แนว แบทเทิลรอยัล
ระบบ PS4 (จำเป็นต้องใช้ PS Plus)
เรตเกม PEGI: 16 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
ในโลกปัจจุบันที่ทุกสิ่งล้วนหมุนไวตามกระแส อย่างไรก็ดี มันก็เคยมีคำกล่าวเกี่ยวกับ ผลประโยชน์จากการทำอะไรช้าๆ หรือคำสุภาษิตที่ว่า หัวเราะทีหลังดังกว่า มาคอยบรรเทาจิตใจอันบอบช้ำของเหล่าผู้ที่ไม่อาจก้าวเดินตาม แต่ทว่าน่าเศร้าที่ปาฏิหาริย์เหล่านั้น มันไม่เกิดกับเกมนี้
ต้องยอมรับว่าในปี 2017 นับเป็นปีทองของ แบทเทิลรอยัล รวมไปถึง PlayerUnknown's Battlegrounds เกมที่เป็นจุดเริ่มต้นปลุกกระแสรูปแบบการเล่นอยู่รอดเป็นคนสุดท้าย ให้กลับมาบูมฮอตฮิตติดตลาดอีกครั้ง โดยตลอดที่ผ่านมา ตัวเกมได้ลงให้กับเครื่องพีซี เอ็กบ็อกซ์วัน และมือถือ กันไปหมดเรียบร้อย หลงเหลือเพียงแค่ เพลย์สเตชัน 4 ที่เพิ่งมาออกในช่วงปลายปี 2018 ซึ่งหากมองในแง่มุมของการพัฒนาเกมแล้ว เรียกได้ว่าพวกเขามีเวลามากมายเหลือเฟือ ในการเรียนรู้ข้อผิดพลาด เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข และขัดเกลาตัวเกมในเวอร์ชัน PS4 ให้ออกมาดูดีสมบูรณ์แบบที่สุด (หากพวกเขาคิดจะทำ)
ก่อนเข้าเรื่องปวดหัว ขอแวะอธิบายลักษณะการเล่นของเกมแนวนี้ให้ได้ทราบกันคร่าวๆ สำหรับ PlayerUnknown's Battlegrounds หรือเรียกสั้นๆว่า PUBG มันเป็นเกมแนวเซอร์ไววอลเอาตัวรอด ที่จับเอาผู้เล่นนับร้อยโดดร่มลงมาเปิดศึกเข่นฆ่ากันเอง เพื่อหาสุดยอดคนแกร่ง หรือทีมแกร่งเพียงหนึ่งเดียว ด้วยอาวุธนานาชนิดตามฉากที่จะปรากฏแบบสุ่มไม่ซ้ำกันในแต่ละรอบ พร้อมกับมีม่านหมอกพิษสีฟ้า ที่คอยบีบกระชับพื้นที่การต่อสู้ให้แคบลงเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ
ทุกครั้งก่อนเริ่มเกม ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่า อยากลุยเดี่ยว Solo, จับคู่ Duo สองคน หรือไปเป็น กลุ่มคณะปาร์ตี้แบบ Squad 4 คน หากใครไม่มีเพื่อนก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะตัวเกมจะจับเราสุ่มเข้าทีมที่ว่างอยู่ให้โดยอัตโนมัติ เพียงแต่เวลาอยู่ในสนามรบ อาจเสียเปรียบกลุ่มคณะปาร์ตี้ที่ฟอร์มทีมกันมา และมีการเปิดไมค์สื่อสารเล่นเข้าขากันเท่านั้นเอง โดยการขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด มีชีวิตอยู่รอดได้เป็นคนสุดท้ายนั้น ผู้เล่นจำต้องอาศัยพึ่งพาทั้งดวง โชคดีหล่นลงมาเจอของ, ใช้สมองคิดกลยุทธ์ล่อหลอก คอยบริหารกระสุน-ยา-ไอเทมที่มีติดตัว และสุดท้ายคือ ฝีมือความแม่นยำ ที่จะช่วยให้คุณฟันฝ่า 99 ดวงวิญญาณผู้ไม่ต้องการจะไปเกิดใหม่ ซึ่งเหตุผลที่พวกเราต้องมาเข่นฆ่ากันแทบตาย ก็เพื่อแลกกับ เศษเงินอันน้อยนิด หลังจบแมตช์ ที่สามารถนำไปซื้อปลดล็อค เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และลวดลายอาวุธ เอาไว้เป็นแรงจูงใจในการเล่นรอบถัดไป นั่นเอง
สำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่ไม่เคยจับ PUBG มาก่อน อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้ระบบเกมกันนานสักหน่อย และต้องทำใจยอมเป็นไก่ให้เขายิงตายอยู่บ่อยๆ เนื่องจาก โหมดฝึกซ้อม ที่ตัวเกมเวอร์ชัน PS4 บรรจุให้มานั้น มันเป็นแค่ฉากพื้นที่โล่งๆว่างเปล่าให้ผู้เล่นฝึกฝนการบังคับ เก็บของ ลองยิง และหลับตาคลำหาปุ่มผิดๆถูกๆกันเอาเอง ไร้คำสอนบอกกล่าวไม่มีการอธิบายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งความที่พวกเขาไม่ใส่ใจใยดี อีกทั้งยังไม่มีตัวช่วย Aim Assisst หรือฟีเจอร์อำนวยความสะดวกการเล่นบนคอนโซล จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่ผู้เล่นแคชชวลส่วนใหญ่ จะเบือนหน้าหนีมันหันไปหาเกม Black Ops 4 กันหมด
ทางด้าน ยูสเซอร์ อินเตอร์เฟส ก็ถือเป็นปัญหาใหญ่ไม่แพ้กัน เพราะทีมพัฒนาตัดสินใจยกเอาหน้าต่าง เมนู Inventory จากต้นฉบับพีซีมาใช้ทั้งดุ้น ไม่ได้ลงทุนปรับเปลี่ยนลุคหน้าตา หรือเพิ่มปุ่มลัดชอร์ตคัต ให้สะดวกเหมาะต่อการเล่นผ่านคอนโทรลเลอร์ แต่อย่างใด จึงทำให้เวลาตรวจเช็คข้าวของ หรือติดตั้งอุปกรณ์สวมใส่ จำเป็นต้องกดปุ่มไล่ลงมาดูทีละช่อง ซึ่งสร้างความน่ารำคาญ สูญเสียเวลาเป็นอย่างมาก และชวนหัวร้อนโดยเฉพาะตอนที่มีศัตรูเวียนวนอยู่ใกล้ๆ
นอกเหนือจากตัวแปรชวนหงุดหงิดที่กล่าวเกริ่นไป ตัวเกมยังประสบปัญหาเรื่อง Input Lag หรือความคลาดเคลื่อนไม่สอดรับสัมพันธ์กัน ระหว่างจังหวะการกด กับแอ็คชั่นที่ปรากฏบนจอภาพ กดปุ่มไปแล้วต้องรอสักพักกว่าจะเห็นผล ซึ่งเรื่องนี้กระทบกับเกมเพลย์แทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนดูหน้าจอเมนู เลือกซื้อของในร้านค้า หรือในขณะเล่นเอง ที่เวลากดปุ่มเก็บของ ซูมกล้อง ยิงปะทะต่อสู้กับศัตรู มักมีอาการดีเลย์หน่วงหนึ่งจังหวะอยู่เสมอ ส่วนอัตรา Framerate ของเกมทั้งบน PS4 รุ่นธรรมดา และเครื่อง PS4 Pro ก็ถูกล็อคไว้เพียงแค่ 30 fps แถมบางทีก็ร่วงแตะ 25 หรืออาจแย่กว่านั้น เมื่อเกิดหลายเหตุการณ์ขึ้นพร้อมกัน ทั้งๆที่เท็กซ์เจอร์พื้นผิวฉากก็หยาบกร้านถูกเบลอลดทอนคุณภาพลงไปแล้ว สภาพแวดล้อมสิ่งปลูกสร้างอะไรต่างๆก็โหลดช้าจนวางแผนจุดตกร่อนลงไม่ได้แล้ว เกมการเล่นก็ยังไม่ลื่นไหลเหมือนที่มันควรเป็น
แน่นอนว่า ตัวเกม PUBG เวอร์ชันคอนโซล โซนี่ ที่ออกวางจำหน่ายตามหลังแพลตฟอร์มอื่นๆมานานร่วมเกือบปี จึงทำให้เนื้อหาคอนเทนต์ โหมดการเล่น และฟีเจอร์อะไรต่างๆภายในเกม แลดูล้าสมัยหลังเขาตามไปด้วย อาทิเช่น การขาดหายไปของ โหมดจำกัดการเล่นเฉพาะมุมมองบุคคลที่หนึ่ง รวมถึงแม็พที่บรรจุใส่มาให้เล่น ก็มีอยู่เพียงแค่ 3 แผนที่แรกเริ่มอย่าง Erangel, Miramar และ Sanhok ในขณะที่แม็พใหม่เข้าบรรยากาศหน้าหนาวอย่าง Vikendi นั้น ปัจจุบันยังทดสอบในเพลย์เทสต์เซิร์ฟเวอร์กันอยู่ ซึ่งคงต้องทนอดใจรอไปอีกสักระยะกว่าตัวเกมเวอร์ชัน PS4 นี้จะอัปเดตทันใครเขา
จากการมาที่หลัง แต่กลับไม่มีอะไรที่เป็นจุดเด่นเหนือกว่า และด้วยคุณภาพการผลิตที่ไม่สมกับป้ายราคาขาย 900 บาท หากพิจารณาเปรียบเทียบกับเกม PlayerUnknown's Battlegrounds เวอร์ชันอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพีซีภาพสวยคมชัดที่ตอนนี้ลดราคาลงมาเหลือไม่กี่้ร้อย หรือโมบายที่เปิดเล่นฟรีฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ก็คงพอพูดสรุปได้ว่า ตัวเกมเวอร์ชัน PS4 ณ ขณะนี้ มันเป็นทางเลือกที่น่าอภิรมย์น้อยสุด ในการเสพสมมนต์เสน่ห์ชวนติดหนับของ PUBG
| เกมการเล่น | 7 |
| กราฟิก | 6 |
| เสียง | 6 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
| ภาพรวม | 6.6 |
ข้อดี : เกมเพลย์ชวนกลับมาเล่นหลายรอบที่เป็นจุดขาย, รองรับภาษาไทย และเสพติดทันทีเมื่อได้ลองฆ่าใครเป็นครั้งแรก
ข้อเสีย : ไม่บอกสอนแนะนำมือใหม่อะไรทั้งสิ้น, เมนู Inventory ชวนหัวร้อน, ปรับแต่งเกมมาได้แย่, ค่าเฟรมเรตที่ต่ำ, งานภาพอย่างหยาบไม่สวยเลย, ไร้ตัวช่วยใดๆสำหรับคอนโซล และปัญหาปุ่มกดไม่ค่อยตอบสนอง
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท PUBG Corporation
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
