แนว อาร์พีจี
ระบบ PC, PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series, Switch, Stadia
เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
ผลงานอาร์พีจีอินดี้เกือบดี ที่บอกเล่าการผจญภัยของเด็กสาวผู้มีพลังเวทย์สามารถมองเห็นเหตุการณ์ในอดีตและอนาคต ซึ่งหยิบนำคอนเซปต์เรื่องของ "เวลา" มาปรับใช้ได้อย่างน่าสนใจ
สำหรับ Cris Tales นั้น มันเป็นเกมอินดี้จากสตูดิโอพัฒนาอิสระชื่อไม่คุ้นอย่าง Dreams Uncorporated ซึ่งนำเสนอเรื่องราวการเดินทางของ "คริสเบลล์" (Crisbell) หญิงสาวกำพร้าผู้ค้นพบพลังที่หลับใหลซ่อนอยู่ในตัว ภายหลังจากที่เธอได้พบกับ Matias เจ้ากบสีเหลืองพูดได้ที่บอกว่าตัวเธอนั้นเป็นจอมเวทย์แห่งกาลเวลา มีความสามารถพิเศษล่วงรู้ได้ถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นอดีต และสิ่งที่กำลังจะเกิดในอนาคต โดยเขาต้องการพึ่งพาพลังของเธอเพื่อมาใช้ต่อกรกับเหล่าลูกสมุนของจักรพรรดินีใจร้าย Empress of the Ages ที่มุงหมายเผาทำลายอาณาจักรคริสตัลแห่งนี้
ระหว่างทาง เราจะได้พบเจอตัวละครร่วมคณะอื่นๆที่มีอุดมการณ์คล้ายกัน อาทิเช่น Willhelm พ่อมดกาลเวลาหน้าเด็กผู้โกงอายุขัย หรือว่าจะเป็น "คริสโตเฟอร์" (Cristopher) หนุ่มจอมเวทย์ธาตุผู้มีชื่อต้นคล้ายกันกับเรา ซึ่งตัวเกมพยายามเลียนแบบการเดินเรื่องตามสไตล์เกมอาร์พีจีญี่ปุ่น (แม้จะไม่มีสายเลือดซามูไรอยู่ในทีมงานของพวกเขาเลยก็ตาม) เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวละคร ออกจากหมู่บ้านท่องผจญโลกกว้าง หาผองเพื่อนปาร์ตี้ พูดคุยทำไซด์เควสต์ช่วยเหลือชาวเมือง แล้วไปจบที่ปราบอสูรจอมมาร โดยในฉากฟิลด์โล่งๆหากเราเดินสะดุดตอเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่สุ่มปรากฏเข้าให้ ตัวเกมจะตัดสลับเข้าสู่ฉากต่อสู้อัตโนมัติ ให้เรากับมอนสเตอร์ผลัดกันออกคำสั่งโจมตี ร่ายสกิล เมื่อถึงตาของตนในลักษณะของเกมเทิร์นเบส นั่นเอง
จะว่าไปแล้วเกมนี้มันก็เหมือนกับเกมอาร์พีจีธรรมดาทั่วไปที่เราเคยเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่สิ่งที่ทำให้มันโดดเด่นสะดุดตาดูพิเศษขึ้นมา มันอยู่ตรงที่ลูกเล่นในเรื่องของ "เวลา" อันเป็นแก่นหัวใจหลักของตัวเกม โดยตัวเอก คริสเบลล์ เธอจะสามารถมองเห็นภาพอดีต (ซ้าย) ภาพปัจจุบัน (กลาง) และภาพอนาคต (ขวา) ไปพร้อมๆในเวลาเดียวกัน ช่วยให้เราสามารถติดตามหาสิ่งของที่ถูกลืมทิ้งไว้ หรือหยิบยืมเอาผลผลิตในภายภาคหน้ามาใช้ก่อนในตอนนี้ แถมมันมิได้มีประโยชน์เพียงแค่การช่วยเหลือชาวบ้านเท่านั้นนะ เพราะลูกเล่นของเวลายังถูกนำมาใช้ในยามต่อสู้ได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถย้อนเวลาศัตรูกลับไปสู่อดีตในสมัยตอนที่มันยังเป็นเด็กแบเบาะไร้กำลัง หรือว่าวางยาพิษใส่มอนสเตอร์แล้วเร่งเวลาไปยังอนาคตให้แดเมจสะสมส่งผลในรวดเดียวตายไวทันที อะไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งมอนสเตอร์แต่ละตัวต่างก็มีจุดด้อยจุดแข็งที่แตกต่างกันไปตามช่วงอายุขัย บางตัวอาจเก่งตอนแก่ แต่อ่อนแอตอนเด็ก ขณะที่บางตัวอาจตรงข้ามสวนทางกัน เรียกว่ามีอะไรให้ผู้เล่นได้ศึกษาทดลองพลิกแพลงกลยุทธ์ได้หลากหลายมากมายเลยทีเดียว
ในส่วนของภาพกราฟิก ตัวเกมเลือกใช้งานวาดศิลปะสไตล์ภาพการ์ตูน 2D มานำเสนอถ่ายทอดดินแดนเทพนิยายแฟนตาซี เอฟเฟกต์น้ำไหล เปลวไฟ และการใช้สกิลร่ายเวทมนตร์ต่างๆ ล้วนถูกสร้างมาแบบง่ายๆคล้ายกับเกมดาวน์โหลดฟอร์มเล็ก แต่มองแล้วชวนรู้สึกประทับใจในความเรียบง่ายที่ดูดี อีกทั้งพวกเขายังแอบมีการใช้เทคนิค 3D โดยอาศัยภาพซ้อนทับและการเล่นกับความลึกของฉาก ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินสำรวจสภาพแวดล้อม 'ซ้ายขวาหน้าหลัง' ได้อย่างสนุกไม่จำเจ นอกจากนี้เสียงพากย์แบบฟูลวอยซ์เวลาตัวละครพูดคุยกับ NPC ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเสริมทำให้เราถลำดำดิ่งอินไหลไปกับบรรยากาศของเกมได้แบบไม่ยากเย็น
หากเป็นเกมอาร์พีจีอื่นๆ ส่วนใหญ่มักจะเชื้อเชิญให้ผู้เล่นหมั่นฟาร์ม พยายามสำรวจทุกสิ่ง ยิ่งสู้ยิ่งเก่ง แต่สำหรับเกมนี้แล้ว สมดุลบาลานซ์ อาจจะดูผิดเพี้ยนไปซักหน่อย จากจำนวนมอนสเตอร์ที่ขยันโผล่และความยากที่ไม่สอดคล้องกับระดับเลเวลของตัวละคร สู้เสร็จก็ไม่ดร็อปไอเทม เลเวลอัพก็ไม่ฟื้นฟูพลังให้ ยิ่งเล่นต่อหลอดเลือดและค่าพลังมานายิ่งลด ครั้นจะกลับมาฮีลที่จุดเซฟก็ทำไม่ได้ เพราะจำเป็นต้องใช้ไอเทมที่เรียกว่า "เต๊นท์" เพื่อนอนพักเอาแรง ซึ่งตัวเกมให้มาโคตรน้อยมีอยู่จำกัด ส่วนของรางวัลที่อยู่ภายในกล่องหีบสมบัติตามฉากก็ล้วนเป็นของธรรมดา ไม่ค่อยมีความสำคัญคุ้มค่าพอต่อการเสี่ยงชีวิตเสี่ยงเกมโอเวอร์เดินลึกเข้าไปเปิดมัน กลับกลายเป็นว่าหากอยากเล่นเกมนี้ให้ผ่าน คุณต้องก้มหน้าก้มตารีบวิ่งรีบเดินหาทางออกจากดันเจี้ยนให้ได้เร็วที่สุด ไม่ต้องสำรวจ ไม่ต้องค้นหา ไม่ต้องสนใจรับรู้อะไรใดๆทั้งสิ้น ซึ่งนี่ไม่ใช่หัวใจความสนุกของเกมอาร์พีจีสักนิดเลย
ด้วยความที่ตัวเกมไม่มีจุดเครื่องหมายกากบาทมาร์คให้ว่าเราต้องเดินไปตรงไหน ไม่มีแม็พแผนที่คอยช่วยบอกทางอำนวยความสะดวกให้ ผู้เล่นจึงต้องอาศัยใช้ทักษะการอ่านแปลข้อความตัวหนังสือที่ตัวละครพูดคุยกันอย่างเดียว ซึ่งในประโยคสนทนาจะซ่อนคำบอกใบ้ถึงสถานที่ที่เราต้องไปหรือคีย์ไอเทมจำเป็นที่เราต้องไปหา ซึ่งงานนี้หากใครถนัดช่ำชองภาษาอังกฤษก็ถือว่ารอดตัวไป แต่ถ้าใครไม่ถนัดเราก็ไม่รู้้ว่าจะช่วยยังไง เพราะที่หน้าสโตร์เขียนระบุเอาไว้ชัดเจนว่าตัวเกม รองรับภาษาไทย แต่เท่าที่สำรวจดูทั้งเมนูตั้งค่าเซตภาษาของเครื่อง เมนูออพชั่นต่างๆภายในเกม มันไม่มีตรงไหนเลยที่ให้เราสามารถปรับเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้ ไม่รู้ว่านี่เป็นความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารของทีมพัฒนาหรือพวกเขามีแผนปล่อยแพทช์อัปเดตภาษาไทยเข้ามาสู่เกมภายหลัง อันนี้เราก็ไม่อาจทราบได้ รู้อย่างเดียวคือตอนนี้เราต้องอดทนเล่นเกมในภาษาอังกฤษไปเท่านั้น
"พูดแล้วค่อนข้างน่าเหลือเชื่อสำหรับเกม Cris Tales ที่ถูกทำมาเพื่ออุทิศแด่ตำนานอาร์พีจีชื่อดังอย่าง Final Fantasy, Chrono Trigger และ Persona แต่ทีมผู้พัฒนาที่บอกว่าตนเป็นแฟนคลับเกมเหล่านั้น กลับมาตกม้าตายพลาดท่าง่ายๆในเรื่องของการออกแบบระบบบาลานซ์เกมเพลย์ให้สมดุลระหว่างความสนุกและความท้าทาย แม้คอนเซปต์เล่นกับ 'เวลา' มันจะดูแปลกใหม่น่าสนใจ แต่เมื่อเล่นไปคุณจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างของเกมอาร์พีจีตัวนี้ที่พยายามดันเราถอยห่างออกจากมัน"
| เกมการเล่น | 6 |
| กราฟิก | 7 |
| เสียง | 7 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 8 |
| ภาพรวม | 7 |
ข้อดี : ใส่เสียงพากย์มาให้แทบทุกตัวละคร, กราฟิกการ์ตูนงามสวย, เทคนิค 3D ช่วยให้งานภาพแบนๆดูมีมิติขึ้นมา และลูกเล่น "เวลา" อันชาญฉลาดไม่เหมือนใคร
ข้อเสีย : สมดุลบาลานซ์เกมยังมีปัญหา, เป็นอาร์พีจีที่ยากต่อการฟาร์ม, เรื่องราวสไตล์เทพนิยายอาจไม่ถูกจริตโดนใจวัยรุ่น และภาษาไทยที่ระบุไว้ชัดแต่กลับไม่รองรับ
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Ripples Thailand
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
