แนว แอ็คชั่นโอเพ่นเวิลด์
ระบบ PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series, PC
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
***จำเป็นต้องมีเกมภาคหลัก Watch Dogs Legion เพื่อเล่น***
การหวนคืนจอของตำนานนักล้วงข้อมูลมือพระกาฬที่ร้างลาวงการหายหน้าไปนาน ถึงแม้เขาจะมีสกิลทักษะควงปืนขั้นเทพและแทคทีมร่วมกับคู่หูแฮคเกอร์สุดทะเล้น แต่ทั้งสองก็มิอาจแบกความจืดชืดของตัวเกมเอาไว้ได้
สำหรับเนื้อหาเสริม Bloodline ที่แปลว่า "สายเลือด" นี้ มันเป็นเรื่องราวเล่าย้อนหลายเดือนก่อนเกิดเหตุการณ์ในเกมภาคหลัก Legion ถ่ายทอดผ่านสายตาของ "ไอเดน เพียร์ซ" (Aiden Pearce) ตำนานจารชนรุ่นเก๋าตัวละครเอกจากภาคแรก ที่ต้องหวนคืนสู่วงการอีกครั้งหลังวางมือไปนานจากงานล่าสุดในชิคาโก ซึ่งเหตุผลแรงจูงใจอย่างเดียวที่ทำให้เขาตัดสินใจรับภารกิจใหม่ นั่นเป็นเพราะมันมีอะไรเกี่ยวข้องกับ "แจ๊คสัน เพียร์ซ" (Jackson Pearce) หลานชายสุดรักที่ไม่ได้เจอกันหลายปีดีดัก ดังนั้นเพื่อเตือนภัยและปกป้องคนในครอบครัว เขาจึงต้องรื้อฟื้นทักษะเก่าๆ สลัดคราบชายชรา และมุ่งหน้าสู่มหานครลอนดอน
แม้พล็อตเรื่องจะมีเหตุผลฟังดูน่าสนใจ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว มันก็คือการรีไซเคิลหยิบนำแม็พเก่าเอาแผนที่ กรุงลอนดอน ของเดิมนั่นแหละกลับมาใช้ซ้ำตามธรรมเนียมนิสัยของค่ายยูบิซอฟต์ เขาแล โดยฉากหลังอาคารสิ่งปลูกสร้างทุกอย่างที่คุณเคยเห็นจากภาคหลัก ไม่ว่าจะหอคอยลอนดอน, จัตุรัสพิึคคาดิลลี, ชิงช้าสวรรค์, พระราชวังบัคกิงแฮม และสถานที่อันคุ้นเคยต่างๆ จะหวนกลับมาให้คุณได้ท่องสำรวจอีกรอบ เพียงแค่ต่างกันตรงที่คราวนี้ คุณไม่จำเป็นต้องปลดแอกเมืองหรือปลุกระดมผู้คน เพราะคุณเป็นแค่แฮคเกอร์ต่างถิ่นโดดเดี่ยวตัวลำพังที่บังเอิญแวะผ่านมาทำภารกิจของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้หวังเรียกร้องสร้างความเปลี่ยนแปลงใดๆ อีกทั้งเหตุระเบิดที่จุดชนวนเรียกทหารออกมาประกาศใช้กฎอัยการศึกเองมันก็ยังไม่ได้เกิดขึ้น
ดังภาพลักษณ์ที่เห็นตัวเอกของเรา เขาไม่ใช่บุรุษหนุ่มผอมเพรียวพกปืนหลายกระบอกเป็น 'คลังอาวุธเดินดิน' แบบเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว ด้วยวัยสังขารที่โรยราพุงเริ่มย้วยหนวดเคราเฟิ้มรกรุงรังเหมือนตาแก่ขี้เมา ดังนั้นจะให้บู๊ระเบิดภูเขาเผากระท่อมแบบภาคแรกคงเป็นไปไม่ได้ โดยตัวละคร "ไอเด็น" ในลุคใหม่นี้จะพกอาวุธปืนได้เพียงแค่สองกระบอก นอกนั้นจะเป็นพวกสกิลทักษะในการแฮคสิ่งของต่างๆ แต่ใช่ว่าเขาจะหมดน้ำยาไร้เขี้ยวเล็บนะ เพราะทีมงานได้เพิ่ม 2 อบิลิตี้ใหม่เข้ามาชดเชย นั่นคือลูกเล่นบัฟแดเมจปืนเวลาเรากดรีโหลดกระสุนได้ถูกจังหวะ กับความสามารถในการชะลอเวลาสั้นๆหลังเทคดาวน์ศัตรูด้วยปืน หรือพูดง่ายๆเขาคือตัวละคร "จอห์น วิค" เวอร์ชันอัปเกรดเสริมความสามารถในการแฮคลงไป นั่นเอง
ด้วยความสามารถที่ครบครันทั้งลีลาการใช้ปืนขั้นเทพ มีหุ่นยนต์แมงมุมติดอาวุธลอยได้คอยสนับสนุน แฮคโดรนบินก่อสร้างก็ยังได้ เสมือนยำรวมสกิลทุกตัวละครในภาคหลัก Legion มาใส่ไว้ในตัว "ไอเด็น" ผู้เล่นจึงไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนสลับไปใช้ตัวละครอื่นใดตลอดตั้งแต่ต้นจนจบเนื้อหาเสริมดังกล่าว (ถึงอยากก็ไม่มีให้เปลี่ยนหรอก) สำหรับสายสกิลที่มีให้เราปลดล็อคเพิ่มเติม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสกิลเดิมๆที่เราคุ้นเคย เช่น แจมปืนศัตรู อำพรางศพ แฮคโดรน-ป้อมปืน ไปจนถึงปลดล็อคอาวุธใหม่ๆ ที่เราเห็นแปลกตาจริงๆคงมีเพียง สกิลแฮคหุ่นยนต์คนเหล็ก ที่เป็นศัตรูชนิดใหม่แค่นั้น โดยในเนื้อหาเสริมนี้จะไม่มีระบบอัพเลเวลตัวละคร ไม่มีแต้ม Tech Points ให้ออกตามหา วิธีเดียวที่จะได้สกิลเหล่านี้มาใช้เราก็แค่เคลียร์ ภารกิจ ให้สำเร็จ ง่ายๆแบบนั้นแหละ
รูปแบบภารกิจในเกม จะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆนั่นคือ Main Mission เล่นตามเนื้อเรื่องกับ Resistance Mission ภารกิจเสริมริมทางช่วยเหลือกลุ่มต่อต้าน ซึ่งตัวเกมจะบังคับให้เราต้องเล่นทั้งสองภารกิจไปพร้อมๆกัน ไม่สามารถนั่งเล่นแต่มิชชั่นหลักเพื่อเร่งรีบจบเกมไวๆได้ โดยอาศัยข้ออ้างไม่ค่อยเนียนว่าตัวละคร NPC ต้องการเวลาเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจต่อไป ให้เราหาอย่างอื่นทำฆ่าเวลาไปพลางก่อน ซึ่งในเมืองลอนดอนอันอ้างว้างมันก็ไม่มีอะไรให้ทำหรอกนอกจากภารกิจเสริมไซด์มิชชั่นดังกล่าว หนำซ้ำภารกิจเสริมแต่ละอย่างเช่น แฮคข้อมูล ช่วยตัวประกัน ขับรถไล่ล่า ดวลปืนสู้ และชกมวย ก็ล้วนเป็นสิ่งที่เราเคยทำผ่านมือผ่านตามาแล้วจากตัวเกมภาคหลักแทบทั้งสิ้น
แถมภารกิจส่วนมากที่มีให้ทำก็ดันมุ่งเน้นทักษะการตอบสนองประยุกต์ด้นสดเสียเยอะ จากลอบเร้นแฮคระบบแบบเงียบเชียบ อยู่ดีๆก็บังคับสู้ศัตรูมากันเป็นโขยง บางทียืนคุยกันปกติเหมือนไม่มีอะไร สักพักก็ตุบตับซัดกันนัวราวอยู่เวทีราชดำเนิน หรือกำลังแอบขโมยของไม่ให้ใครเห็นแทบตาย พอขึ้นรถจับพวงมาลัยตำรวจก็พร้อมเข้าซิวเราทันทีอะไรแบบนี้ เรียกว่ามีน้อยมากแทบนับครั้งได้ที่เรารู้สึกเป็นยอดจารชนใช้มันสมองแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาด เพราะส่วนใหญ่มักลงเอยด้วยลีลาบู๊ล้างผลาญยิงกันสนั่นเมือง ทำเอาเราเกือบเป็นโรคไบโพลาร์ ปรับจูนอารมณ์แทบไม่ทันเลยทีเดียว
หากไม่มีอะไรติดขัด หรือรู้สึกท้อแท้เหนื่อยหน่าย ไม่หงุดหงิดใจหัวร้อนเลิกเล่นไปเสียก่อน เนื้อหาเสริม Bloodline ตัวนี้จะใช้เวลาเคลียร์ทุกอย่าง (เพราะถูกบังคับให้ทำ) ประมาณ 5 ชั่วโมง และช่วงท้ายมันยังมีเรื่องราวของ Wrench หนึ่งในสมาชิกเดดเซคตัวละครหลักจากเกม Watch Dogs 2 ถูกปลดล็อคมาให้เราได้เล่นกันอีกด้วย ซึ่งเขาคนนี้จะมีสไตล์การเล่นที่ตรงข้ามสวนทางกับ Aiden อย่างสิ้นเชิง โดยความสามารถของเขาจะหนักไปทางแฮคเจาะระบบ ถนัดสู้กับพวกโดรน พวกหุ่นยนต์โดยเฉพาะ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันเล็กน้อยเพิ่มเติมมูลค่าให้กับเจ้า DLC ตัวนี้ละนะ แต่จะคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปหรือเปล่านั้น ตัวคุณเองคงต้องเป็นคนตัดสินใจ
"Watch Dogs: Legion - Bloodline พูดแล้วก็น่าเสียดาย กับพล็อตเรื่องราวการเขียนบทที่อุตส่าห์วางมาดีแล้ว ได้เห็นตัวละครที่แฟนๆชื่นชอบกลับมาให้หายคิดถึง แต่ติดตรงวิธีการนำเสนอที่เหมือนพวกเขาคิดน้อยคิดง่ายไปหน่อย หยิบเอาฉากเก่าๆภารกิจเดิมๆจากภาคหลักมารีไซเคิลใช้ซ้ำจนเคยตัว ซึ่งเรื่องนี้คงเป็นปัญหาที่แก้ยากสำหรับ ยูบิซอฟต์ ในช่วงเวลานี้ที่กำลังเจอมรสุมการฟ้องร้อง ทีมงานฝีมือดีพากันเด้งหลุดลอยออกจากสตูดิโอ เอกลักษณ์ที่เคยมีในซีรีส์เกมดังต่างๆก็แทบไม่เหลือหลอ และเราเองก็แอบหวั่นใจไม่รู้เลยว่าอนาคตต่อจากนี้พวกเขาจะเดินไปในทิศทางใด"
เกมการเล่น | 6 |
กราฟิก | 8 |
เนื้อเรื่อง | 8 |
ความคุ้มค่า | 6 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 6 |
ภาพรวม | 6.8 |
ข้อดี: โครงเรื่องวางมาดีน่าสนใจ, กราฟิกดูสวยสมูธขึ้นเล็กน้อยถ้าเปิดเล่นบน PS5, ลูกเล่นบัฟปืน-หยุดเวลาของไอเด็น และตัวละคร Wrench ที่มาช่วยเติมสีสัน
ข้อเสีย: ปัญหาน่าปวดหัวเก่าๆจากภาคหลักยังไม่ได้รับการแก้ไข (ฟิสิกส์-AI), มหานครลอนดอนเปลี่ยวเหงาไม่มีอะไรให้สำรวจ, รูปแบบมิชชั่นซ้ำเดิมขาดความสดใหม่, ภารกิจเสริมที่มัดมือชกบังคับให้ต้องเล่น และเป็นเนื้อหา DLC ที่สั้นมากหากไร้ซึ่งไซด์มิชชั่น
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท ยูบิซอฟต์
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*