากลุ่มคนทั่วไปมากขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างตลาดอนิเมะให้เติบโตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้จำนวนภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นในประเทศไทยมีการเติบโตมากกว่า 50% จากปีแรก ซึ่งในช่วงฝ่าวิกฤตโควิด19 และการรับชมภาพยนตร์แบบผิดลิขสิทธิ์ ทางบริษัทฯได้พยายามรักษาจำนวนภาพยนตร์ที่เข้าฉายในประเทศให้ไม่น้อยไปกว่าแผนเดิม และคาดหวังให้ตลาดเติบโตขึ้นอีก 20% ในปีนี้ โดยที่ผ่านมาได้ทำการตลาดให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นมาแล้วกว่า 40 เรื่อง และเรื่องที่ถือได้ว่าเป็นผลงานการทำการตลาดได้อย่างโดดเด่นและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก คือ One Piece Stampede และ Demon Slayer (ดาบพิฆาตอสูร) ภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก และสามารถกวาดรายได้ทั่วประเทศไทยทะลุ 100 ล้านบาท และล่าสุดกับเรื่อง My Hero Academia the movie 3 ที่เข้าฉายอยู่ในปัจจุบันและยังคงทำกระแสได้ดีอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้” พิชชาภา กล่าว

ติดตามข้อมูลข่าวสารจาก "JAM" เจแปน อนิเมะ มูฟวี่ ไทยแลนด์ ได้ทางแฟนเพจ Japan Anime Movie Thailand และ http://shop.fivestaragency.co.th/

*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับข่าวสารวงการเกมครับ*


กำลังโหลดความคิดเห็น