แนว ชูตติ้งมุมมองบุคคลที่สาม
ระบบ PS4
เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
*** ตัวเกมเวอร์ชันอังกฤษ วางจำหน่าย 11 ธันวาคม ***
สงครามความขัดแย้งระหว่างสองเผ่าพันธุ์ต่างไซส์ยังดำเนินต่อไป ในผลงานภาคใหม่ที่คงคอนเซปต์คล้ายเดิม กับภารกิจต่อสู้ฝ่าฟันของมวลมนุษยชาติ ที่ต้องยืนหยัดต่อต้านการรุกรานจากนอกโลก
นับเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์เกมเก่าคลาสสิคที่หลงตกค้างมาจากยุค เพลย์สเตชัน 2 สำหรับซีรีส์เกมเดินหน้ายิงล้างบางฝูงเอเลี่ยนงบน้อยอย่าง Earth Defense Force ที่สตาร์ทไต่เต้ามาจากแผ่นคอลเลคชันรวมเกมทุนต่ำ กระทั่งเริ่มดัง ก็ขยับขยายปลีกตัวออกห่างแยกทำซีรีส์เกมฉายเดี่ยวของตนเอง จนมาถึงผลงานภาคล่าสุดนี้ที่ทำลงให้กับเครื่อง เพลย์สเตชัน 4
ระบบเกมเพลย์ ยังคงเป็นแนวชูตติ้งมองผ่านหลังตัวละคร ที่ให้ผู้เล่นจับอาวุธปืนเดินหน้ากราดยิงกำจัดเหล่าเอเลี่ยนผู้รุกรานให้หมดฉาก โดยตัวเกมจะมีสายอาชีพมาให้เลือกสลับเล่นจำนวน 4 คลาส ได้แก่ ทหารราบ Ranger, หน่วยจู่โจมกลางเวหา Wing Diver, หน่วยสนับสนุน Air Raider และพลเกราะติดอาวุธหนัก Fencer ซึ่งแต่ละหน่วย ก็จะมีบทบาทหน้าที่ วิธีบังคับ จุดด้อยจุดเด่น และประโยชน์ในสมรภูมิที่แตกต่างกันไป
เช่นเคยเหมือนภาคก่อนๆ เนื้อหาของเกมยังคงโฟกัสไปที่เหตุการณ์ในโลกอนาคตอันใกล้ เมื่อสัตว์ประหลาดเอเลี่ยนบุกรุกรานโลก และให้เรารับบทสมาชิกทหารหน้าใหม่ในสังกัด "กองกำลังพิทักษ์โลก" (Earth Defense Force หรือชื่อย่อ EDF) ที่ต้องออกต่อสู้ปกป้องมวลมนุษยชาติให้รอดพ้นภัยคุกคามจากต่างดาว ที่ในคราวนี้พวกมันได้ส่งกองทัพลูกสมุนลงมาถล่มล้างบางดาวโลกแบบจัดหนักจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น เหล่าฝูงมด, แมงมุม, จานบิน, กบยักษ์, จักรกล ไปจนถึงมอนสเตอร์ขนาดใหญ่รูปร่างคล้าย ก็อตซิลล่า
ถึงกาลเวลาจะผ่านมานานร่วมสิบปี แต่ Earth Defense Force 5 ก็ยังคงรักษาภาพลักษณ์ความเป็นซีรีส์เกมทุนต่ำเอาไว้เหมือนเดิม ไม่คิดพัฒนาแปรเปลี่ยน ด้วยคุณภาพกราฟิกเหลี่ยมหยักล้าสมัย ฉากหลังโล่งเตียนไม่ใส่ใจในรายละเอียด แอนิเมชั่นการบังคับตัวละครแข็งทื่อ หน้าจอเมนูดูไม่เจริญตา และพื้นผิวที่ทำออกมาแบบหยาบๆ ถึงแม้จะพอเข้าใจได้อยู่ว่า เพื่อสอดรับกับยูนิตจำนวนมากมายมหาศาลภายในฉาก แต่พอเอาเข้าจริงมันกลับไม่ช่วย ด้วยเฟรมเรตของภาพที่พร้อมกระตุกร่วงดิ่งเหวเสมอในทุกๆครั้งที่ตัวเราอยู่ในวงล้อมของศัตรู
ตัวเกมนั้นถูกออกแบบมาอย่างจงใจให้เล่นยาก หากคิดจะบุกลุยเดี่ยวเล่นไปคนเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด่านหลังๆที่ศัตรูยกพวกกันมาเต็มจอ จนเราต้องถอยหนีไปตั้งหลักหลบซ่อนอยู่ในซอกหลืบมุมมืดที่การโจมตีของมันเข้าไม่ถึง ซึ่งบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องสนุกเลย ถึงมันจะดูเหมือนเป็นการกลั่นแกล้งของทีมพัฒนา แต่สิ่งที่พวกเขาทำมันก็มีเหตุผลอยู่ เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักจริงๆของเกม คือการเน้นให้ผู้เล่นร่วมด้วยช่วยกันเคลียร์มิชชั่นในรูปแบบ Co-op ไม่ว่าจะผ่านฟีเจอร์ Split-Screen แบ่งจอเล่นกันสองคน หรือผ่านโหมด Online จัดปาร์ตี้เล่นพร้อมกัน 4 คน ช่วยกลบจุดด้อยของแต่ละสาย และคอยซัพพอร์ตให้แก่กัน ที่ดูๆไปก็แอบคล้าย "มอนสเตอร์ ฮันเตอร์" ฉบับงบจำกัด ยังไงยังงั้น
แม้การที่เราได้ถล่มยิงศัตรูนับร้อยไปพร้อมกับเพื่อนๆหลายคน มันจะสนุกคลายเหงาแก้เบื่อไปได้บ้าง แต่ด้วยความที่พวกเขาไม่ทุ่มทุนสร้าง ไม่ยอมใส่ใจลงแรงไปกับมัน ยังคงมุ่งเน้นทำง่ายขายง่าย ขอแค่กำไรติดไม้ติดมือนิดๆหน่อยๆ ฉะนั้นแล้ว การกลับมาของซีรีส์ Earth Defense Force บนเครื่องคอนโซล เพลย์สเตชัน 4 ในครั้งนี้ มันจึงดูน่าสนใจในเฉพาะตอนที่ไม่เหลืออะไรให้เล่นแล้วจริงๆ
เกมการเล่น | 6 |
กราฟิก | 6 |
เสียง | 6 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
ภาพรวม | 6 |
ข้อดี : จำนวนมิชชั่นนับร้อย, อาวุธหลากหลายให้ตัวละครได้เลือกใช้, ทหารแต่ละคลาสมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถออนไลน์ช่วยกันเล่นได้ 4 คน
ข้อเสีย : ดีไซน์มอนสเตอร์บางตัวไม่หลุดกรอบออกนอกโลก, เรื่องราวไม่น่าติดตาม, การบังคับควบคุมที่งุ่มง่าม, กราฟิกทุนต่ำเหมือนเกมยุค PS2 และยังคงกระตุกแม้งานภาพจะหยาบเต็มทน
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES) และบริษัท Next Generation InnovationNGIN
*** ส่วนนี่เทรลเลอร์เกมภาคใหม่ Earth Defense Force: Iron Rain ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว ***
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*