แนว แอ็คชั่นลอบสังหาร
ระบบ PS4, Xbox One, PC
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ภารกิจสานต่อของ "เฮียโล้นเพชฌฆาต 47" ที่ถูกนำเสนอในแบบคิดง่ายทำง่าย จนรู้สึกเหมือนเป็นเกมเดิม เพิ่มเติมคือด่านใหม่
Hitman 2 นับเป็นเกมแอ็คชั่นลอบสังหารภาคแรกของสตูดิโอ IO Interactive ภายใต้สังกัดใหม่อย่าง Warner Bros. ภายหลังจากที่พวกเขาโดนค่าย สแควร์เอนิกซ์ ลอยแพทิ้งขว้าง จากความล้มเหลวของโมเดลธุรกิจหั่นเกมแยกขายทีละเอพิโซดในผลงานก่อนหน้า ซึ่งเราจะมาดูกันว่า การกลับมาของสายลับนักฆ่ารหัสบาร์โค้ดในแบบแก้มือครั้งนี้ จะช่วยกอบกู้ศรัทธาแฟนๆที่หายไปให้หวนคืนมาได้หรือเปล่า?
เนื้อหาในเกมภาคใหม่ ยังคงดำเนินสืบสานเรื่องราวต่อจากภารกิจที่ยังไม่สำเร็จเสร็จสิ้นของ Agent 47 กับการไล่ล่าตามหาตัวบงการชักใยปริศนา ผู้ใช้นามแฝง Shadow Client ซึ่งจริงๆแล้ว เขาคือ "ลูคัส เกรย์" (Lucas Grey) มือสังหารผู้เป็นเพื่อนสนิทสมัยวัยเด็กของเฮียโล้นเรานั่นเอง แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างจึงบีบให้ทั้งสองต้องเดินอยู่เส้นทางคนละสาย ซึ่งในส่วนเหตุผลที่มาที่ไป รวมถึงอดีตของพวกเขาทั้งคู่ ก็จะถูกเฉลยคลี่คลายปมให้แฟนๆได้ทราบกันในเกมนี้
ทางด้าน ระบบเกมเพลย์ เรียกว่าไม่มีอะไรใหม่ก็คงได้ เพราะทุกอย่างที่เห็นในเกมล้วนเป็นการหยิบยกเอาของเก่ามาใช้แทบทั้งดุ้น ไล่ตั้งแต่อาวุธ อุปกรณ์แกดเจ็ต เทคนิคหลบซ่อนลอบเร้น การแฝงกายปลอมตัว ท่วงท่าลีลาสังหาร ดวงตาเพชฌฆาตไฮไลท์สิ่งของสำคัญ-มองเห็นศัตรูทะลุฉาก ยันแอ็คชั่นการเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยอิสระ ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตูของนาย 47 ที่ยังคงสร้างความลำบากใจให้ผู้เล่นเหมือนเช่นเดิม และในเมื่อไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่แปลกที่ตัวเกมทั้งสองภาคจะเลือกใช้โหมดฝึกสอน เทรนนิ่ง บนฉากเรือสำราญร่วมกันได้ และยิ่งไปกว่านั้น ผลงานภาคใหม่นี้ ยังบรรจุขนเอาภารกิจเก่าๆจากตัวเกมภาคแรกมาให้ลูกค้าเก่าได้เล่นกันอีกด้วย
หากจำกันได้ Hitman ภาคแรกนั้น เคยถูกแบ่งแยกขายออกเป็นตอนๆจำนวนทั้งสิ้น 6 เอพิโซด ซึ่งในภาคใหม่ที่มัดรวมขายในราคาแผ่นเต็มนี้ เหล่าทีมงานก็ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์เดิมของพวกเขาตามคอนเซปต์ "นกน้อยทำรังแต่พอตัว" ด้วยจำนวนภารกิจที่มีมาให้เพียงครึ่งโหลไม่มากไม่น้อยไปจากเดิม กระจายไปตามบริเวณพื้นที่ต่างๆรอบโลก ทั้งภารกิจในสนามแข่งรถไมอามี่ ป่าดิบชื้นแถบอเมริกาใต้ ไปจนถึงย่านสลัมในอินเดีย โดยแต่ละมิชชั่นจะถูกออกแบบมาให้เล่นวนซ้ำหลายรอบ เพื่อค้นพบหาช่องทางแปลกๆใหม่ๆในการเข้าถึงตัวเป้าหมาย ยิ่งเล่นก็ยิ่งปลดล็อคอุปกรณ์ที่มาช่วยอำนวยความสะดวก และลดทอนเวลาจากแรกเริ่มที่กินเวลายาวนานหลายชั่วโมง หากเราเล่นซ้ำบ่อยๆเข้าจนชำนาญ ก็อาจลดเหลือเพียงแค่ไม่กี่นาที
เหมือนเคย ตัวเกมจะมอบอิสระให้ผู้เล่นในการวางแผนลอบสังหาร จะแฝงกายปลอมตัวเป็นใคร หรือใช้อะไรปลิดชีพเป้าหมายก็ย่อมได้ แต่ก่อนที่แผนจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างนั้น อันดับแรกเราต้องเสียเวลาเดินงงในดงศัตรู สำรวจบริเวณพื้นที่ให้ครบทุกซอกทุกมุม จนรู้ตำแหน่งไอเทม เส้นทางลับ กิจวัตรประจำของเหยื่อ รวมถึงจุดที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งทุกอย่างล้วนต้องอาศัยความอดทน ลองผิดลองถูกโหลดเซฟใหม่กันเป็นว่าเล่น กว่าจะค้นพบวิธีที่ชอบ หนทางที่ใช่ อย่างไรก็ดี ตัวเกมก็ไม่ได้โหดร้ายกับนักฆ่ามือใหม่จนเกินไป ด้วยการแสดงสัญลักษณ์ ไอคอนสีเขียว เป็นการบอกใบ้ชี้นำโอกาสลู่ทางต่างๆ พร้อมกับคอยบอกแนะนำทีละขั้นตอนเพื่อไปสู่จุดหมาย หากเราทำตามครบถ้วนทุกอย่างก็จะสามารถผ่านภารกิจได้แบบเนียนๆไม่ยากเย็น
สำหรับใครที่คิดว่า 6 ด่านแคมเปญที่มีให้ยังไม่จุใจ ตัวเกมยังมีโหมดออนไลน์ Ghost ที่ให้เราท้าทายกับผู้เล่นออนไลน์คนอื่นๆ แข่งกันเก็บเป้าหมายแบบสุ่มให้ได้เร็วที่สุด ใครไวกว่าก็ชนะไป รวมทั้งมินิเกม Sniper Assassin ส่องซูมกล้องสไนไล่เก็บศัตรูจากระยะไกล และอีเวนท์ Elusive Target แบบจำกัดเวลานานๆมาที ก็ถูกบรรจุมัดรวมมีให้ได้เลือกเล่นเช่นเดียวกัน โดยเหยื่อประเดิมรายแรกได้รับเกียรติจากดาราฮอลลีวูด "ฌอน บีน" ที่มาเป็น เป้าหมายสังหาร ในด่านสนามแข่งไมอามี่ ซึ่งเรามีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว พลาดแล้วพลาดเลย ไม่สามารถกลับมาเล่นใหม่รอบสอง แต่ถึงกระนั้น แม้จะนับรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้าไปด้วยแล้ว เราก็ยังแอบรู้สึกว่า เนื้อหาในเกมที่ให้มา มันดูน้อยเกินไปอยู่ดีนั่นแหละ
Hitman 2 แม้ว่ามันจะสามารถสานต่อความลึก และเสน่ห์ความอิสระที่เคยมีในผลงานก่อนหน้า แต่ด้วยภาพลักษณ์คอนเซปต์-เกมเพลย์ที่ไม่ฉีกหนีไปไกล ยังคงเลือกใช้มั่นใจในสิ่งที่ทำให้ตนต้องระเห็จระเหินโบกมือลาต้นสังกัดเก่า ฉะนั้นแล้วการกลับมาในคราวนี้ จึงแลดูเป็นวิธีเกิดใหม่ที่ไม่ค่อยฉลาดนักสำหรับพวกเขาเหล่าทีมงาน IO Interactive ที่คาดหวังความเปลี่ยนแปลง จากการยึดมั่นทำอะไรแบบเดิมๆ
| เกมการเล่น | 8 |
| กราฟิก | 8 |
| เสียง | 8 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
| ภาพรวม | 8 |
ข้อดี : ฉากภารกิจที่ถูกเซตมาดี, มีตัวช่วยคอยบอกไม่ยากเกินไปสำหรับมือใหม่, ด่านๆหนึ่งเล่นวนซ้ำได้หลายวิธี และมาเป็นเกมตัวเต็มไม่แบ่งขาย
ข้อเสีย : ไม่มีอะไรแปลกใหม่ไปจากภาคที่แล้ว, เรื่องราวที่ค้างคาเหมือนชมซีรีส์โทรทัศน์, กราฟิกดูด้อยเมื่อเทียบกับเกมใหม่ๆในยุคปัจจุบัน, หลากเงื่อนไขในฉากเดียวกันจึงมีโอกาสเกิดบัคได้ง่าย และ 6 ด่านในเกมดูน้อยไปนิดสำหรับคนที่เล่นเอาแค่ผ่าน
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Softzillathailand
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
