xs
xsm
sm
md
lg

Review: Assassin's Creed Odyssey อหังการ์นักฆ่าครึ่งเทพ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แนว แอ็คชั่นอาร์พีจี
ระบบ PS4, Xbox One, PC
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

การย้อนเวลาสู่อดีตอันแสนไกลโพ้นของซีรีส์แอ็คชั่นลอบสังหาร ณ ผืนแผ่นดินถิ่นนักรบผู้นับถือเหล่าทวยเทพ ที่จะทำให้คุณรู้ว่าบางตำนานเรื่องเล่าขาน มันอาจมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่เราเองก็คาดไม่ถึง

แม้อารยธรรมอียิปต์โบราณในภาค Origins ที่เป็นปฐมบทจุดเริ่มต้นของมือสังหารคนแรก จะดูเก่าแก่คร่ำครึที่สุดแล้ว แต่นั่นก็ยังดูใหม่เมื่อเทียบกับ Assassin's Creed Odyssey ผลงานเกมชิ้นล่าสุดจากค่าย ยูบิซอฟต์ ที่นำพาผู้เล่นย้อนเวลากลับไปไกลยิ่งกว่านั้นหลายศตวรรษ เพื่อถ่ายทอดเหตุการณ์ในช่วง 431 ปีก่อนคริสตกาล บนดินแดนกรีกที่กำลังลุกโชนด้วยไฟสงคราม

สำหรับช่วงเวลาไทม์ไลน์ของอารยธรรม กรีกโบราณ ที่ตัวเกมเลือกคัดสรรมานำเสนอนั้น จะเกิดขึ้นภายหลังจากการบุกรุกรานของกองทัพ จักรวรรดิเปอร์เซีย ที่หลายคนคงจดจำกันได้จากภาพยนตร์เรื่องดังกระฉ่อนโลกอย่าง 300 ของ "เจอราร์ด บัตเลอร์" อย่างไรก็ตาม ถึงมหาศึกสงครามครั้งใหญ่ครานั้นจะเสร็จสิ้นรู้ผลกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าสันติสุขก็ไม่เคยอยู่จีรังยั่งยืนค้างฟ้าสำหรับทั้งฝ่าย สปาร์ตา และผอง เอเธนส์ สองนครรัฐมหาอำนาจคู่แค้นร่วมแผ่นดิน ที่ต่างฝ่ายต่างยังคงจับดาบต่อสู้เข่นฆ่ากันเพื่อหวังช่วงชิงความเป็นใหญ่ในกรีก

ตัวเกมจะบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครเอกวัยเยาว์ ที่เกิดเติบโต และถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวนักรบชาว สปาร์ตา แต่ด้วยเหตุการณ์สุดสลดในช่วงวัยเยาว์ จึงทำให้ตนต้องพลัดพรากจากทั้งบิดา-มารดา รวมถึงพี่น้องร่วมสายเลือดอีกหนึ่งคน กลายเป็นเด็กกำพร้าร่อนเร่พเนจร ทำงานดิ้นรนใช้เหงื่อแลกข้าวตั้งแต่ยังเล็ก และด้วยความลำบากยากท้อ ต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อเงินนี้เอง จึงค่อยๆหล่อหลอมตัวตนจนกระทั่งเติบใหญ่กลายเป็นบุคคลกำยำน่าเกรงขามในบทบาท ทหารรับจ้าง ผู้พร้อมออกเดินทางไล่ล่าตามหาความฝัน ที่โชคชะตาจะนำพาตนไปค้นพบความจริงในอดีต และเปิดโปงลัทธิมืด Cult of Kosmos ที่คอยชักใยประเทศนี้อยู่เบื้องหลัง

ด้วยสภาพภูมิประเทศของ กรีก อันเป็นดินแดนที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่ติดกับท้องทะเลมหาสมุทร รายล้อมไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่มากมาย ฉะนั้นแล้ว การเดินทางท่องสำรวจโลกกว้างในผลงานลอบฆ่าภาคล่าสุดนี้ จึงจำเป็นต้องอาศัย การเดินเรือทางน้ำ เสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่เหล่าทีมงาน ยูบิซอฟต์ ถนัดช่ำชองอยู่แล้ว ด้วยการหยิบนำองค์ประกอบเกมเพลย์แล่นเรือข้ามสมุทรจอดแวะเที่ยวชมเกาะต่างๆของเดิมจาก Assassin's Creed IV: Black Flag มาปรับใช้รีไซเคิลใหม่ โดยที่ยังคงเสน่ห์การปะทะต่อสู้แบบ Naval Battle, การอัปเกรดเรือ, ปล้นสะดม และสะสมเกณฑ์พลลูกเรือ เอาไว้เหมือนเดิม

แอสซาซินครีดในภาคนี้ ยังคงยึดระบบ แอ็คชั่นอาร์พีจี แบบเดียวกับภาค Origins ที่ใช้ระดับ เลเวล เป็นตัวชี้วัดตัดสินทุกอย่าง ไม่ว่าตัวละครของเรา ศัตรู หรือสัตว์ป่า ต่างก็มีระดับเลเวลของตนเอง และบีบให้ผู้เล่นต้องหมั่นขยันเก็บเควสต์ยิบย่อยตามรายทาง เพื่อสะสมค่าประสบการณ์ยกระดับเลเวลตนเองให้สูงขึ้น มากพอที่จะไปเผชิญกับภารกิจต่อไป ซึ่งตรงจุดนี้ก็มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ เพราะหากนั่งเล่นตามปกติไม่เติมเงินบูสต์ EXP ช่วย มันค่อนข้างใช้เวลานานต้องเคลียร์ 3-4 เควสต์ กว่าเลเวลตัวละครจะขึ้นหนึ่งขั้น ส่งผลให้อารมณ์อินในเนื้อเรื่องหลักขาดหายไปไม่ต่อเนื่อง

ถ้าถามเรา การที่ตัวเกมพยายามบีบให้คุณเข้าไปสัมผัสดำดิ่งเข้าถึงเนื้อหาคอนเทนต์ทุกอณูรูขุมขนที่ทีมพัฒนายัดใส่ให้มานั้น มันไม่ใช่ข้อด้อยจุดตำหนิของเกมเลย แถมกลับเป็นข้อดีซะอีก ที่เราจะได้เล่นมันอย่างคุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป แต่สิ่งที่เราคิดว่าเป็นปัญหาหลักของเกมจริงๆแล้ว มันน่าจะอยู่ตรงที่ ความน่าเบื่อ อันเกิดจากความไม่หลากหลายของเควสต์มากกว่า ที่มีเพียงแค่ ขโมยของ-ลอบฆ่า-ล่าสัตว์ เวียนวนซ้ำซากเรื่อยไปแบบไม่รู้จบ ที่บางทีทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่า กำลังนั่งเล่นเก็บเลเวลอยู่ภายใน ขุมนรก

นับเป็นเรื่องธรรมดา ไม่แปลกที่ในช่วงเริ่มแรก ผู้เล่นจะรู้สึกหงุดหงิดอารมณ์เสียกับความอ่อนแอไร้สมรรถภาพของตัวละครเอกนักฆ่า ที่ทั้งกระโดดลงมาใช้มีดจิ้มแทง หรือยิงธนูปักเข้าที่หัวก็แล้ว ศัตรูก็ยังเดินชิลสบายไม่ตายเสียที ซึ่งนั่นเป็นเพราะว่า เรายังยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆของ "แอสซาซินครีด" จนลืมนึกไปว่านี่มันเป็นเกม อาร์พีจี เกมหนึ่ง ที่อยู่ดีๆจะให้ตัวละครเก่งเทพตั้งแต่ต้นเกมเลยคงเป็นไปไม่ได้ คุณจำต้องอดทนเหนื่อยยากลำบากก่อนในช่วงแรก แล้วค่อยสบายในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ความปรารถนาใฝ่ฝันอยากล้มศัตรูเก่งๆได้ในดาบเดียว มันก็ยังสามารถเกิดขึ้นจริงได้ในเกมนี้ หากว่าเราหมั่นปลดล็อคอัปเกรดสกิลตัวละครให้สูงมากพอจนถึงระดับหนึ่ง และเชื่อว่ามันจะไม่มีเสียงบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย เมื่อคุณพาตัวละครไปถึงจุดๆนั้น

สำหรับสกิลในเกมที่มีให้เลือกอัพ จะถูกแบ่งออกเป็น 3 สายหลักๆ ได้แก่ Hunter สายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้ธนูยิงดับลมหายใจเป้าหมายจากระยะไกล, Warrior สายของเหล่านักรบที่ชอบใช้กำลังในการแก้ปัญหา และ Assassin สายย่องเบาแอบเงียบลอบสังหาร โดยแต่ละสายก็จะมีสกิลทั้งที่เป็นแบบ Passive ติดตัวส่งผลอัตโนมัติ และสกิลแบบ Active ที่เราต้องกดใช้เอง ซึ่งการเพิ่มลูกเล่นกดปุ่ม L1 เพื่อเรียกเมนูสกิลขึ้นมาใช้งานนี้เอง จึงทำให้ฟังก์ชันการยกโล่ตั้งการ์ดจากภาคที่แล้ว กลายเป็นส่วนเกินต้องถูกตัดทิ้งไปโดยปริยาย และถึงต่อให้ยังมีอยู่ มันก็คงดูจืดชืดไร้ความหมาย เมื่อเทียบกับทักษะในการปัดป้อง, ลีลาสืบเท้าสไลด์ตัวหลบหลีกสุดพลิ้วราวกับอยู่บนพื้นน้ำแข็ง และสกิลขั้นเทพอันมากมายก่ายกองของตัวละคร ที่พอเล่นไปเรื่อยๆเราจะเข้าใจกระจ่างอย่างแจ่มแจ้ง ถึงเหตุผลที่มาที่ไปของพลังเหนือมนุษย์เหล่านั้น

ตามคำมั่นสัญญาของ ยูบิซอฟต์ หัวใจหลักในเกมแอสซาซินครีดภาคนี้ มันอยู่ที่ช้อยซ์ทางเลือกอันเปิดกว้าง ที่ผู้เล่นสามารถเลือกเป็น เลือกหนทางเดินได้อิสระ ทั้งในบทบาทของ "คาสซานดร้า" หญิงแกร่งเชื้อสายสปาร์ตา หรือ "อเล็กซิออส" หนุ่มชาตินักรบที่เกิดมาในตระกูลเดียวกัน ซึ่งไม่ว่าเราจะเลือกสวมบทเล่นเป็นใคร มันก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับพล็อตเนื้อหาเรื่องราวเมนหลัก ที่เพียงแค่สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกัน เช่น หากเลือกเล่นเป็น คาสซานดร้า บทบาทของตัวละคร อเล็กซิออส ก็จะกลายเป็นน้องชายคนเล็กที่หายพรากจากไปนาน ในทางกลับกันถ้าเราเลือก อเล็กซิออส บทบาทของเขาก็จะถูกสลับมาเป็นพี่ใหญ่ที่ออกตามหาน้องสาว แค่นั้นเอง

นอกเหนือจากเรื่อง เพศตัวละคร ที่เราสามารถเลือกได้แล้ว ในส่วนของระบบ เกมเพลย์ เองก็ยังได้รับอิทธิพลอย่างหนักหน่วงจาก ระบบช้อยซ์ทางเลือก เนื่องจากในภาคนี้ เป็นครั้งแรกที่เราสามารถเลือกได้ว่า จะฆ่าศัตรูที่อยู่ตรงหน้า หรือน็อคมันให้สลบแล้วชวนมาเข้าพวก แถมสามารถทำแบบนี้ได้กับศัตรูทุกตัว ตั้งแต่สมุนลูกกระจ๊อก ยันระดับหัวหน้า อีกทั้งในช่วงของการพูดคุยสนทนากับ NPC ตัวมอบเควสต์ เราก็ยังสามารถตัดสินใจได้ว่า จะเลือกตอบคำถามแบบถนอมน้ำใจคนดีศรีสังคม, พูดโกหกตลบตะแลงเสแสร้ง หรือใช้วาจาโผงผางแสดงอาการก้าวร้าว ซึ่งบทสรุปผลลัพธ์ของแต่ละเควสต์ จะออกมาในแบบที่เราต้องการ เหนื่อยฟรี เอาคอขึ้นเขียง หรือไปจบที่บนเตียง ก็ล้วนแล้วขึ้นอยู่กับคำตอบที่เราเลือกทั้งสิ้น

ในฐานะที่ตัวเราโลดแล่นอยู่ในวงการ Mercenaries ทำทุกอย่างแลกเงินโดยไม่สวามิภักดิ์ฝักใฝ่ฝ่ายใด เราจึงสามารถเลือกรับเควสต์ได้จากทั้งฝ่าย สปาร์ตา และฝ่าย เอเธนส์ แน่นอนว่าย่อมมีโอกาสสูงที่ลูกค้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเกิดความไม่พอใจ หากเราทำงานไม่รอบคอบ ลงมือสังหารแบบโจ๋งครึ่ม หรือมีพยานรู้เห็นเข้า ตัวเราก็มีสิทธิ์โดนตั้งค่าหัวตกเป็นเป้าหมายเสียเอง และจะมีนักฆ่ารับจ้างคนอื่นๆเข้ามาไล่ล่าเราเพื่อหวังเงินรางวัล ต่อให้ฆ่ากำจัดมันลงได้ไปสักเท่าไหร่ อีกเดี๋ยวก็จะมีนักฆ่ารายอื่นโผล่ขึ้นมารับจ๊อบเสียบแทนเสมอ ตราบใดที่ค่าหัวของเรายังคงอยู่ โดยในเกมเราสามารถหลบเลี่ยงจากการถูกไล่ล่าได้หลากวิธี ไม่ว่าจะหลบกบดานอยู่เงียบๆไปสักพัก ยอมควักตังค์จ่ายใต้โต๊ะ หรือไปลอบฆ่าคนตั้งค่าหัวซะเลยให้สิ้นเรื่อง ซึ่งวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดมีนักฆ่าหน้าใหม่ๆผุดขึ้นมาทดแทนคนเก่าอยู่ตลอดเวลานี้เอง จึงทำให้เรารู้สึกคลับคล้ายคลับคลากับ ระบบ เนเมซิส ของเกม Middle-earth: Shadow of War ยิ่งนัก ต่างกันเพียงแค่ในเกมนี้ มันเป็นเหตุผลเรื่องงาน ไม่ใช่อารมณ์ความแค้นส่วนตัว

ถึงคอนเซปต์ ระบบรางวัลนำจับ มีศัตรูเลเวลสูงๆมาคอยกดดันไล่ล่าเราจะฟังดูดี แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว มันกลับสร้างปัญหาความน่ารำคาญ มากกว่าความท้าทาย เนื่องด้วยการเขียนโปรแกรม AI อันแบบมักง่ายของทีมงาน ผู้ให้กำเนิดร่างเงาวิญญาณมาเดินตามติดเราทุกฝีก้าว ไม่พักผ่อนหลับนอนคอยเข้ามาเผือกปั่นป่วนเราได้ในทุกภารกิจ แม้ว่าเราจะหัวหมอแอบย่องถอยห่างจากไปโดยไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ พอถึงเมืองใหม่ลองกดใช้ นกอินทรี บินส่องดู เราจะเห็นความผิดปกติของศัตรูเจ้ากรรมนายเวร ที่จู่ๆก็เหมือนรู้ตัวว่าเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว พร้อมกับวิ่งหน้าตั้งพุ่งตรงปรี่มาหาเราเหมือนมี GPS เพื่อมาทำทีท่าเดินหาโง่ๆแบบเดิมๆในบริเวณพื้นที่ปัจจุบันที่เราอยู่ ซึ่งการกำหนดเงื่อนไข AI ศัตรูรับจ้าง ที่ต้องคอยรักษาระยะห่างกับผู้เล่นไม่ต่างจาก กรรมการ ในเกมกีฬาฟุตบอลนั้น มันช่างเย้ายวนให้เราอยากเอาฝ่าเท้าไปกระชับนวดใบหน้าเหล่าทีมงานโปรแกรมเมอร์เสียเหลือเกิน

ตามที่ได้เกริ่นไปตอนต้น เควสต์ต่างๆภายในเกมอาจดูแล้วค่อนข้างซ้ำซาก ไม่ค่อยเน้นคุณภาพสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย พวกเขาก็เลือกแทนที่มันด้วยปริมาณจัดสรรให้มาแบบจุใจเอียนกันไปข้าง โดยอาศัยเหตุการณ์บ้านเมืองที่กำลังอยู่ในช่วงภาวะสงคราม เดินเซไปทางไหนก็ล้วนเจอแต่ค่ายทหาร แหล่งซ่องสุมกองโจร รอให้เราได้เคลียร์สำรวจ หรือหากเกิดเบื่อๆ ก็ยังมีเหล่าสมาชิกในลัทธิที่รอให้เราไปตามฆ่ากระชากหน้ากาก รวมไปถึงสัตว์อสูรลับในตำนานกรีก อาทิ มิโนทอร์, ไซคลอปส์ และ เมดูซ่า ก็ล้วนถูกบรรจุลงแพคใส่มาให้เราได้ออกไล่ล่าเช่นเดียวกัน รวมๆแล้วเกมนี้ก็ทำให้คุณมีเวลายุ่งอยู่กับมันได้เป็นเดือนๆ หรืออาจเป็นปี สำหรับใครที่อยากตามเก็บ DLC

คงมิอาจปฏิเสธได้ว่า Assassin's Creed Odyssey มันคือภาคที่ดีที่สุดของแฟรนไชส์ แต่ในความดีงามของมันก็ยังมีจุดบกพร่อง ไม่ได้ดีพร้อมสมบูรณ์แบบ ด้วยความน่าหงุดหงิดใจต่างๆนานาที่กล่าวไป รวมถึงปัญหาอาการค้างระหว่างเกม ที่ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง แต่เราพบเจอบ่อยแทบทุกวันเหมือนเป็นเรื่องปกติ จึงค่อนข้างน่าเสียดายกับผลงานดีๆแบบนี้ที่มีศักยภาพพอเข้าชิงรางวัลเกมแห่งปีได้ หากพวกเขาไม่เร่งรัดรีบทำรีบขาย หรือหิวกระหายเงินจนเกินงาม ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกของเราที่มีต่อมัน คงเหมือนดั่ง ขนมปังรสเลิศชั้นดี ที่โดนหยิบออกจากเตาอบก่อนเวลาอันควร

เกมการเล่น7
กราฟิก10
เสียง10
ความคิดสร้างสรรค์9
ภาพรวม9


ข้อดี : แผนที่โลกกว้างใหญ่ไพศาล, งานภาพกราฟิกสวยงาม, บรรยากาศล่องเรือแวะเที่ยวชมเกาะต่างๆ, ระบบการต่อสู้ที่สนุกเร้าใจ, ผลลัพธ์ภารกิจแตกต่างไปตามที่เราตอบ, เลือกจัดการศัตรูได้อิสระไม่จำเป็นต้องฆ่า, เนื้อหาคอนเทนต์อัดแน่นเล่นได้เป็นปี และเป็น แอสซาซินครีด ที่รวมจุดแข็งของภาคต่างๆเอาไว้ในเกมเดียว
ข้อเสีย : เควสต์เยอะมากแต่ไม่หลากหลาย, จงใจบีบบังคับให้ผู้เล่นเติมเงิน, ปัญหาอาการเกมค้างเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย, บางจุดปีนไม่ได้แบบไร้เหตุผล และระบบ Mercenary ที่เป็นวิญญาณตามติดจนน่ารำคาญ

Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES) และบริษัท Next Generation InnovationNGIN










*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*







































กำลังโหลดความคิดเห็น