แนว สยองขวัญผจญภัย
ระบบ PS4, Xbox One, Switch, PC
เรตเกม PEGI: 16 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
ผลงานอินดี้สุดสยองจากทีมพัฒนาเล็กๆแต่ความสามารถเหลือล้นเกินตัว ที่พิสูจน์แล้วว่าความน่ากลัวชวนขนหัวลุก มันไม่จำเป็นต้องใช้เสียงดังปึงปังหรืออาศัยความมืดมัวเข้ามาช่วยเสมอไป
สำหรับ Little Nightmares ในภาคสองนี้ยังคงเป็นฝีมือการพัฒนาของ Tarsier Studios ทีมงานที่ในอดีตเคยมีส่วนช่วยทำเนื้อหาเสริมให้กับซีรีส์เกม LittleBigPlanet แถมยังเคยมีส่วนร่วมรับผิดชอบโปรเจกต์เกม Tearaway Unfolded อีกด้วย โดยผลงานสยองขวัญภาคใหม่ของพวกเขานี้ได้ฤกษ์วางจำหน่ายไปเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาบนเครื่องคอนโซลยุคก่อนอย่าง เพลย์สเตชัน 4 แต่ด้วยความสามารถเล่นเกมเก่าในคอนโซลรุ่นใหม่ของ โซนี่ เราจึงขออนุญาตหยิบนำมันมารีวิวบนเครื่อง เพลย์สเตชัน 5 ซึ่งจะว่าไปแล้วคุณภาพกราฟิกและเฟรมเรตก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกันเลย
ใครที่เคยสัมผัสภาคแรกมาก่อนคงคุ้นชินกับการบอกเล่าสื่อสารเรื่องราวผ่านฉากและแอ็คชั่นการกระทำของตัวละคร ซึ่งในภาคนี้ก็ยังรักษาเอกลักษณ์นั้นไว้ไม่แปรเปลี่ยน เพราะมันจะไม่มีข้อความหรือมูวี่เกริ่นนำใดๆทั้งสิ้น รู้แค่เพียงว่าเริ่มต้นมาเราจะได้บังคับตัวละครเล็กจิ๋วใส่เสื้อโค้ทสวมหน้ากาก (เปิดเน็ตค้นถึงทราบว่าเป็นหนุ่มน้อยชื่อ "โมโน") ผู้ลืมตาตื่นขึ้นมาในป่าใหญ่ จึงมุ่งหน้าเดินทางท่องผจญภัยสำรวจจนมาพบกับกระท่อมขนาดมหึมา ที่นั่นเองเขาได้บังเอิญพบกับสหายจิ๋วรูปร่างสัดส่วนใกล้เคียงกัน (เพิ่งตรัสรู้ภายหลังอีกเช่นกันว่าเป็นสาวน้อยตัวเอกจากภาคแรกนามว่า "ซิก") ผู้ถูกจับกุมขังอยู่ในห้องใต้ดิน และนั่นเองได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ต่างต้องคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันเพื่อหาทางหลบหนีจากการไล่ล่าติดตามของเหล่ายักษ์ตัวประหลาด และเอาชีวิตรอดให้ได้ภายในโลกใบใหญ่สุดสะพรึงที่ทำให้เรารู้สึกไร้พลังราวกับมดตัวจ้อย
คล้ายนิทานเรื่อง "แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์" ที่เราเคยได้ยินก่อนนอน เป้าหมายหลักของผู้เล่นในช่วงเริ่มแรกมักจะพัวพันอยู่กับการหลบหลีกซ่อนเร้น วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนพยายามอย่าให้ถูกตรวจจับพบเจอ เนื่องด้วยขนาดไซส์ระหว่างเรากับศัตรูที่ต่างกันลิบลับ แม้บางทีตามพื้นจะมีอาวุธจำพวกไม้หรือค้อนวางอยู่ แต่ก็พอใช้สู้ป้องกันตัวได้แค่ลูกสมุนตัวเล็กๆเท่านั้น หากหวังจะโค่นสยบบิ๊กบอสร่างเบิ้มประจำฉากคงต้องอาศัยมันสมองลูกล่อลูกชนกันเล็กน้อย โดยวิธีปราบมันส่วนใหญ่ก็เหมือนกับตอนที่เราใช้หัวคิดแก้ปริศนาพัซเซิล หากุญแจมาไขเปิดประตู หาฟิวส์มาใส่เปิดใช้งานลิฟต์นั่นแหละ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนผลลัพธ์ปลายทางจากการปลดล็อคเส้นทางไปต่อ มาเป็นการเผด็จศึกพวกมันแทน ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าฉากต่อสู้ดวลบอสในเกมเป็นสิ่งที่น่าประทับตราตรึงพึงพอใจอย่างที่สุด เท่าที่เราเคยเห็นในโลกของวิดีโอเกม
อย่างที่มักเคยพูดเสมอ สิ่งที่เราเกลียดที่สุดเวลาเล่นเกมแนวสยองขวัญ นั่นคือฉากตุ้งแช่ Jump Scare เงียบๆแล้วจู่ๆส่งเสียงดังหรือโผล่มาแฮ่ให้สะดุ้งตกใจ ซึ่งเรามองว่ามันเป็นมุกบ้องตื้นแสนสิ้นคิดพอๆกับการไปร้านอาหารแล้วสั่งแต่ข้าวผัดกะเพรา แต่สำหรับเกมนี้มันจะไม่มีสิ่งเหล่านั้นมาคอยกวนใจสร้างความรำคาญ เพราะสิ่งที่ถูกนำเสนอออกมามันช่างเหนือชั้นยิ่งกว่า โดยตัวเกมจะให้คุณได้เห็นความน่ากลัวสยดสยองแบบจะๆตรงหน้า แล้วบีบให้คุณต้องเผชิญรับมือกับมันแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอารมณ์ความหลอนที่ค่อยๆคืบคลานไต่ระดับและอยู่กับเราเป็นระยะเวลานานต่อเนื่องนี้ มันเป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่ามากเมื่อเทียบกับการโผล่มาแวบๆแวมๆเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เพราะขนตามตัวคุณจะค่อยๆลุกชูชันและคงอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ ถึงแม้ตอนพายุสงบลงคุณก็ยังคงหายใจไม่ทั่วท้องเพราะความหลอนมาราธอนที่เพิ่งผ่านพ้นมา หากเป็นช่วงศูนย์บรรเทาทุกข์ผี พวกเขาก็คงเป็นนักเล่าเรื่องผีปากพระกาฬที่เลี้ยงอารมณ์ดึงคนดูได้อยู่หมัด ยิ่งเล่ายิ่งผวา ยิ่งน่ากลัวยิ่งอยากฟัง และพอฝุ่นควันจางหายมันก็กลายเป็นประสบการณ์สุดสยองที่ฝังแน่นรากลึกในสมองชนิดไม่รู้ลืม
มหานครไร้แสงสี Pale City สังเวียนเวที 2.5D ที่เราผจญภัยว่ายวนอยู่ภายในนั้น ดูไปก็คล้ายกับเมืองปกติทั่วไปที่พวกเราอาศัยใช้ชีวิตประจำวัน มีบ้านพักเรียงรายหลายหลังคาเรือน มีโรงเรียนไว้สอนหนังสือ มีโรงพยาบาลไว้รักษาคนไข้ และมีร้านค้าให้ช็อปจ่ายซื้อของ เพียงแค่เป็นเมืองในเวอร์ชันที่ดูเศร้าหดหู่จืดชืดมืดมนกว่ามาก แต่ถึงมันจะไม่มีเสน่ห์สีสันดึงดูดชวนน่าตื่นตา ด้วยขุมพลัง Unreal Engine 4 ผนวกกับฝีมือของทีมผู้พัฒนา จึงได้ออกมาเป็นเมืองตีมดาร์คที่ดูเรียลสมจริงมีรายละเอียดน่าสำรวจค้นหา ยิ่งพอมาผสมเข้าด้วยกันกับการขยับเคลื่อนไหวของตัวละครที่มีฟิสิกส์สมจริงสมจัง จึงไม่แปลกที่เวลามีคนเดินผ่านมาเห็นแล้วจะนึกทึกทักเอาว่าเรากำลังเปิดเล่นแผ่นหนังภาพยนตร์แอนิเมชั่นอยู่บ่อยๆ
ดั่งรูปโลโก้ตัวเลขภาค ที่แสดงโชว์ตัวละครเอกทั้งสองจับแขนกุมมือกันไว้ คงบอกใบ้ชัดเจนอยู่แล้วว่าเกมนี้เราจะไม่ได้ผจญความหลอนแบบโดดเดี่ยวตามลำพัง เพราะทุกที่ส่วนใหญ่ที่พี่ โมโน ของเราไปเยือนก็จะมีน้อง ซิก คอยติดสอยไปด้วยเหมือนเงาตามตัว ซึ่งเธอนั้นก็มีประโยชน์คอยช่วยเหลือเราในหลายๆสถานการณ์ เช่นว่า ยามที่เราต้องการแรงเพื่อดันผลักงัดแงะสิ่งต่างๆ, ยามที่ต้องการฐานเหยียบบูสต์ส่งขึ้นที่สูง หรือแม้แต่ตอนกระโดดข้ามทางขาด เธอก็สามารถยื่นมือมาคอยจับรับเราไว้ โดย AI จะทำหน้าที่บังคับควบคุมตัวละคร ซิก ให้ตลอดทั้งเกม ซึ่งอาจทำให้ใครบางคนที่ฝันอยากซื้อเกมนี้มานั่งเล่นหลอนกับเพื่อนหรือคนรู้ใจแบบ Co-op คงต้องผิดหวังกันไป
ถึงตัวเกมจะค่อนข้างกระชับ ไม่ได้ยืดยาวเวิ่นเว้ออะไรนัก เล่นหลอนไปเพลินๆ 5 บท 5 ชั่วโมงก็จบแล้ว สิ่งที่ให้ย้อนกลับไปเก็บก็มีเพียงแค่หมวกกับร่าง Glitch นิดๆหน่อยๆ แต่หากพิจารณาดูจากเนื้อหาภาพรวมเกมนี้ถือว่าครบถ้วนทุกอารมณ์องค์ประกอบลงตัวสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติคุ้มค่าเกินราคา 30 เหรียญ เพราะมันไม่ได้แค่ทำให้คุณรู้สึกหวาดหวั่นขวัญผวา แต่ทว่ายังแอบแฝงแง่คิดเชิงปรัชญาอันแยบยลคมคายเหนือบรรยาย กับสัจธรรมเบสิคพื้นฐานที่ไม่ค่อยมีใครใส่ใจตั้งคำถามว่า สิ่งใดกันแน่ที่ทำร้ายมนุษย์เรา ระหว่างความจริงอันโหดร้าย หรือความฝันอันเลื่อนลอย
"พูดมาขนาดนี้ เรากล้ารับประกันได้เลยว่า Little Nightmares II มันจะไม่เหมือนเกมแนวสยองขวัญตัวไหนๆที่คุณเคยสัมผัส ทั้งเรื่องราวที่ให้เราได้คิดวิเคราะห์ตาม ทั้งบรรยากาศความหลอนที่ชวนหลงใหลอย่างน่าประหลาดใจ และด้วยความที่ตัวเกมเลือกใช้ภาพในการสื่อสารไม่มีบทพูดถ้อยคำบรรยายอธิบายใดๆ ฉากจบจึงสามารถถูกตีความได้หลากหลายตามทัศนคติ ศรัทธา และความเชื่อของแต่ละคน แม้ฉากม่านละครแห่งฝันร้ายจะถูกปิดลงไปแล้ว แต่ก็ยังมีประเด็นให้เหล่านักเล่นได้พูดคุยถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ต่างฝ่ายต่างงัดข้อเท็จจริงออกมาสู้ โดยทุกครั้งที่ได้ข้อมูลใหม่ๆพอลองนึกย้อนมองกลับไปก็ทำให้เราตาสว่างเบิกโพลงสั่นสะท้านดั่งคลื่นอาฟเตอร์ช็อคที่วกกลับมากระแทกใจเราอีกหน นี่นับเป็นปรากฏการณ์หายากและถือเป็นสิ่งที่เราอยากให้ผู้กำกับภาพยนตร์หรือใครก็ตามที่คิดสร้างเกมแนวสยองขวัญควรที่จะศึกษาเรียนรู้เอาจากมัน"
เกมการเล่น | 9 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 9 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 9 |
ภาพรวม | 9 |
ข้อดี: บรรยากาศโคตรหลอน, ปริศนาโคตรเด็ด, แอนิเมชั่นโคตรดี, ดนตรีโคตรเร้า, เล่าเรื่องโคตรอิน และสอดแทรกแง่คิดลึกซึ้งแบบโคตรๆ
ข้อเสีย: แอ็คชั่นตัวละครยังมีติดขัดอยู่บ้าง กับมุมกล้องตายตัวที่บางทีก็เป็นอุปสรรค
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Bandai Namco Entertainment
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*