xs
xsm
sm
md
lg

Review: Marvel's Guardians of the Galaxy สตาร์ลอร์ดกับลูกกรอกทั้งสี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แนว แอ็คชั่นผจญภัย
ระบบ PS5, PS4, Xbox Series, Xbox One, PC

เรตเกม PEGI: 16 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป

แก๊งค์ฮีโร่ตัวป่วนหวนกลับมาพิทักษ์กาแลคซีอีกครั้ง ในรูปแบบเกมแอ็คชั่นผจญภัยอาร์พีจีอันมี(เกือบ)ทุกสิ่งอย่างที่แฟนๆล้วนใฝ่ฝัน

สำหรับแฟนมาร์เวลทั้งหลาย เมื่อเห็นชื่อค่าย Square Enix ก็อย่าเพิ่งเตลิดขวัญหนีดีฝ่อตกใจไป เพราะผลงานเกมแอ็คชั่นซูเปอร์ฮีโร่ตัวใหม่ล่าสุดนี้เป็นฝีมือสร้างสรรค์ของสตูดิโอ Eidos Montreal อีกหนึ่งทีมพัฒนาในสังกัดสแควร์เอนิกส์ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตัวเกม Marvel's Avengers ที่เคยทำใครต่อใครรู้สึกเฟลผิดหวัง ดังนั้นก่อนที่จะเล่นจึงอยากให้หลายคนลบลืมภาพความทรงจำเลวร้ายเก่าๆคว่ำแก้วเทน้ำเสียทิ้งไป แล้วลองเปิดใจอีกครั้งเพื่อซึมซับประสบการณ์ใหม่ที่รับรองว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยเดิมแน่นอน

อย่าห่วงน่า คนละทีมงานกัน
ภายใน Guardians of the Galaxy ฉบับวิดีโอเกมนี้ ทุกอย่างจะอ้างอิงยึดตามหนังสือคอมิคเป็นหลัก ฉะนั้นแล้วจงอย่าแปลกใจหากคุณได้ยินเสียงพากย์ที่ไม่คุ้นหูหรือเห็นใบหน้าตัวละครที่ดูแตกต่างผิดแผกไปจากเวอร์ชันภาพยนตร์ โดยเนื้อหาของเกมจะบอกเล่าถึงเหตุการณ์หลายปีหลังเกิดมหาสงครามครั้งใหญ่ในจักรวาล ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังคงหลงเหลือเศษซากจากสงครามครั้งนั้นให้ได้เห็นกันอยู่ บางอย่างเป็นเพียงแค่กองขยะ ในขณะที่บางชิ้นกลับซุกซ่อนมูลค่า และเป็นธรรมดาที่แก๊งค์ฮีโร่จำแลงกิเลสหนาตัณหาจัดอย่างพวกเราจะนึกอยากฉกฉวยหาความร่ำรวยจากมัน แต่ทว่าของบางสิ่งและการตัดสินใจบางอย่างมันก็อันตรายเกินกว่าที่พวกเขาวาดฝัน นั่นเองจึงเป็นชนวนจุดเริ่มต้นการเดินทางผจญภัยข้ามดวงดาวของผองคณะกอบกู้กาแลคซีเพื่อหวังแก้ไขในสิ่งเละเทะที่พวกเขาเป็นคนก่อ

เราจะได้สวมบท สตาร์ลอร์ด เจ้าแห่งการบินยิงกลางเวหา
ด้วยพื้นฐานเกมเพลย์ที่เป็นรูปแบบแอ็คชั่นชูตติ้งมุมมองบุคคลที่สาม มันจึงไม่มีใครในทีมสมาชิกการ์เดี้ยนที่เหมาะสมเป็นตัวยืนพระเอกหลักของเกมได้มากเท่ากับ "ปีเตอร์ ควิลล์" หรือที่เรารู้จักกันในฉายา สตาร์ลอร์ด อีกแล้ว โดยตัวเราจะได้สวมวิญญาณเล่นเป็นพ่อหนุ่มลูกครึ่งมนุษย์โลกผู้สวมใส่แจ็คเก็ตหนัง ออกผจญภัยต่อสู้ควงปืนฝาแฝดคู่ใจกระหน่ำรัวกระสุนใส่ศัตรูไม่ยั้ง ใช้แว่นตาไฮเทคของเขาสแกนวัตถุเพื่อแก้ปริศนาเปิดทางไปต่อ สลับกับความสามารถพุ่งแดชหลบหลีกเหาะเหินกลางอากาศด้วยร้องเท้าบูทติดไอพ่น ไปตลอดทั้งเกมตั้งแต่เริ่มจนจบเลยทีเดียวเชียวแหละ ซึ่งฟังดูแล้วก็น่าแปลกประหลาดใจอยู่เหมือนกันสำหรับเกมที่ชื่อขึ้นต้นด้วยตัวหนังสือบักเป้งว่า Guardians of the Galaxy

ลอร์ด...ตลอดศก

แล้วก็ไอ้หลอด!! (น้ำเสียงร็อคเก็ต ชักเริ่มโมโห)
ถึงแม้เราจะบังคับเล่นได้แค่ตัวละครเดียว แต่พอลองเล่นสัมผัสมันจริงๆคุณจะไม่มีช่วงเวลาที่รู้สึกเหงาหรอกนะ เพราะสมาชิกในทีมที่เหลือทั้ง 4 จะคอยหมุนเวียนสับเปลี่ยนลงมาช่วยเป็นเพื่อนร่วมเดินทางคลายเหงาให้กับคุณ บางฉากอาจมากันสองคน ในขณะที่บางฉากอาจลงมาครบพร้อมหน้าแบบฟูลทีม (โดยเฉพาะเวลาสู้กับบอส) ซึ่งตัวละครลูกทีมที่ถูกบังคับโดยสมองกล AI เหล่านี้จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นอยู่ตลอด เช่นว่าเป็นเพื่อนชวนคุยสนทนาปราศัยระหว่างเดินสำรวจฉาก บอกใบ้ให้คำแนะนำต่างๆ ใช้ทักษะของพวกมันช่วยเราแก้ปริศนาอย่างเจ้าต้นไม้พูดได้ที่สามารถสร้างสะพานไม้ให้เราเดินข้าม, พี่กล้ามโตสามารถยกเคลื่อนย้ายของหนักๆ หรือเจ้าแรคคูนอารมณ์บูดที่สามารถแฮคอุปกรณ์ต่างๆได้ และที่สำคัญยิ่งคือพวกมันทุกตัวจะยื่นมือมาช่วยเหลือในการต่อสู้ด้วย โดยเราสามารถกดปุ่ม L1 เพื่อเรียกใช้สกิลพิเศษของพวกมันแต่ละตัวได้ตามสถานการณ์ ยกตัวอย่างหากเจอศัตรูว่องไวก็ใช้รากไม้ของกรูทหยุดการเคลื่อนไหว หรือถ้าศัตรูตัวใหญ่ก็สั่งให้แดร็กเข้าไปจ้วงแทงให้มันชะงักรับแดเมจไปเต็มๆ

ถึงบังคับได้ตัวเดียวแต่เราไม่เคยเหงา เพราะมีพวกเขาอยู่เคียงข้าง

หน้าที่แฮคเป็นของนายนะ ร็อคเก็ต

สั่งกรูทให้หยุดการเคลื่อนไหวของศัตรู
ภาพรวมของเกมค่อนข้างหนักไปทางแอ็คชั่นกึ่งวางแผน ที่เราต้องบังคับสตาร์ลอร์ดบินๆยิงๆหลบๆไปพร้อมกับการออกคำสั่งให้แก่สมาชิกเพื่อนร่วมทีม ยิ่งเราโจมตีทำคอมโบได้อย่างลื่นไหลต่อเนื่องมากเท่าไหร่ตัวคูณก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นตาม และช่วยให้เกจคอมโบของเราขยับขึ้นไต่ระดับจาก Fantastic, Incredible, Uncanny, Amazing ไปจนแตะสูงสุดที่ Marvelous ได้ไวมากขึ้นเท่านั้น จะว่าไปมันก็คล้ายๆกับเกจคอมโบในซีรีส์เกมเดวิลเมย์ครายนั่นแหละ เพียงแต่เกมนี้มันจะไม่ได้มีไว้แค่ประดับอวดโชว์บ่งบอกความเทพเฉยๆ เพราะยิ่งถ้าหากเราสะสมทำคอมโบได้สูง เกจการประเมินผลในช่วงท้ายก็จะยิ่งเพิ่มพูนเยอะขึ้นตาม ส่งผลให้เราได้รับแต้มพอยท์ไปปลดล็อคสกิลใหม่ๆให้ตัวละครเก่งเร็วขึ้นด้วยนะเออ

ระหว่างเลือกคำสั่งสกิล เวลาในเกมจะช้าลง (สามารถปรับเร่งหรือหยุดได้ในเมนูออพชั่น)

เกจคอมโบกับชุดแจ๊คเก็ตสีแดง ดันเต้ นี่เพื่อนนายใช่มั้ย?

คอมโบยิ่งเยอะ EXP ยิ่งเพิ่มไว

เอาแต้มพอยท์ที่ได้มาปลดสกิลให้กับสมาชิกในทีม
ตัวเกมเลือกใช้ Dawn Engine เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ ซึ่งเป็นเอนจิ้นที่เคยถูกใช้สร้างเกม Deus Ex: Mankind Divided มาแล้วก่อนหน้านี้ และต้องยอมรับว่ามันช่างสวยงามดีจริงๆ โดยเฉพาะฉากตอนเดินสำรวจดวงดาว เดินชมยานอวกาศ และอาคารสถานที่ต่างๆ ที่ดูใส่ใจรายะเอียดเป็นพิเศษจัดเต็มสีสันเหนือล้ำจินตนาการ เพราะด้วยความที่ขนาดสเกลของเกมมันระดับกาแลคซีไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนดาวโลกสีฟ้าตัดเขียว ทางทีมงานดีไซน์ออกแบบเลเวลจึงมีอิสระในการปลดปล่อยไอเดียหลุดโลกของตนได้แบบเต็มเหนี่ยว บางฉากอาจทำให้คุณถึงขั้นร้องว้าว ขณะที่อีกหลายๆฉากคุณจะรู้สึกอยากจิ้มกดปุ่มถ่ายรูปเซฟเก็บไว้ดู (มันงามขนาดนั้นจริงๆ) หากจะหาข้อติมันก็คงเป็นภาพกราฟิกตอนต่อสู้เท่านั้น ที่ฉากระเบิดและเอฟเฟกต์อะไรต่างๆทำมาแบบง่ายๆง่อยๆไปหน่อย เหมือนทีมพัฒนาเขาจงใจลดทอนดีเทลมันลงมาเพื่อให้การทำคอมโบสั่งแผนของเราดูสมูธลื่นไหลมากที่สุด ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นพอยอมความกันได้ เราไม่ค่อยมายด์ตรงจุดนี้สักเท่าไหร่

*0* โว้วว

ดูแสงเงาสะท้อนซะก่อน

ถ้าไม่บอกนึกว่าเกมของ โซนี่
ว่ากันตามตรงแบบไม่อ้อมค้อม เกมผองคณะพิทักษ์จักรวาลจริงๆมันก็คือเกมแอ็คชั่นธรรมดาดาษดื่นทั่วไปนี่แหละ ที่ให้ผู้เล่นโจมตีเลี้ยงคอมโบ เรียกใช้สกิลท่าไม้ตาย มีปุ่มควิกไทม์อีเวนท์ขึ้นมาให้กด สลับกับขับยานเป็นสีสันบ้างเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้ตัวเกมโดดเด่นพิเศษใส่ไข่เหนือกว่าเกมแอ็คชั่นอื่นๆขึ้นมา คงเป็นเนื้อหาการดำเนินเรื่องที่ราวกับว่าค่าย Marvel ลงมาคุมงานด้วยตัวเอง เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในเกมคุณจะรู้สึกเหมือนตนกำลังนั่งรับชมภาพยนตร์ในจักรวาล MCU เรื่องหนึ่งอยู่ แม้พล็อตเรื่องจะแตกต่างไปจากที่เราเคยดูบนจอใหญ่ แต่วิธีการเล่าที่ให้ความสำคัญในมุมมองของฝั่งวายร้าย แอบหยอดมุกตลกอยู่เป็นระยะ ชอบเล่นกับบุคลิกปมด้อยของตัวละคร ปะติดปะต่อเชื่อมโยงเรื่องราวได้แบบลึกซึ้งมีเหตุมีผล (มิใช่เอะอะเจอหน้าฆ่าฟันแล้วจากกันดื้อๆเพราะชื่อแม่) คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่า ใช่เลยนี่แหละ "มาร์เวล"

มันก็เกมแอ็คชั่นธรรมดาๆนี่แหละ

มีขับยานบินแบบ Star Fox บ้างเป็นครั้งคราว

รวมถึงควิกไทม์อีเวนท์ เกาะดีๆอีหนู พี่ไม่อยากเป็นหนึ่ง จักรวาล

แต่ที่เหนือกว่าเกมทั่วไปคือ ด้านเนื้อเรื่อง (ตัวอะไรใหญ่ๆวะนั่น)
นอกจากนี้อีกหนึ่งเอกลักษณ์จุดเด่นของเกม นั่นก็คือการที่ผู้เล่นมีอิสระในการเลือกตัดสินใจกระทำและเลือกออพชั่นคำตอบในบทสนทนาให้กับตัวละคร ซึ่งแต่ละคำตอบแต่ละหนทางที่เราเลือกจะส่งผลต่อภารกิจและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร แม้ผลพวงของมันอาจจะไม่ได้ใหญ่หลวงอะไรมากมายนักถึงขนาดพลิกแพลงหักมุมโครงเรื่องหลักหรือเปลี่ยนแปลงฉากจบได้ ถึงอย่างนั้นมันก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็นอารมณ์ของตัวละครในหลากหลายแง่มุม ได้เห็นฉากซีนแปลกๆที่ไม่ค่อยได้พบเห็นกันบ่อยๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณต้องเข้าใจเก็ตมุกในสิ่งที่ตัวละครกำลังพูดสื่อสารอยู่ก่อนนะ ต้องตีประโยคให้แตกว่าเขาคนนั้นกำลังพูดจริงหรือแค่หยอกเล่นประชดประชัน ซึ่งตรงจุดนี้จำเป็นต้องอาศัยทักษะความรู้ความเข้าใจในสำนวนภาษาอังกฤษสูงในระดับหนึ่งเลยละ หากแปลได้แค่งูๆปลาๆคุณจะไม่สามารถเข้าถึงความสนุกปนอารมณ์ขันของเกมได้แบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

เมื่อทีมมีปัญหาไม่ลงรอย เราต้องช่วยเคลียร์หรืออาจทำให้เพลียขึ้น

เลือกคำตอบซ้าย ขวา หรือนิ่งใบ้เป็นไทยเฉย

บางตัวเลือกเราอาจได้เห็นอะไรดีๆ (แม้ถูกเซ็นเซอร์ ตามสไตล์ดิสนีย์)
เรื่องราวในโหมดแคมเปญจะถูกแบ่งออกเป็น Chapters ย่อยๆ และเนื้อหาแต่ละตอนก็ค่อนข้างยาวพอตัวขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากสำรวจ อยากคุยสนทนา อยากรู้จักโลกภายในเกมมากขนาดไหน เพราะตลอดเส้นทางการผจญภัยตัวเกมจะสอดแทรกรายละเอียดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับตัวละครและจักรวาลผ่านเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างกลมกลืนแนบเนียนดูไม่ยัดเยียดจนเกินไป และตามฉากก็ยังมีเศษชิ้นส่วนอะไหล่ให้ตามหาเพื่อเอาไปให้นักประดิษฐ์หน้าขนของเราอัปเกรดอาวุธอุปกรณ์ให้ ในขณะที่หีบกล่องสมบัติก็ซุกซ่อนสกินใหม่ๆเอาไว้เปลี่ยนลุคตัวละคร พัซเซิลปริศนาต่างๆก็สร้างสรรค์หลากหลายและฝึกสมองไปด้วยในตัว ทั้งหมดทั้งมวลล้วนช่วยส่งเสริมให้มันเป็นประสบการณ์เกมที่ค่อนข้างเต็มอิ่มลงตัว ถึงแม้ปราศจากโหมดออนไลน์ แต่เมื่อเล่นจบคุณจะไม่รู้้สึกว่ามันขาดอะไรไป

อะไหล่พาร์ทตกอยู่ตามพื้นต้องรีบเก็บ

เพื่อเอาไปให้เจ้าแรคคูนของเราอัปเกรด

ส่วนกล่องสีชมพู ข้างในคือชุดสกินตัวละคร
"ปกติแล้ว ถ้าเป็นเกมแนวแอ็คชั่นทั่วไป จิตใจเรามักจะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ มองหาวิธีทำให้ตัวเราเหนือกว่าศัตรู แต่สำหรับเกม Guardians of the Galaxy แล้วเรากลับไม่ค่อยรู้สึกซีเรียสจริงจังอะไรกับเกมเพลย์คอมแบทเท่าไหร่นัก ราวกับการต่อสู้เป็นเพียงมินิเกมไม้ประดับคั่นระหว่างฉากมูวี่คัตซีนเท่านั้น อย่าเพิ่งเข้าใจเราผิดนะ เกมเพลย์สู้รบใส่คำสั่งมันก็ทำมาได้สนุกในระดับหนึ่ง เพียงแต่เมื่อเทียบกับฉากซีนบอกเล่าเรื่องราวแล้วมันเหมือนทีมพัฒนาเขาใส่ใจโฟกัสทุ่มเทเวลาไปตรงจุดนั้นมากกว่าเสียเยอะ พูดไปมันก็คล้ายๆหนัง CG เรื่องยาวที่ใส่ฉากบู๊แอ็คชั่นให้ผู้ชมได้มีปฏิสัมพันธ์ และเช่นเดียวกันกับสื่อภาพยนตร์ที่มอบประสบการณ์แบบทริปวันเวย์ อรรถรสความสนุกของเกมนี้มันจึงคงอยู่แค่เฉพาะการเล่นรอบแรกเพียงรอบเดียว"

ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดีๆที่มีให้นะ (เล่นจบก็บอกลาตัวเกมได้เลย)
เกมการเล่น8.5
กราฟิก9
เสียง9
ความคิดสร้างสรรค์9
ภาพรวม8.9

ข้อดี : กราฟิกสวยลื่นไหล, ดนตรีประกอบถูกใจขาร็อค, บทพล็อตวางมาดีเล่าเรื่องได้น่าตามติด, เกมเพลย์ชูตติ้งผสมวางแผนให้เราต้องคิด, ออพชั่นตัวช่วยเหลือมากมายคนไม่ถนัดแนวแอ็คชั่นก็ผ่านได้, อัดแน่นดีเทลสอดแทรกเกร็ดความรู้เอาใจแฟนคลับ, ผลลัพธ์เส้นทางแปรเปลี่ยนได้ตามที่เราเลือก, เล่นไปอมยิ้มไปดูตัวละครกัดกันยิงมุกสนุกเฮฮา และให้อารมณ์ประดุจดังชมหนังมาร์เวลเรื่องหนึ่ง
ข้อเสีย : บังคับได้แต่ตัวละครสตาร์ลอร์ด (อดเล่นแรคคูนตัวโปรดเลย), เวลาออกคำสั่งตอนศัตรูกรูเข้ามาเยอะๆแอบยุ่งเหยิงวุ่นวายเล็กน้อย และมีให้เล่นแค่โหมดแคมเปญซิงเกิลเพลย์เยอร์

สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Bandai Namco Entertainment








*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*

มันสวยจริงจริ๊ง

เรื่องกวนใจมักมาหาพวกเราเสมอ

อยากเล่นท่ายากใช่มั้ย กามอร่า จัดไป!

อ้าว ปืนพี่เป็นอะไรไปเนี่ย

อ๋อ ใช้แบบนี้นี่เอง

โตไปอย่าเลียนแบบพี่ตูนนะลูก

ครับแม่ 555

สภาพดาวแต่ละดวงไม่เคยซ้ำกันเลย

ยิ่งลึกยิ่งน่าค้นหา

โอ้ว น้องนางเธอช่างเนื้อแน่น

จู่ๆก็เปลี่ยนเป็นเกม Watch Dogs ซะงั้น

ไหนบอกล้มธานอสได้ ไหงลงไปนอนก่อนเพื่อนเลยละ

เฮ้ย แดร็กซ์ เอ็งไหวมั้ยเนี่ย...

ตูมตามพระรามแปด

มาๆสุมหัวแก้เกมกัน อย่าไปฟัง ไอ้จันโซลชา

ผู้นำดีชีวิตเปลี่ยน ทั้งในสนามและความเป็นจริง ^^


กำลังโหลดความคิดเห็น