ห่างหายจากสังเวียนไปนาน สำหรับซีรีส์เกมแข่งรถผิวถนนเรียบของค่าย Codemasters ที่กลับไปทำการบ้านแล้วหวนมาใหม่อีกครั้ง กับผลงานภาคล่าสุดที่ยกระดับความสมจริงไปอีกขั้น
บริษัทตัวแทนจัดจำหน่าย Deep Silver ร่วมกับทีมพัฒนา Codemasters ประกาศเปิดตัว GRID ผลงานเกมเรซซิ่งภาคล่าสุดที่เหมือนกับเป็นการรีบูทแฟรนไชส์ขึ้นมาใหม่ โดยมีกำหนดแผนออกวางจำหน่ายพร้อมกัน บนทั้งแพลตฟอร์มพีซี, เอ็กบ็อกซ์วัน และเพลย์สเตชัน 4 ในวันที่ 13 กันยายนปี 2019
สำหรับการกลับมาในครั้งนี้ ภายใต้ชื่ออันแสนสั้น GRID จะนำพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์การแข่งขันในโลกแห่งยานยนต์ ที่ผู้เล่นสามารถเลือกเส้นทาง กำหนดเรื่องราว และฝากตำนานบทใหม่ให้แก่วงการมอเตอร์สปอร์ต โดยที่ทุกโค้งทุกหัวมุม ทุกการกระแทกเฉี่ยวชน จะส่งผลชี้ชะตาต่อการเป็นแชมป์ของคุณ
ตัวเกมจะบรรจุรถยนต์มากกว่า 70 คัน มาให้ผู้เล่นได้เลือกขับ ตั้งแต่รถ Formula J o Prototype ไปจนถึงตระกูลรถแข่ง Touring Cars มีทั้งรถเก่าแก่คลาสสิคอย่าง Ford GT40 และ Pontiac Firebird Modified รวมไปถึงรถยนต์รุ่นใหม่ๆในปัจจุบันอย่าง Porsche 911 RSR และ Ferrari 488 GTE ที่พร้อมให้คุณได้ทดสอบขีดจำกัด ผ่านสนามท้องถนนสีสันในเมืองสำคัญๆ 12 สถานที่ ที่มีความแตกต่างกันทั้งเรื่องของเส้นทาง เวลา และสภาพอากาศ อาทิเช่น สนามแข่งในจีน, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร, สเปน, สหรัฐอเมริกา, คิวบา และออสเตรเลีย
ภายในโหมด Career ผู้เล่นจะได้พบกับการแข่งขันอันหลากหลาย 6 เส้นทางเมนหลัก เพื่อไต่เต้าพาตนไปสู่ GRID World Series โดยสามารถเลือกลงแข่งได้ตามสายที่ตนถนัด ไม่ว่าจะเป็นสาย Touring, Stock, Tuner, GT, Invitational หรือเข้าร่วม The Fernando Alonso Challenge ซึ่งเป็นการแข่งขันสุดท้าทาย ที่ผู้เล่นจะได้พบกับบุรุษนักขับฟอร์มูล่าวันผู้เป็นตำนาน และท้าประลองความเร็วกับรถคู่ใจของเขา Renault R26
ทางด้านกฎกติกาการแข่งขัน จะมีอยู่ด้วยกัน 6 รูปแบบ ได้แก่ Racing, Oval Racing, Time Trial, Time Attack, Skirmish และ Hot Lap โดยตัวเกมยังคงเน้นย้ำให้ความสำคัญกับการเฉี่ยวชนปะทะด้วยระบบ Impactful Damage Systems ที่ส่งผลกระทบโดยตรงทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และการขับขี่ควบคุม นอกจากนี้ตัวเกมยังมีระบบใหม่อย่าง Racecraft ที่จะคอยคำนวณสกอร์การขับของเรา ทั้งทักษะการเข้าโค้ง, ดริฟต์ หรือเร่งแซงคู่แข่งขัน แล้วมอบแต้มแจกพอยท์ให้แก่ผู้เล่นเพื่อสะสมไปเลเวลอัพปลดล็อคของรางวัลต่างๆ
ในส่วนของโหมดออนไลน์มัลติเพลย์เยอร์ ผู้เล่นสามารถเลือกแข่งขันจับคู่กับผู้เล่นคนอื่นๆทั่วโลกผ่านโหมด Quick Match หรือว่าจะเลือกกำหนดสร้างกติกาการแข่งขันของตนเองผ่านฟีเจอร์ Online Event Creator แล้วแชร์เล่นร่วมกับชาวโลก หรือปิดห้องท้าแข่งเฉพาะกับเพื่อนสนิทในรูปแบบ Private Race
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gematsu
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
