แนว แอ็คชั่นชูตติ้ง
ระบบ PS4
เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
สงครามปะทะหมื่นขาของเหล่าทหารฮีโร่ผู้กล้า ที่ได้ทีมงานชุดใหม่มาช่วยผลักดันนำพาแฟรนไชส์ ไปสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในรอบหลายทศวรรษ
สำหรับ Earth Defense Force: Iron Rain นับเป็นผลงานภาคล่าสุดในแฟรนไชส์ฆ่าแมลงพิทักษ์โลกที่มีอันประวัติยาวนาน โดยคราวนี้พวกเขาได้เลือกใช้บริการสตูดิโอหน้าใหม่อย่าง Yuke's ที่มารับไม้ช่วงต่อจากสตูดิโอ Sandlot ทีมงานขาประจำที่อยู่กับซีรีส์นี้มาตั้งแต่สมัยยุค PS2 ด้วยวัตถุประสงค์ความพยายามต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อให้แฟรนไชส์คู่บุญของพวกเขาอยู่รอด สามารถแข่งขันก้าวทันตามยุคสมัย
แม้พล็อตเรื่องราว และเหตุผลแรงจูงใจในการต่อสู้ จะไม่ได้เป็นสาระที่แฟนๆใส่ใจให้ความสำคัญนัก แต่มันเป็นหน้าที่เราที่ต้องขอเกริ่นนำสักเล็กน้อย ซึ่งเนื้อหาของเกมนั้น กล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้ เมื่อกองทัพเอเลี่ยนต่างดาวได้ยกพลบุกมาคุกคามโลก (อีกแล้ว) และเราในฐานะสมาชิกทหารแห่งกองกำลังปกป้องมาตุภูมิ EDF ก็ต้องออกปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ เพียงแต่หนนี้ฝ่ายมนุษยชาติได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี PA-Gear ขึ้นมาต่อกร ซึ่งเป็นเหมือนกับชุดโครงเหล็ก Exoskeleton ที่ช่วยพาวเวอร์อัพผู้สวมใส่ให้มีพละกำลังมากขึ้น โดยอาศัย Energy Gem ที่สกัดจากศพผู้รุกรานเป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อน อย่างไรเสีย ถึงฝั่งเราจะมีตัวช่วย แต่ก็ดูไร้ผลเมื่ออยู่ต่อหน้ายานแม่เอเลี่ยนลำมหึมา ที่ทำเอาตัวเอกอาการโคม่าไปนานถึง 7 ปี
สิ่งประทับใจแรกที่เห็นเด่นชัด และต้องขอเชยชม คือ ภาพกราฟิกอันสวยงามสมจริงที่ถูกยกระดับอัปเกรดไปมากจากภาคก่อนๆ ด้วยขุมพลังของ Unreal Engine 4 เอนจิ้นยอดนิยมที่ในที่สุดพวกเขาก็คิดตัดสินใจใช้มันจนได้ หลังจากทู่ซี้ปล่อยให้แฟนๆทนอยู่กับกราฟิกระดับ PS2 มาตลอดหลายสิบปี แต่อย่างไรเสีย ความงดงามเจริญสายตานั้น กลับต้องแลกมาด้วยขนาดแม็พในแต่ละมิชชั่นที่แลดูเล็กลง, กินเวลาโหลดนานขึ้น และปริมาณด่านที่ถูกลดจำนวนหายไปกว่าครึ่ง
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทันสมัยของฝ่ายมนุษย์ จึงส่งผลให้เกมเพลย์ในภาคนี้ดูแปลกตาออกไปเล็กน้อย หากลองสังเกตที่มุมขวาล่างดีๆ จะเห็นเกจพลังสีเหลืองที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการกดเรียกใช้ความสามารถพิเศษของตัวละคร แถมในยามคับขัน เรายังสมารถกดปุ่ม R3+L3 พร้อมกัน เพื่อเข้าสู่โหมด Overdrive ระเบิดพลังอันไร้ขีดจำกัด ที่ทำให้ตัวเรากลายเป็นเทพอมตะชั่วคราว ได้อีกด้วย
สำหรับ ระบบคลาส ยังถือเป็นหัวใจสำคัญของเกมเหมือนเช่นเคย โดยในภาคนี้คลาสของตัวละครจะแปรเปลี่ยนไปตามชุดเกราะ PA-Gear ที่เราสวมใส่ติดตั้ง ซึ่งมีให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ Trooper คลาสพลทหารราบพื้นฐาน ที่มีความสมดุลในทุกๆด้าน ทั้งการโจมตี เคลื่อนไหว และตั้งรับ เสริมด้วยช่องใส่ของอุปกรณ์ ที่ให้เราสามารถพกพาไอเทมตัวช่วยลงสู่สมรภูมิได้มากชิ้นกว่าคลาสไหนๆ
Jet Lifter คลาสทหารอากาศวิหคเจ้าเวหา ผู้มาพร้อมกับไอพ่นเจ็ตแพคติดหลังที่แฟนๆซีรีส์นี้ต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้วยความสามารถพุ่งแดชหลบหลีกได้อย่างแคล่วคล่องว่องไว และลอยล่องโบยบินอยู่กลางอากาศได้นาน อีกทั้งเวลาเหาะเหินจะยิ่งเพิ่มพูนขึ้นไปอีก เมื่อตัวเราอยู่ในสภาวะ Overdrive
Heavy Striker คลาสเกราะแข็งสุดถึกเหมาะสำหรับสายแทงค์ ที่เปิดโอกาสให้คุณสามารถถือปืนได้สองกระบอกในเวลาเดียวกัน ส่งผลให้พลังแดเมจการโจมตีของอาวุธทุกชนิดถูกเบิ้ลคูณเป็นสองเท่า อีกทั้งยังสมารถเรียกใช้ โล่บาเรียร์ เพื่อปกป้องคุ้มครองตนจากทุกสรรพสิ่ง ยามเดินทาง หรือยามรีโหลดกระสุนที่ต้องใช้เวลานานกว่าใครเขา
ส่วนคลาสสุดท้าย Prowl Rider จัดว่าเป็นไฮไลท์ความแปลกใหม่ของซีรีส์นี้เลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยเป็นความตั้งใจของทีมงาน ที่ต้องการขยายฐานแฟนคลับออกไป เข้าถึงกลุ่มผู้เล่นหน้าใหม่ๆมากขึ้น โดยเฉพาะเหล่าสาวกการ์ตูน “ผ่าพิภพไททัน” (Attack on Titan) เพราะความสามารถพิเศษของคลาสนี้ คือการยิงตะขอเกี่ยวพาตัวหลบหลีก และพุ่งไปยังจุดต่างๆที่เล็งไว้ ยิ่งใช้งานร่วมกับอาวุธ ดาบเลเซอร์ บรรยากาศความอินก็จะยิ่งพวยพุ่ง ในขณะที่โหมด Overdrive ของคลาสนี้ จะเป็นการขึ้นไปขี่บังคับอยู่บนหลัง แมลงเอเลี่ยน ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยๆ
แม้จำนวนด่านที่ขนมาให้เล่น จะมีอยู่ไม่เยอะนัก (ประมาณ 50 กว่าด่าน) แต่ปริมาณที่พร่องหายก็ถูกทดแทนด้วยความหลากหลายของภารกิจ ที่ไม่ใช่เพียงแค่เดินหน้ายิงถล่มฝูงเอเลี่ยนอย่างเดียว เพราะบางภารกิจเราอาจต้องคอยคุ้มกันยูนิต-สิ่งปลูกสร้าง บางมิชชั่นอาจต้องสู้กับกองทัพฝ่าย Kindred Rebellion ที่เป็นมนุษย์ด้วยกันเอง หรือในบางฉากอาจต้องฟันฝ่าภารกิจท่ามกลางแสงจันทร์ ในช่วงเวลากลางค่ำกลางคืน
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ตัวเราจะถูกส่งตัวกลับขึ้นยาน ซึ่งเป็นเหมือนฐานทัพลอยฟ้า ที่เราสามารถนำเงิน และทรัพยากรที่ได้รับ มาปรับแต่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวละคร ไม่ว่าจะเลือกอัปเกรดค่าพลังชีวิต Max HP เสริมความหล่อสวยด้วย Accessories ของแต่งกาย หรือซื้อปลดล็อคอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆที่แรงขึ้นมาใช้ ซึ่งต้องบอกเลยว่า อาวุธในภาคนี้ มีให้เลือกเยอะมากหลากชนิด ตั้งแต่ปืนธรรมดาปกติที่มนุษย์ใช้กัน ยันปืนเอเลี่ยนรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาด ไปจนถึงปืนเลเซอร์สุดไฮเทค ที่ทำให้เรารู้สึกว่า กำลังสู้อยู่ในโลกอนาคตจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ถึงรูปลักษณ์ภายนอกจะแปรเปลี่ยนไปมาก แต่หากใครได้ลองจับมันจริงๆ จะรู้ว่าองค์ประกอบไส้ในนั้นยังเป็นของเก่าของเดิมที่ใช้กันมานาน โดยเฉพาะแอ็คชั่นท่าทางการเคลื่อนไหวของตัวละครที่ยังดูแข็งเหมือนหุ่นยนต์, เฟรมเรตที่พร้อมร่วงดิ่งทุกครั้งที่ศัตรูยกขบวนกันมาเป็นฝูง หรือปัญหาเดิมๆของเหล่าสหายร่วมทีม AI ที่เอาแต่ยืนบื้อไม่ค่อยช่วยเหลืออะไร ปล่อยให้เราตกเป็นเป้าโจมตีอยู่คนเดียว ซึ่งคิดแล้วก็น่าแปลกใจ ว่าทำไมพวกเขาไม่แก้ไขปรับปรุงตรงส่วนนี้ ให้พัฒนาก้าวทันตามส่วนอื่นๆไปด้วย
ทางฝั่งโหมด มัลติเพลย์เยอร์ ที่เป็นความหวัง เกมนี้ก็จัดเต็มเอาใจทั้งคนที่ชอบแบ่งจอเล่นกันสองคน, อยากเล่นร่วมกับเพื่อนออนไลน์ ก็มีโหมด Co-op ที่รองรับได้สูงสุดถึง 6 คนพร้อมกัน รวมถึงใครที่ชอบท้าดวลแข่งกันเองแบบ PvP ตัวเกมก็ยังมีโหมด Mercenary แบ่งทีม 4 ต่อ 4 เพียงแต่จะเป็นการแย่งกันเก็บสะสมเม็ด Gem จากศพเอเลี่ยนเท่านั้น มิได้ต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆโดยตรง ฉะนั้นแล้ว ใครที่ต้องการซื้อเกมนี้ไปเล่นออนไลน์ คงต้องทำใจกันก่อนเล็กน้อย เพราะมันอาจไม่เป็นอย่างที่หวัง อีกทั้งสถานะเกม ณ ปัจจุบัน การจะหาเพื่อนออนไลน์เล่นด้วยสักคนนั้น ก็ยากลำบากมากทีเดียว
จริงอยู่ที่ Earth Defense Force Iron Rain ได้นำพาหลายสิ่งใหม่ๆมาสู่ซีรีส์ แต่นั่นก็เป็นเพียงการต่อเติมจากโครงสร้างรากฐานเดิม ที่ปัจจุบันดูเชยล้าสมัยไปแล้ว ซึ่งทำเอาเราผิดคาดพอสมควร เพราะนึกว่าพวกเขาจะโละของเก่าทิ้งแล้วรีบูททำใหม่ หรือใจกล้าบ้าเสี่ยงฉีกกรอบออกไป อย่างไรก็ดี ด้วยหน้าท็อปปิ้งที่ดูแปลกตา คงพอช่วยให้ซีรีส์เก่าแก่จืดชืดนี้ แลดูมีสีสันชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
| เกมการเล่น | 7 |
| กราฟิก | 8 |
| เสียง | 6 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 8 |
| ภาพรวม | 7 |
ข้อดี : ภาพสวยขึ้นผิดจากเดิมลิบลับ, อาวุธเทคโนโลยีสุดล้ำสมกับเป็นโลกอนาคต, ความสามารถอันโดดเด่นแตกต่างของแต่ละคลาสโดยเฉพาะ Prowl Rider, ดีไซน์ศัตรูเอเลี่ยนดูเท่น่าเกรงขาม, มิชชั่นหลายหลาก (มีฉากตอนกลางคืนด้วย), เล่นกับเพื่อนยิ่งสนุก และนานาฟีเจอร์ที่มาช่วยแต้มสีสัน
ข้อเสีย : แอนิเมชั่นตัวละครยังแข็งเหมือนเดิม, จำนวนด่านที่ถูกหั่นแบ่งหารสอง, ระยะเวลาโหลดที่ยาวนานขึ้น, เพื่อนร่วมทีม AI หวังพึ่งพาอะไรไม่ได้, เป้าหมายภารกิจคลุมเครือไม่ชัดเจน, กติกาการเล่น PvP แสนน่าเบื่อ และความเงียบเหงาในโหมดออนไลน์จากฐานผู้เล่นที่เริ่มร่อยหรอ
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES) และบริษัท Next Generation InnovationNGIN
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
