xs
xsm
sm
md
lg

Review: Dragon Quest XI ตำนานผู้กล้า กับชะตาที่ถามหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แนว อาร์พีจี
ระบบ PS4, PC
เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป

ครบหนึ่งปีที่รอคอย กับผลงานสานต่อตำนานเกมอาร์พีจี ที่ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษเรียบร้อย พร้อมต้อนรับแฟนๆทั่วโลกเข้าสู่ดินแดนแสนมหัศจรรย์แห่ง Erdrea

หลังปล่อยเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่น ให้เกมเมอร์แดนปลาดิบได้ชิงสัมผัสกันไปก่อนเมื่อปี 2017 และแล้วในที่สุดวันนี้ก็มาถึง กับการวางจำหน่าย Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age ตำนานผู้กล้าภาคใหม่ในแบบฉบับภาษาอังกฤษ บนแพลตฟอร์มเพลย์สเตชัน 4 และพีซี ที่ถึงแม้กระแสความร้อนแรงของเกมจะดูแผ่วลงไปตามกาลเวลาที่ผันผ่าน แต่ก็ไม่อาจกลบคุณภาพความคับแก้วของตัวเกมที่พร้อมเสิร์ฟแก่เหล่าแฟนๆผู้รอคอยสัมผัสมัน

สำหรับ เนื้อหา จะไม่มีอะไรต่างจากเวอร์ชันญี่ปุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครเอก หนุ่มน้อยผมแสกกลางลุคคล้าย "หมายเลข 17" ผู้โดนลอยแพมากับสายน้ำ และถูกเก็บไปเลี้ยงดูเติบโตมาในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง จนกระทั่งเติบใหญ่ ถึงได้รู้ล่วงรู้ว่า ตนมีเชื้อสายของราชวงศ์ หนำซ้ำยังโดนทายทักว่า ตนเป็นร่างเกิดใหม่ของผู้กอบกู้ Luminary จากหลักฐานรอยปานสัญลักษณ์บนมือข้างซ้าย จึงเป็นเหตุให้ตนตัดสินใจดั้นด้นออกเดินทางผจญภัยท่องโลกกว้าง เพื่อสืบเสาะตามหาความจริง ไปพร้อมกับการระดมสมัครพรรคพวกร่วมอุดมการณ์ และขจัดปัดเป่าความชั่วร้ายที่ปกคลุมดินแดน Erdrea ให้หมดสิ้นไป

ทางด้าน กราฟิก ยังคงงามหยดย้อยสมกับเป็นเกมบนเครื่อง PS4 ด้วยภาพ 3D แอนิเมชั่นสไตล์การ์ตูน อันมีรายละเอียดสูงจากขุมพลัง Unreal Engine 4 ที่มีการโชว์ฟิสิกส์ของใบไม้ ต้นหญ้า เสื้อผ้า เผ้าผมของตัวละคร สะบัดพลิ้วไหวตามสายลม อีกทั้งเรื่องเอฟเฟกต์ แสงแดดสาดส่อง เงาเมฆที่เคลื่อนผ่าน ก็ยังดูโดดเด่นผันแปรเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา ไล่ตั้งแต่รุ่งอรุณยามเช้า ยันตะวันสายบ่ายคล้อย เย็นย่ำอัสดง จนพลบค่ำฟ้ามืดเห็นเพียงแสงจันทรา ซึ่งนอกจากเรื่องแสงสีที่แตกต่างกันแล้ว มอนสเตอร์ ที่เดินเตร็ดเตร่อยู่ภายในฉาก ก็มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามช่วงเวลาของวันด้วย เช่นเดียวกัน

ฉากแผนที่ภายในเกมนั้น ถึงจะเรียก โอเพ่นเวิลด์ ไม่ได้เต็มปาก แต่ที่ให้มามันก็ค่อนข้างกว้างใหญ่ และมีพื้นที่ให้ผู้เล่นสำรวจมากมาย ตั้งแต่ฉากทุ่งกว้างอันเป็นที่สิงสถิตของเหล่ามอนสเตอร์ ยันฉากเมืองของเหล่ามนุษย์ผู้อยู่อาศัย ที่มีตรอกซอกซอยแยกย่อยให้ได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่อลังการของอาณาจักร บ้านแต่ละหลัง ร้านค้าแต่ละแห่ง ฝูงชนคนเดิน รวมไปถึงสิ่งของประดับตกแต่ง ล้วนมีความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัว บ่งบอกได้ถึงความพิถีพิถันบรรจงสร้างของทีมงานนักพัฒนา ผู้มีเวลาว่าง และใส่ใจทุ่มเทให้กับมันอย่างมาก ซึ่งเป็นอะไรที่สวนทางแตกต่างอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับอีกหนึ่งซีรีส์เกมอาร์พีจีชื่อดังกระฉ่อนโลกในยุคหลังๆจากค่ายเดียวกัน

ดราก้อน เควสต์ ในภาคสิบเอ็ดนี้ ยังคงยึดระบบตามแบบฉบับเกม JRPG เก่าแก่ดั้งเดิม ที่เมื่อตัวละครขยับเดินเข้าใกล้ มอนสเตอร์ ก็จะตัดเข้าสู่ฉากการต่อสู้ผลัดกันตีทีละตาแบบ เทิร์นเบส ซึ่งเราสามารถส่งสมาชิกลงสู่สมรภูมิได้พร้อมกันสูงสุด 4 ตัวละคร รวมถึงมีระบบกำหนดแผน Tactics ล่วงหน้าที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับเกม Final Fantasy XII โดยสามารถเลือกกำหนดบทบาทหน้าที่ให้กับทุกตัวละครในปาร์ตี้ได้ว่า จะให้ใครเน้นโจมตี ร่ายเวทย์ หรือคอยฮีล และเมื่อถึงคราวต่อสู้ แต่ละตัวก็จะปฏิบัติตามโปรแกรมง่ายๆที่เซตตั้งค่าไว้อัตโนมัติ โดยเราไม่ต้องเสียเวลากดเลือกคำสั่งให้ทุกตัวละครในทุกๆครั้งที่ถึงเทิร์น อีกต่อไป

ส่วนใครที่คิดถึงลูกเล่น "ระเบิดพลัง" จากภาค 8 คงรู้สึกปลื้มปริ่มดีใจเป็นพิเศษ เมื่อรู้ว่าระบบดังกล่าวได้ถูกหยิบนำกลับมารีไซเคิลอีกครั้งในภาคนี้ ภายใต้ชื่อใหม่ว่า Pep Up อันเป็นระบบที่ช่วยเพิ่มสปีดความว่องไว และความแข็งแกร่งให้กับตัวละครเพียงชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งถ้าหากตัวละครในปาร์ตี้เกิดระเบิดพลังซูเปอร์พร้อมกัน 2 ตัวขึ้นไป เราก็จะสามารถกดใช้ ท่าไม้ตายประสาน แตกต่างไปตามคู่ที่เราจับได้ แต่การที่จะให้คู่ตัวละครที่เราหมายตาติดสถานะ Pep Up พร้อมกันนั้น มันต้องอาศัยเทคนิคเล็กน้อย โดยทริคที่ผู้เล่นส่วนใหญ่นิยมใช้กัน นั่นคือเก็บดองตัวละครที่ระเบิดพลังแล้วเอาไว้ในแถวหลังที่นั่งสำรอง แล้วค่อยส่งมันลงมาภายหลังเพื่อใช้ท่าประสานร่วมกับตัวละครที่เราต้องการ

หากเป็นภาคก่อนๆ ก่อนออกจากหมู่บ้านไปตะลุยดันเจี้ยนในแต่ละครั้ง เราคงต้องคิดหนักวางแผนเตรียมซื้ออาวุธ ชุดเกราะ และไอเทมฟื้นฟูไปให้พร้อม หรืออาจต้องเวียนวนรอบหมู่บ้านสักพักเพื่อฟาร์ม EXP แต่กลับกันในภาคนี้ เราสามารถรับเควสต์แล้วด้นสดไปตายเอาดาบหน้าได้เลยในทันที ด้วยนานาฟีเจอร์ตัวช่วยสำหรับมือใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ระบบออโต้เซฟ บันทึกการเล่นเวลาตัดเข้าสู่ฉากสำคัญ, มี แคมป์ไฟกลางทาง ให้เราได้นอนค้างแรมฟื้นฟูพลัง ซึ่ง ณ จุดพักกลางแจ้งแห่งนี้ เราจะได้พบกับพ่อค้าหาบเร่ รวมถึง รูปปั้นเทวรูป ที่เสมือนโบสถ์เวอร์ชันย่อส่วนให้เราได้เซฟ คืนชีพ และรักษาอาการผิดปกติ โดยไม่ต้องเสียเวลาตีตั๋วกลับเข้าเมือง และที่สะดวกสบายยิ่งไปกว่านั้น นั่นคือบริเวณรอบกองไฟ มันจะมี แท่นตีดาบ คอยให้บริการคราฟต์ของ สร้างไอเทม ตีบวกอาวุธทรงพลังใหม่ๆ ด้วยวัตถุดิบที่หามาได้ โดยถ้าเรากะจังหวะตีดีๆ ไม่แน่อาจจะได้ของเทพที่แรงกว่าอาวุธที่ขายตามร้านค้าเสียอีก

เหมือนเช่นทุกที เหล่าตัวละครในปาร์ตี้ เมื่อสั่งสมประสบการณ์จนเลเวลอัพ เราสามารถเลือกปลดล็อคช่องสกิลใหม่ๆให้กับตัวละครได้ ซึ่งแผนผังการอัปเกรดใน DQ ภาคนี้ จะมีลักษณะคล้าย รวงผึ้ง ที่มีการแบ่งสายสกิลให้เราเลือกอัพแยกไปตามอาวุธที่ตัวละครถนัด โดยหนึ่งตัวละครจะมีอาวุธที่ตนถนัดต่างกันไปอยู่ประมาณ 3 - 4 ชิ้น ซึ่งการจะเลือกอัพสายไหน ก็คงต้องขึ้นอยู่กับแผนแทคติก และสไตล์การเล่นของแต่ละคน

แม้ตัวเกมจะแลดูเป็นมิตร และเข้าถึงกลุ่มผู้เล่นหน้าใหม่ๆมากขึ้น ด้วยบรรดาฟีเจอร์ตัวช่วยที่ได้เกริ่นไป กับความปรารถนาดีของทีมงาน ที่อุตส่าห์ ไฮไลท์วงกลมสีชมพู ตรงจุดสำคัญที่เราต้องเดินไปสำรวจ รวมถึงแสดงไอคอนสัญลักษณ์ตัวโตๆบนหัว NPC ที่เราต้องพูดคุยถามทางไปต่อ ไม่ต้องเหนื่อยเสียเวลาเดินหา มาให้แล้วเสร็จสรรพ แต่อย่าได้คาดหวังว่า เราจะสามารถเคลียร์จบผลงานเกมล่าสุดของอาจารย์ “โทริยามะ อากิระ" ได้แบบสปีดอัพรวดเร็วกระชับฉับไว เพราะถึงยังไงสไตล์การบอกเล่าเรื่องราวแบบลากยาว อันเป็นเอกลักษณ์ลายเซ็นของเขาก็ยังคงอยู่ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ หากพบว่าผ่านไปกว่า 4 ชั่วโมงแล้ว ตัวเรายังคงเดินเวียนวนทำภารกิจอยู่ในขอบเขตของอาณาจักรแรก ที่เป็นฉากเปิดเริ่มเกม

เทียบกันแล้ว Dragon Quest XI: Echoes of an Elusive Age คงเหมือนกับภาพยนตร์ผจญภัยเรื่องยาวฉบับ Uncut ที่ผู้กำกับไม่ตัดต่อสรุปย่อใจความคัดเอาแต่เนื้อๆ จนผู้ชมรู้สึกว่าเนื้อหาที่ใส่มามันเยอะมีมากเกินไป แต่ในความยืดยาดนวยนาดเหล่านั้น กลับปราศจากไร้ซึ่งอารมณ์ของการ “เสียดายเวลา” หรือ "เผางาน" สะท้อนออกมาให้เราเห็นเลยแม้แต่น้อย และมันยังคงเป็นสุดยอดเกมอาร์พีจีสูบชีวิต ที่หากใครได้ลองจับเป็นต้องตกหลุมรัก

เกมการเล่น9
กราฟิก10
เสียง9
ความคิดสร้างสรรค์10
ภาพรวม9.5


ข้อดี : ภาพแอนิเมชั่น 3D สวยงามรายละเอียดสูง, สภาพฟ้าฝนกลางวัน-กลางคืนแบบไดนามิค, ระบบแทคติกวางแผนก่อนรบคล้ายเกม FFXII, นานาฟีเจอร์ตัวช่วยใหม่ๆที่เซฟเวลาได้เยอะ, เสียงพากย์อังกฤษฟูลวอยซ์จัดเต็มทุกการขยับปาก, หลากหลายความลับให้ตามเก็บเกินร้อยชั่วโมง และเป็นเกม DQ ที่เล่นสบาย-เข้าถึงง่ายที่สุดในแฟรนไชส์
ข้อเสีย : บังคับเปลี่ยนตำแหน่งยืนของตัวละครในฉากต่อสู้ได้ แต่ไม่มีผลในการโจมตี, พล็อตเก่าเดาง่ายตามสไตล์ซีรีส์ และการเดินเรื่องที่อืดอาดชวนหนังตาคล้อย

Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES) และบริษัท Next Generation InnovationNGIN










*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*






































กำลังโหลดความคิดเห็น