อัปเดตข้อมูลผลงานเกมอาร์พีจีที่หลายคนรอคอยจากปากไดเร็กเตอร์ "เท็ตสึยะ โนมูระ" กับเรื่องราวอดีตทหารหนุ่มหัวตั้งฉบับทำใหม่ที่ก้าวไปไกลกว่าต้นฉบับ
นิตยสารแฟมิซึฉบับล่าสุด เผยบทสัมภาษณ์ของ "เท็ตสึยะ โนมูระ" (Testuya Nomura) ไดเร็กเตอร์คนดังแห่งค่าย สแควร์เอนิกซ์ ที่มาร่วมพูดคุยแชร์รายละเอียดเกี่ยวกับตำนานเกมเก่าเล่าใหม่ Final Fantasy VII Remake ซึ่งมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ
สำหรับประเด็นเรื่องแรก หลายคนคงสังเกตเห็นได้จากเทรลเลอร์ตัวอย่างในงาน E3 2019 กับการปรากฏตัวของหมอกสีดำปริศนาห้อมล้อมเหล่าตัวละครเอก ซึ่งทาง โนมูระ อธิบายว่าแท้จริงแล้ว พวกมันคือ Watchmen of Fate สิ่งมีชีวิตลึกลับอันเป็นองค์ประกอบสดใหม่ ที่ถูกใส่เข้ามาให้แฟนๆที่เคยสัมผัสเกมต้นฉบับมาแล้วรู้สึกตื่นเต้น แถมพวกมันยังมีส่วนสำคัญกับพล็อตเรื่อง ที่กลับมาในคราวนี้จะมี Dialogue Options ให้เราได้เลือก ซึ่งจะส่งผลต่อประโยคบทพูดของตัวละครที่แตกต่างกันไป
แม้เกมเพลย์ของ FFVII Remake จะเน้นความเป็นแอ็คชั่นมากขึ้น ดูลื่นไหลไม่มีการตัดจากฉากฟิลด์เข้าสู่ฉากการต่อสู้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างก็ยังคงขึ้นอยู่กับ ATB Gauge ที่ผู้เล่นต้องรอให้มันเต็มก่อน จึงจะสามารถออกแอ็คชั่นใช้คำสั่ง Abilities, Magic และ Items ได้ (มิใช่แอ็คชั่นจ๋าแบบ FFXV) อีกทั้งเรายังสามารถกำหนดปุ่ม Shortcut สำหรับแอ็คชั่นต่างๆ เพื่อกดใช้ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ส่วนแฟนๆที่ไม่ถนัดแนวแอ็คชั่น กลัวตามความเร็วของเกมไม่ทัน ทางผู้พัฒนาก็ได้สอดแทรก ลูกเล่นชะลอเวลาให้ช้าลง ทุกครั้งยามที่กดเรียกเมนูขึ้นมา เพื่อให้ผู้เล่นได้มีเวลาพักหยุดคิดวางแผนแบบเกมอาร์พีจี
ในเกมผู้เล่นจะมีอิสระสามารถเลือกบังคับทุกตัวละครในปาร์ตี้เอง โดยสลับเปลี่ยนตัวละครที่บังคับอยู่ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว หรือจะเลือกบังคับแค่ตัวละครเดียว แล้วให้ AI บังคับตัวละครที่เหลือในกลุ่ม โดยที่เราเป็นคนกำหนดคอมมานด์ออกคำสั่งให้กับพวกมันได้ ยกตัวอย่างเช่น สั่งให้ Cloud ใช้ดาบโจมตีระยะประชิด, สั่งให้ Barret คอยยิงจากระยะไกล หรือให้ Aeirth ร่ายเวทมนตร์คาถาต่างๆ
ส่วนประเด็นดราม่าเรื่องดีไซน์ตัวละครสาวนักสู้ขวัญใจชายหนุ่มอย่าง Tifa ที่ในเวอร์ชันทำใหม่นี้ ถูกหลายคนบ่นอุบในเรื่องความเซ็กซี่ของเธอที่ดูลดหายลงไปจากต้นฉบับ ซึ่งทาง โนมูระ ระบุชี้แจงว่า มันคือข้อสรุปของทีมงานที่อยากให้หุ่นรูปลักษณ์ของเธอดูเป็นนักกีฬามากขึ้น ด้วยการกระชับหน้าอกหน้าใจ ลดความอวบอั๋นไฟหน้าลง เพื่อป้องกันปัญหาสัดส่วนเคลื่อนไหวผิดธรรมชาติยามที่ต้องออกแอ็คชั่น แถมพวกเขายังพิจารณาเพิ่มชั้นในสีดำ และฟิตหุ่นช่วงบนของเธอ อีกด้วย
ฉากหลังสภาพแวดล้อมที่เคยเห็น ทุกอย่างจะถูกทำใหม่หมดด้วยรายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกันกับ ฉากอีเวนท์คัตซีนใหม่ๆ ที่จะมีการเพิ่มเติมฉากของกลุ่มสมาชิก AVALANCHE ที่นอกเหนือไปจากตัวละคร Barrett ขณะที่ฉากคลาวด์แต่งหญิงใน Honey Bee Inn ก็ยังคงมีอยู่ แต่จะถูกปรับใหม่ให้ดูทันสมัย และลดความกระอักกระอ่วนลง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวเกมต้องใช้ขนาดเนื้อที่ความจุถึง 2 แผ่นบลูเรย์ นั่นเอง
Final Fantasy VII Remake มีกำหนดออกวางจำหน่ายเฉพาะเครื่องคอนโซล เพลย์สเตชัน 4 ในวันที่ 3 มีนาคมปี 2020
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gematsu
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
