Activision เปิดตัวชุดคู่มือค่ายฝึกทหารใหม่ เผยคำแนะนำ 10 ข้อ เตรียมพร้อมก่อนลุย "Call of Duty: Vanguard" สำหรับ 10 ชั่วโมงแรก
เนื่องในโอกาสที่ "Call of Duty: Vanguard" วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ Activision ได้เผยแพร่คู่มือที่มีเนื้อหาครอบคลุมสิ่งที่ผู้เล่นใหม่และผู้เล่นมากประสบการณ์ต้องรู้ เพื่อคว้าความสำเร็จใน Campaign โหมดเนื้อเรื่องสุดประทับใจ Multiplayer โหมดผู้เล่นหลายคนสุดตื่นเต้น และ Zombies โหมดเอาตัวรอกสุดระทึก
Start
เมื่อเปิดเกมครั้งแรก ผู้เล่นจะเข้าสู่การตั้งค่า ได้แก่ พื้นที่ปลอดภัยบนการแสดงผลของคุณ, ปรับการควบคุมพื้นฐาน, เลือกมิกซ์เสียงที่ต้องการให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม และเปิดตัวเลือกสำหรับการเข้าถึงต่าง ๆ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ตลอดเวลาแม้อยู่ระหว่างแมตช์ออนไลน์
จากนั้นผู้เล่นต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชี Activision เพื่อเชื่อมต่อกับเพื่อน ๆ และแชร์ความคืบหน้าไปบนทุกแพลตฟอร์ม หากไม่มีบัญชี Activision สามารถสมัครได้ที่นี่ (ถ้าไม่ลงชื่อเข้าใช้จะเล่นแต่แบบออฟไลน์เท่านั้น)
Campaign
ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นใหม่หรือเคยเล่นภาคอื่นมาแล้ว การเริ่มต้นใน Campaign คือคัวเลือกที่ดีที่สุดที่ผู้เล่นจะได้พบกับเนื้อเรื่องสุดอลังการ พร้อมเรียนรู้พี้นฐานและทักษะที่จำเป็นก่อนไปเจอคู่ต่อสู้ใน Multiplayer
ใน Vanguard ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นทหารธรรมดาหนึ่งในห้านายผู้ผงาดขึ้นเป็นวีรชน โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหลายแนวรบเผยให้เห็นต้นกำเนิดของหน่วยรบพิเศษ Task Force One ผู้เล่นจะได้ร่วมต่อสู้ไปกับ สิบเอก อาร์เทอร์ คิงส์ลีย์, พลแม่นปืนมือฉมัง ร้อยโท โปลินา เปโตรวา, พลวางระเบิด พลทหาร ลูคัส ริกส์, นักบินมือหนึ่ง เรืออากาศเอก เวด แจ็กสัน และมือขวาของคิงส์ลีย์ สิบเอกริชาร์ด เว็บบ์ ในการทดสอบสุดทรหดของสงครามโลกครั้งที่สอง
Multiplayer
Vanguard จะมีแผนที่ให้เลือกเล่นกว่า 20 แผนที่ตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย ถือเป็นการเปิดโหมด Multiplayer ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ผู้เล่นจะได้สัมผัสการต่อสู้เชิงยุทธวิธีอันว่องไวในมุมมอง First person ผ่านความหลากหลายของโหมด Multiplayer แบบดั้งเดิม ที่มีทั้งทีมเดธแมตช์, ยืนยันการสังหาร, การครอบงำ ฯลฯ รวมทั้งโหมดใหม่อย่างการลาดตระเวนและหุบเขาผู้ชนะ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์เอาชีวิตรอดหลายสนามประลองที่ทีมต่าง ๆ ต้องมาสู้กันเพื่อเป็นหน่วยรบสุดท้ายที่จะยืนหยัดอยู่ได้
เพลย์ลิสต์แนะนำและตัวกรองเล่นด่วน
เพลย์ลิสต์แนะนำบนเมนูหลักของโหมด Multiplayer จะมีรายชื่อโหมดเกมที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปในทุกสัปดาห์ ผู้เล่นสามารถเลือกโหมดเกมเหล่านั้นหรือใช้ฟีเจอร์เล่นด่วนเพื่อเข้าคิวรอโหมดที่ชอบ โดยที่ผู้เล่นสามารถปรับแต่งฟีเจอร์เล่นด่วนให้ตรงกับโหมดที่อยากเล่นได้ สำหรับผู้เล่นใหม่แนะนำให้เล่นทีมเดธแมตช์เพื่อฝึกพื้นฐานให้แน่นก่อนเพิ่มวัตถุประสงค์เข้าไป
ฟีเจอร์ใหม่: ความเร็วในการต่อสู้
ฟีเจอร์ความเร็วในการต่อสู้เป็นสิ่งใหม่ใน Vanguard ซึ่งเลือกได้ในตัวกรองเล่นด่วน การตั้งค่านี้ช่วยให้ผู้เล่นเพิ่มความร้อนแรงของแมตช์ด้วยการเพิ่มจำนวนผู้เล่นโดยเทียบกับขนาดของแผนที่ เลือกความเร็วการต่อสู้ระดับยุทธวิธีเพื่อสัมผัสประสบการณ์การต่อสู้ที่ลึกซึ้งและเข้มข้น หรือระดับการจู่โจมเพื่อพบการต่อสู้ที่ไม่เร้าใจเกินไปนัก และระดับการจู่โจมสายฟ้าแลบเพื่อสัมผัสการต่อสู้ระดับโกลาหล สำหรับผู้ที่เล่นเป็นครั้งแรก ขอแนะนำความเร็วการต่อสู้ระดับยุทธวิธีเพื่อจำกัดจำนวนทหารฝ่ายศัตรูก่อน
แมตช์ส่วนตัวและแคลน
สำหรับผู้เล่นที่ยังลังเลจะเข้าร่วมในแมตช์ Multiplayer สามารถเสริมความมั่นใจด้วยสองตัวช่วย คือแมตช์ส่วนตัวและแคลน โดยในแมตช์ส่วนตัวจะเป็นการสร้างห้องเล่นกับเพื่อนต่อสู้กับศัตรูที่เป็นบอท แม้จะไม่ได้ค่าประสบการณ์ แต่ผู้เล่นจะได้ทดลองใช้อาวุธและอุปกรณ์การรบมากมาย ร่วมถึงทำความคุ้นเคยแผนที่ต่าง ๆ ก่อนไปลุยสนามรบจริง ส่วนการเข้าร่วมแคลน นอกจากจะได้เล่นกับเพื่อนที่ไว้ใจได้แล้ว ผู้เล่นจะได้รับบูสต์ค่าประสบการณ์และรางวัลพิเศษที่เป็นประโยชน์ต่อความคืบหน้าส่วนตัวด้วย
Zombies
สานต่อเนื้อเรื่องของ Dark Aether ที่เปิดตัวครั้งแรกใน Call of Duty: Black Ops Cold War ด้วยฉากและเรื่องเล่าใหม่ในสงครามโลกครั้งที่สอง เริ่มต้นที่ซากปรักหักพังของสตาลินกราด ผู้เล่นสี่คนจะต้องร่วมมือกันในปฏิบัติการ Der Anfang ต่อสู้กับฝูงซอมบี้ที่โอแบร์ฟือแรร์ โวลฟรัม ฟอน ลิสท์ นาซีผู้ปวารณาตนรับใช้อดีตเจ้าแห่ง Dark Aether และมีพลังในการทำให้ซากศพกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง
ใน Der Anfang ผู้เล่นต้องสร้างสัมพันธ์กับแก่นแท้แห่ง Dark Aether เพื่อเดินทางผ่านพอร์ทัลไปสู้กับกองทัพซอมบี้และทำภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งจะได้รับทรัพยากร เช่น แก่นแท้, ซาก และหัวใจสังเวย สำหรับพัฒนาอาวุธอุปกรณ์ที่โต๊ะประดิษฐ์ หรืออัพเกรดความสามารถต่าง ๆ ที่แท่นบูชาแห่งพันธสัญญา
หลังทำภารกิจที่ 4 เสร็จสิ้น ผู้เล่นสามารถลองเล่น Exfil เพื่อหนีเอาชีวิตรอดและรับค่าประสบการณ์โบนัส ผู้เล่นที่เล่นเป็นครั้งแรกสามารถเลือกแมตช์เล่นคนเดียวเพื่อทำความเข้าใจประสบการณ์โหมด Zombies ก่อนไปเล่นแมตช์สาธารณะกับผู้เล่นอื่นได้
ฟีเจอร์ใหม่: แท่นบูชาแห่งพันธสัญญา
เมื่อได้รับหัวใจสังเวยสามารถเอาไปใช้ที่แท่นบูชาแห่งพันธสัญญา เพื่ออัพเกรดความสามารถใหม่ ๆ ที่มีให้เลือกใช้มากมาย เช่น แดนมลทินที่เพิ่มการทำความเสียหายเมื่อยืนอยู่ในพื้นที่, กระสุนเกรมลินช่วยรีโหลดให้อาวุธที่ไม่ได้ติดตั้งอยู่แบบอัตโนมัติ, ไครโอฟรีซยิงแล้วมีโอกาสลดความเร็วศัตรู ผู้เล่นสามารถติดตั้งพันธสัญญาพร้อมกันได้สูงสุด 3 แบบ ทำให้เกิดการผสมผสานยุทธวิธีได้มากมาย ยิ่งอยู่รอดนานเท่าไร ความหายากของพันธสัญญาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
คำแนะนำ 10 ข้อสำหรับ 10 ชั่วโมงแรก
1. ตั้งค่าให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเล่นบนเครื่องคอนโซลหรือคอมพิวเตอร์ ผู้เล่นควรใช้เวลาสักหน่อยในการทดลองปรับแต่งการควบคุม ความไวในการเล็ง หรือทัศนวิสัยและสีขององค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อให้ได้ประสบการณ์การเล่นที่ดีที่สุด
2. เล่นแคมเปญก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นหน้าใหม่และผู้เล่นที่ห่างหายไปนาน แคมเปญเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมที่สุดที่จะได้รับความรู้เบื้องต้นสู่โลกแห่งการรบของ Vanguard ก่อนเข้าแข่งขันในโหมดผู้เล่นหลายคน
3. เลือกอาวุธแล้วลุยเลย ในโหมดผู้เล่นหลายคนและ Zombies เมื่อกำจัดสัตรูแล้ว ผู้เล่นจะได้รับค่าประสบการณ์ของอาวุธ สำหรับปลดล็อกอุปกรณ์เสริมใหม่ ๆ เพื่อเอาไว้ใช้ปรับแต่งอาวุธ ผู้เล่นควรทดลองใช้อาวุธในหมวดหมู่ต่าง ๆ เพื่อค้นหาที่สำหรับตัวเอง
4. ทำภารกิจ หากแค่อยากฆ่าก็ลุยทีมเดธแมตช์ได้เลย แต่ถ้าไม่ใช่แบบนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือทีมและได้ค่าประสบการณ์คือการทำภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขังเป้าหมายในการครอบงำ หรือเก็บแท็กยืนยันการสังหาร หากมุ่งมั่นกับการทำภารกิจ ความสามารถของผู้เล่นจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน
5. เน้นฆ่าต่อเนื่องต้นทุนต่ำ ต้นทุนต่ำไม่ได้แปลว่าราคาถูก สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ถือเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสกับความน่าตื่นเต้นของการฆ่าต่อเนื่องตั้งแต่เริ่ม ลองใช้ข่าวกรองเพื่อเปิดเผยตำแหน่งของศัตรูที่อยู่ใกล้เคียง ใช้เครื่องบินสอดแนมเพื่อเผยตำแหน่งศัตรูให้ทุกคนในทีมทราบ และใช้ระเบิดร่อนถล่มเพื่อทำลายภารกิจของศัตรูอย่างรวดเร็ว
6. ทำความท้าทายให้เสร็จสิ้น มุ่งหน้าไปยังเมนูความท้าทายในโหมดผู้เล่นหลายคนและ Zombies เพื่อดูภารกิจเฉพาะเมื่อทำแล้วจะได้รับค่าประสบการณ์โบนัสและไอเทมสำหรับการตกแต่ง เช่น การ์ดเรียกพลใบใหม่ นี่เป็นวิธีที่เหมาะอย่างยิ่งในการพัฒนาความสามารถ เพราะผู้เล่นจะได้ลองท้าทายภารกิจที่อาจมองข้ามไป
7. เช็คค่ายทหาร ค่ายทหารเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้เล่นต้องไป เพื่อติดตามความคืบหน้าในปัจจุบันและสร้างเอกลักษณ์ให้ตัวเองในโหมดแคมเปญและผู้เล่นหลายคน นอกจากนี้ยังสามารถดูค่าสถิติต่าง ๆ และอันดับในปัจจุบัน, สถิติการต่อสู้ เหรียญที่ได้รับมาแล้ว และยังเป็นที่สำหรับปรับแต่งโปรไฟล์ด้วยการ์ดเรียกพล, กรอบ, ฉายาผู้เล่น, ตราสัญลักษณ์ และท่วงท่ากับการพ่นสีต่าง ๆ
8. เชิญเพื่อน ๆ และเข้าแคลน ด้วยความสามารถในการเชื่อต่อกับทุกแพลตฟอร์มที่รองรับ การจัดกลุ่มเล่นเกมกับเพื่อก็กลายเป็นเรื่องง่าย การสังหารฝูงซอมบี้หรือทำภารกิจร่วมกันกับเพื่อนย่อมได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า อย่าลืมสร้างแคลนเพื่อรับรางวัลที่มากขึ้นจากการเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยรบ
9. ลองดู Battle Pass แบตเทิลพาสประจำฤดูกาลที่หกของ Black Ops Cold War มาพร้อมระดับฟรี 24 ระดับใน Vanguard ความคืบหน้าที่มีร่วมกันระหว่างแคมเปญ Zombies และ Warzone รวมทั้งระดับฟรีจะกระจายไปตามพาสอย่างเหมาะสมแก่ผู้เล่นแต่ละคน ผู้เล่นสามารถซื้อแบตเทิลพาสในตอนเปิดตัวเพื่อเข้าถึงเนื้อหาทั้ง 100 ระดับ เช่น สกินเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ, พิมพ์เขียวอาวุธ, ตราสัญลักษณ์, ไอเทม และคะแนน Call of Duty ที่มากพอให้ซื้อแบตเทิลพาสต่อไปได้
10. ยิ่งฝึกยิ่งเก่ง ไม่มีใครบอกว่าสงครามเป็นเรื่องง่าย แม้จะพ่ายแพ้แมตช์แรก ๆ ก็ขอให้ใจเย็นแล้วเล่นต่อไป ยิ่งเข้าใจความหลากหลายของแผนที่ โหมด อาวุธ และระบบต่าง ๆ ใน Vanguard ก็จะยิ่งมั่นใจและมีทักษะพอให้รับมือได้แม้กระทั่งสถานการณ์ที่ยากเย็นที่สุด
"Call of Duty: Vanguard" วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนแพลตฟอร์ม Xbox Series X|S, Xbox One, PlayStation 5, PlayStation 4 และ PC ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.callofduty.com
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับข่าวสารวงการเกมครับ*