แนว แอ็คชันอาร์พีจีสร้างโลก
ระบบ PS4, Nintendo Switch
เรตเกม PEGI: 7 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป
หลังจากบู๊ทำลายล้างกันมาพอแล้ว ลองเปลี่ยนหันมามอบอาหารให้สมองกันดูบ้าง กับผลงานแอ็คชั่นพัซเซิลเรียงบล็อคภาคต่อในซีรีส์เกมดราก้อนเควสต์ภาคแยกแบบฉบับ Minecraft ที่ถูกยกเครื่องใหม่ไปไกลกว่าแฟรนไชส์ต้นตำรับ
Dragon Quest Builders 2 นับเป็นอีกหนึ่งเกมภาคต่อที่คุณสามารถหยิบมันขึ้นมาเล่นได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาควานหาแผ่นเกมภาคแรกมาเล่นก่อน คล้ายๆซีรีส์อาร์พีจีภาคหลัก ดราก้อนเควสต์ ที่ในแต่ละภาคจะมีเรื่องราว และตัวละครเฉพาะของใครของมัน ไม่ค่อยข้องเกี่ยวกันสักเท่าไหร่ เช่นกันกับตัวเกมในภาคใหม่นี้ ซึ่งบอกเล่าเหตุการณ์ต่อเนื่องหลังจากเกม Dragon Quest II เมื่อทายาท Erdrick และเหล่าผองวีรชนผู้กล้า สามารถโค่นกำจัดศัตรูตัวฉกาจ Hargon และปราบจอมมารแห่งการทำลายล้างอย่าง Malroth ลงได้สำเร็จ
ทว่าสันติสุขที่ได้มานั้น กลับมิได้ยืนยาวอย่างที่หวัง เมื่อกลุ่มลูกสมุนมอนสเตอร์ในนาม Children of Hargon ได้คิดร้ายหมายสืบสานแผนการที่เคยล้มเหลวของ Hargon ให้สำเร็จอีกครั้ง จึงพากันจับลักพาตัวเหล่าพลพรรคนักสร้าง "บิลเดอร์ส" จากทั่วสารทิศมากักขังเอาไว้ เพื่อไม่ให้สร้างสิ่งๆใดขึ้นมาขัดขวางพวกมัน ซึ่งตัวละครเอกของเราก็เป็นหนึ่งในบิลเดอร์ฝึกหัดที่ถูกจับตัวมาอยู่บนเรือนักโทษ แต่ด้วยความปัญญานิ่มของมอนสเตอร์ บวกกับสภาพอากาศอำนวย จึงทำให้เราสามารถหลบหนีรอดออกมาได้ ลอยมาเกยตื้นอยู่ริมชายหาดบนเกาะร้าง พร้อมกับ Malroth เด็กหนุ่มผมดำลึกลับผู้สูญเสียความทรงจำ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยของสองคู่ซี้ต่างขั้ว ที่มีชะตากรรมของโลกเป็นเดิมพัน ส่วนข้อสงสัยในเรื่องชื่อของเด็กชายที่สะกดคล้ายจอมมารนั้น มันคือปริศนาที่พวกเราต้องมาหาคำตอบกันในเกม
สำหรับเกาะที่ตัวเราไปติดอยู่นั้น แท้จริงแล้วมันมีชื่อว่า Isle of Awakening เกาะเก่าแก่โบราณอันเป็นสถานที่สิงสถิตของบิลเดอร์ในตำนาน แต่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงเศษซากถูกปล่อยทิ้งร้างรอคอยผู้ที่จะมามอบชีวิตใหม่ให้กับมัน ซึ่งเราในฐานะ บิลเดอร์ฝึกหัด ผู้อ่อนประสบการณ์ จึงจำเป็นต้องนั่งเรือเดินทางรอบโลก เพื่อสั่งสมไอเดีย ฝึกฝนวิชาความรู้ มองหาวัสดุแปลกๆหายาก แล้วนำสิ่งที่ได้เรียนรู้กลับมาพัฒนาเกาะร้างแห่งนี้ โดยเกาะต่างๆที่เราไปเยือนนั้น นอกจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ดูไม่ซ้ำแบบกันแล้ว วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่อาศัยก็จะแตกต่างกันไปด้วย อย่างเช่น เกาะ Furrowfield ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจีเหมาะแก่การทำฟาร์มเพาะปลูก ที่จะสอนให้เราเข้าใจถึงชีวิตของ เกษตรกร ในขณะที่เกาะทะเลทรายแห้งแล้งอย่าง Khrumbul-Dun นั้น เราจะได้สัมผัสประสบการณ์ขุดเจาะทำเหมืองทอง พร้อมกับเปิดกิจการร้านเหล้าแบบชาวตะวันตกสมัยก่อน
เป้าหมายหลักของผู้เล่น ผู้เป็นบิลเดอร์เพียงคนเดียวที่เหลือรอด คือการยื่นมือเข้าไปพัฒนาบ้านเมืองชุมชนต่างๆที่ไปเยือนให้เจริญรุ่งเรืองมั่งคั่ง จนพวกเขาสามารถอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเองไม่ต้องพึ่งพาเราอีกต่อไป ตั้งแต่การช่วยสร้างบ้านเรือนที่พักอาศัย แต่งเติมห้องต่างๆตามแม่แบบพิมพ์เขียว สร้างระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็น เข้าครัวปรุงเมนูอาหารเสิร์ฟ หรือแม้กระทั่งช่วยทำงานกิจวัตรประจำวันของพวกเขา ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะมอบผลตอบแทนกลับคืนเรามาเป็น หัวใจ ที่สามารถเก็บสะสมนำไปยกระดับเลเวลของเมือง และเมื่อใดที่เมืองถูกพัฒนาจนสุด บอสมอนสเตอร์ประจำเกาะ ก็จะโผล่มาหาเรื่องหวังทำลาย หากเราและพวกพ้องสามัคคีช่วยกันกำจัดปราบมันลงได้ ก็เป็นอันจบพิธีเสร็จสิ้นเรื่องราวของเกาะนั้นๆ ซึ่งในช่วงแรกๆผู้เล่นอาจรู้สึกท้อ บ่นทำไมต้องเป็นเราที่ทำนั่นทำนี่ลำพังอยู่คนเดียว แต่พอเล่นไปได้สักพัก เมื่อเมืองของเรามีประชากรเพิ่มมากขึ้นจนถึงจุดๆหนึ่ง เราก็จะสามารถปลูกสอนถ่ายทอดทักษะการสร้างให้กับชาวเมืองได้เอง โดยที่เจ้าพวกแรงงาน AI เหล่านี้จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทั้งในงานก่อสร้าง และในยามศึกสงคราม แบ่งเบาภาระเราได้มากไม่ต้องเหนื่อยยากลำบากเหมือนที่ผ่านมา
พูดถึงอุปกรณ์ และระบบตัวช่วย ต้องยอมรับว่าในภาคต่อนี้ ทางทีมผู้พัฒนา Omega Force พวกเขาได้มีการเสริมเติมแต่งสิ่งอำนวยความสะดวกเข้ามาเยอะแยะมากมาย เรื่องแรกที่เห็นได้ชัด คงเป็นการที่ตัวเราสามารถดำดิ่งลงไปสำรวจใต้บาดาลได้แล้ว หลังจากที่ไม่เคยทำได้มาก่อนในภาคแรก นอกจากนี้เรายังสามารถชักจูงมอนสเตอร์ให้มาเป็นพวกได้อีกด้วย แถมมีการเพิ่มปุ่ม Sprint วิ่งไวช่วยให้การเดินทางข้ามฉากเป็นไปอย่างรวดเร็ว หรือยามเจอหุบเหวคั่นกลางก็ไม่ต้องเหนื่อยวิ่งขึ้นวิ่งลงอีกต่อไป เพราะสามารถใช้เครื่องร่อน Windbraker บินถลาแล่นลมข้ามไปอีกฝั่งได้ทันใจ ส่วนหากใครอยากเซฟประหยัดเวลายิ่งกว่านั้น ตามรายทางก็ยังมีจุด Fast Travel ให้เรากดวาร์ปไปยังจุดต่างๆบนแผนที่ได้แบบฉับพลัน ราวกับการกดใช้คาถา Zoom ในซีรีส์ ดราก้อนเควสต์ ต้นฉบับยังไงยังงั้น ซึ่งตัวช่วยทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ทีมงานทำการบ้านมาอย่างดี ที่หยิบนำเสียงบ่นเรียกร้องจากแฟนๆมาปรับปรุงแก้ไข และทลายความน่าเบื่อทั้งหลายทั้งปวงที่เคยมีในเกมภาคก่อนไปจนหมดสิ้น
ตัวเกมจะมีกลิ่นอายความเป็น อาร์พีจี แอบแฝงซุกซ่อนอยู่ ผ่านระบบสะสมค่า EXP จากการกำจัดมอนสเตอร์มาเลเวลอัพให้กับตัวละคร ซึ่งทุกครั้งที่เลเวลอัพ ตัวละครของเราก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น และได้สูตรในการสร้างสรรค์ชิ้นส่วน อาวุธ ชุดเกราะใหม่ๆ ส่วนแฟนๆ DQ ที่โหยหาการตามเก็บเหรียญทอง Mini Medals ในเกมนี้ก็ถูกยัดใส่มาด้วยเช่นกัน ในรูปแบบของแท่นหินพัซเซิล ที่จะมีปริศนาเบาสมองง่ายๆมาให้ได้แก้ เช่น คิดค้นหาวิธีนำพาน้ำให้ไหลมาลงบ่อ หรือจัดวางอิฐบล็อคที่ระเกะระกะให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนกันทั้งสองฝั่ง โดยเหรียญรางวัลที่ได้รับมา เราสามารถเก็บสะสมเพื่อนำไปแลกไอเทมของแรร์ดีๆได้ในภายหลัง
ท่ามกลางสิ่งต่างๆที่ถูกยกระดับอัปเกรดใหม่ ทว่าในพาร์ทของเกมเพลย์ การต่อสู้ ยามปะทะเปิดศึกกับมอนสเตอร์นั้น การกลับมาคราวนี้ดูเหมือนทีมพัฒนาไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมันเท่าที่ควร เนื่องจากยังคงเป็นระบบเดินหน้าไล่ตีๆตอดๆจนสิ้นใจตายกันไปข้าง ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากภาคแรกเลยแม้แต่น้อย ยังคงไร้ซึ่งคาถาเวทมนตร์ ลูกเล่นแทคติค หรือท่าไม้ตายสุดอลังการใดๆก็ไม่ใส่มาให้ใช้ ต้องหวังพึ่งพาให้ Malroth คอยแบกรับภาระหนักเป็นตัวแทงค์ชนกับศัตรูอยู่เสมอ อันที่จริงแล้ว เราก็เข้าใจคอนเซปต์ของเกมที่ต้องการให้ตัวละครเอกเป็นเพียงแค่ "นักสร้าง" มิใช่นักรบผู้กล้าที่ถนัดตีรันฟันแทง แต่ในเมื่ออุตส่าห์มีทั้งโล่-อาวุธ-ชุดเกราะ ขนมาให้ครบเซตขนาดนี้แล้ว อย่างน้อยก็น่าจะทำให้เกมเพลย์ตรงส่วนนี้ ดูสนุกตื่นเต้นเร้าใจเหมือนเกมแอ็คชั่นอาร์พีจีทั่วไปหน่อยก็คงดี (ไหว้ละ ขอร้อง)
หากให้บอกกล่าวแนะนำว่า เกมนี้ถูกสร้างมาเพื่อผู้เล่นกลุ่มไหน เด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ เราคงกล้าตอบแบบชัดเจนเลยว่า มันทำมาเพื่อคนทุกกลุ่มวัย ต่อให้ไม่ถนัดไม่เคยเล่นแนวนี้มาก่อน ก็สามารถหยิบจับมันขึ้นมาเล่นได้ทันที เพราะตัวเกมจะคอยบอกใบ้แนะนำเป็นแนวทางไกด์ไลน์ให้แก่ผู้เล่นอยู่ตลอดทีละขั้นตอน พร้อมกับมีภาพประกอบให้เห็นชัดเจน แม้เล่นเคลียร์ไปแล้วกว่าครึ่ง ตัวเกมก็ยังไม่หยุดสอน เรียกว่าประคับประคองกันตั้งแต่อนุบาลยันจบมหาลัยเลยทีเดียว กว่าผู้เล่นจะมีอิสระเสรีก็คงเป็นตอนที่ตัวเกมปล่อยให้เราได้พัฒนาสร้างเกาะ Isle of Awakening ของตัวเองขึ้นมาจากศูนย์ โดยที่ไม่มีกรอบกฎเกณฑ์ใดๆมากำหนด คราวนี้ละถึงจะเป็นบททดสอบวัดทักษะความคิดสร้างสรรค์ผู้เล่นของจริง ซึ่งเราจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ไม่มีใครบังคับ แต่ระวังจะพลาดหัวใจความสนุกที่แท้ทรูของเกม แน่นอนว่าการริเริ่มสร้างสิ่งต่างๆที่ไร้กรอบตายตัว บางครั้งเราเองก็คิดอะไรไม่ออก ดังนั้นตัวเกมจึงมีกระดาน Notice Board ให้เราได้แอบส่องดูผลงานความคิดสร้างสรรค์ที่ผู้เล่นคนอื่นได้แชร์ไว้ หรือสายอวดชอบโชว์ก็สามารถแชะถ่ายภาพสิ่งปลูกสร้างเจ๋งๆของตนโพสต์ลงไปในนั้นให้โลกได้รับรู้ อีกทั้งบนเกาะร้างแห่งนี้ ยังมีแท่นเทเลพอร์ต MultiBuilders ที่จะพาเราก้าวเข้าสู่โลกของผู้เล่นคนอื่นๆ หรือในทางกลับเราสามารถอัญเชิญชักชวนเพื่อนออนไลน์อีก 3 คนมาช่วยกันสรรสร้างโลกของเราให้ดูแจ่มแจ๋วก็ทำได้
ด้วยความที่ตัวเกมเน้นให้ผู้เล่นได้ปลดปล่อยจินตนาการความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ และเล่นกับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ฉะนั้นหากใครมองว่ามันเป็นเกมเด็กๆเล่นฆ่าเวลาขำๆละก็ คุณคิดผิดถนัด เพราะเกมนี้จะออกฤทธิ์คล้ายกับสารเสพติดชนิดเบา ที่จะค่อยๆมอบความสุขผ่อนคลายชวนเคลิ้ม นั่งเล่นเพลินต่อเติมโน่นนิดนี่หน่อยได้เรื่อยๆจนหลงลืมเวลา ยิ่งถ้าคุณเป็นพวก Perfectionist คลั่งไคล้ความสมบูรณ์แบบเป็นทุนเดิมด้วยแล้ว เกมวางอิฐบล็อกแสนธรรมดาที่มีขนาดไฟล์เพียงแค่ 2GB นี้ จะทำให้ชีวิตประจำวันของคุณมีปัญหาแน่นอน
ย้อนกลับไปในสมัยวัยเรียน หากใครมีเครื่องเล่นเกมอยู่ที่บ้าน ทุกครั้งหลังเลิกเรียนก็มักจะกลายเป็นแหล่งมั่วสุมของเหล่าเพื่อนฝูงในห้อง ที่มักหาเรื่องมาเยี่ยมเยือนบ้านเราอยู่บ่อยๆ และถ้าเพื่อนของคุณติดเกมจำพวก Harvest Moon แล้วล่ะก็ ความซวยจะบังเกิด เพราะทุกวันมันจะหอบพกพาตลับเมมโมรี่การ์ดมาเสียบเครื่องเราเพื่อขอปลูกผักทำสวนอยู่เป็นประจำไม่ว่างเว้น จนบางทีก็แอบรำคาญเกือบมีทะเลาะอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความงงใจสงสัยว่าทำไมถึงติดอะไรกันขนาดนั้น และเกิดเป็นปมค้างคาที่ติดอยู่ในใจเราตลอดเรื่อยมา จนกระทั่งวันนี้กับเกมๆนี้ ที่ทำเอารู้ซึ้ง และไม่มีอะไรจะบอกนอกจากคำว่า "เราเข้าใจนายแล้วว่ะ เพื่อน"
| เกมการเล่น | 8 |
| กราฟิก | 8 |
| เสียง | 8 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
| ภาพรวม | 8.6 |
ข้อดี : เล่นง่ายสอนอธิบายจนเราเข้าใจหมดทุกสิ่ง, กลิ่นอายการเล่าเรื่องแบบฉบับดราก้อนเควสต์ที่ทำให้คุณเสพติดมันยิ่งกว่าเกมสร้างโลกไหนๆ, ตัวช่วยใหม่ที่ทำให้การเดินทางสำรวจเป็นเรื่องสนุก, วิถีชีวิตที่เป็นแบบเฉพาะของเกาะนั้นๆ, เหล่าชาวเมืองที่คอยช่วยเหลือเราทั้งในยามสร้าง-ยามศึก, ปัจจัยขั้นตอนการสร้างที่ลงลึกรายละเอียด, ได้ฝึกใช้สมองขบคิดตลอดแม้เวลาสู้กับบอส และมีอะไรมากมายให้ทำเกินร้อยชั่วโมง
ข้อเสีย : ฉากสภาพแวดล้อมยังมีซ้ำเดิมกับภาคแรกอยู่บ้าง, พอเริ่มทำเป็นหมด ทุกอย่างก็ดูจำเจในฉับพลัน, ระบบต่อสู้ที่สามารถไปไกลมันส์ได้กว่านี้มาก และอย่าคาดหวังความยิ่งใหญ่อลังการจากเกมๆนี้
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES) และบริษัท Next Generation InnovationNGIN
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
