Review: Tennis World Tour เกมเทนนิส ด้อยลิขสิทธิ์

แนว กีฬา
ระบบ PS4, Xbox One
เรตเกม PEGI: 3 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไป

การกลับมาของเกมกีฬาดวลลูกสักหลาด ที่แฟนๆหลายคนต่างเรียกร้องกันเข้ามามาก เพราะปัจจุบันหาเล่นค่อนข้างยากบนเครื่องคอนโซล แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า มันจะคุ้มค่าสมการรอคอย

นับเป็นเรื่องธรรมดาของกีฬาประเภทเดี่ยวแข่งขันคนเดียวอย่าง สนุ๊กเกอร์ กอล์ฟ รวมถึง เทนนิส ที่เสน่ห์ความน่าสนใจของกีฬาประเภทนี้ มักไปตกอยู่ที่ตัวนักกีฬาผู้เข้าแข่งขัน อันเป็นแม่เหล็กดึงดูดชั้นดีให้มีเหล่าแฟนคลับคอยตามลุ้นเชียร์ติดขอบสนาม หากฟอร์มเริ่มดร็อปอันดับเริ่มร่วง คนก็จะเลิกให้ความสนใจจนเป็นเหตุให้กระแสความนิยมเริ่มแผ่วลง แตกต่างจากกีฬาประเภททีมเน้นเล่นเป็นหมู่คณะอย่าง ฟุตบอล หรือ บาสเกตบอล ที่ถึงแม้เหล่าสตาร์ดาวดังจะร่วงโรยลาลับจากพวกเขาไป แต่ก็ยังมีกลุ่มแฟนคลับคอยติดตามดูอยู่เสมอไม่ขาดสาย ด้วยความคลั่งไคล้หลงรักในทีม หรือสโมสร

จากกระแสความนิยมที่เริ่มซาลงนี้เอง มันก็ได้ส่งอิทธิพลไปยังทีมผู้พัฒนาเกมกีฬาเหล่านั้นด้วย โดยในส่วนของเกม เทนนิส นั้น เมื่อก่อนเราคงเคยได้ยินชื่อสองซีรีส์เกมที่ปะทะขับเคี่ยวกันเรื่อยมาตลอด ระหว่าง Top Spin กับ Virtua Tennis แต่พอมาทุกวันนี้ ในยุคที่การโคจรมาพบกันของ "โรเจอร์ เฟเดอร์เรอร์" และคู่ปรับตลอดกาล "ราฟาเอล นาดาล" ไม่ได้เป็นแมตช์หยุดโลกเหมือนแต่ก่อน ภาพบรรยากาศความดุเดือดระหว่างทั้งสองซีรีส์จึงกลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำในอดีต จากการที่ทั้งคู่ต่างยุติล้มเลิกแผนการพัฒนาสานทำภาคต่อ และเมื่อในบ่อไม่หลงเหลือปลาใหญ่มาคอยเป็นอุปสรรค จึงเป็นโอกาสดีของค่ายเล็กๆผู้หวังผลักดันเกมกีฬา เทนนิส ของตนออกสู่ตลาดที่กำลังว่างเปล่าไร้คู่แข่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Tennis World Tour ผลงานล่าสุดของค่าย Bigben Interactive ที่เรานำมารีวิวนี่เอง

แน่นอน สิ่งแรกที่เกมเมอร์คอกีฬาให้ความสนใจ คงหนีไม่พ้นเรื่องของ ลิขสิทธิ์ ที่ต้องบอกเลยว่าหากเราร่ายยาวลิสต์รายชื่อนักเทนนิสภายในเกมให้ฟัง พวกคุณอาจรู้สึกผิดหวัง เพราะแต่ละชื่อนั้น หากเป็นคนทั่วไปที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้กีฬาชนิดนี้ คงขมวดคิ้วส่ายหัวเป็นแน่แท้ ซึ่งนอกเหนือจากตัว "โรเจอร์ เฟเดอเรอร์" ซูเปอร์สตาร์นักหวดชาวสวิสวัยชรา มือวางอันดับสองของโลก ที่โผล่มาเป็นดาราหน้าปกแล้ว พวกที่เหลือในเกมเรากลับแทบไม่รู้จักเลย จะมีคุ้นหูอยู่บ้างเพียงแค่สองสามคนเท่านั้น โดยที่ปราศจากไร้เงาของ "ราฟาเอล นาดาล" มือวางอันดับหนึ่งคนปัจจุบัน, "แอนดี้ เมอร์เรย์" หรือแม้กระทั่ง "โนวัก โยโควิช" ก็ไม่โผล่มาให้เห็นให้ได้เล่นกัน ส่วนทางด้านฝ่ายนักเทนนิสหญิงเอง ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เพราะขาดหายทั้งมือหนึ่ง "ซิโมนา ฮาเล็ป", "มาเรีย ชาราโปวา" ไปจนถึงสองพี่น้องจอมถึกตระกูลวิลเลียมส์

ขณะเดียวกัน ในเรื่องของ สนาม ทัวร์นาเมนท์รายการแข่งขันต่างๆที่ปรากฏอยู่ในเกม ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ได้ลิขสิทธิ์ ต้องอาศัยการหลบเลี่ยงจำลองก็อปปี้ให้เหมือนของจริงแทบทั้งสิ้น โดยภายในเกมจะมีสนามพื้นหญ้า ที่คล้ายรายการแข่งขัน วิมเบิลดัน รวมไปถึงสนามดินรูปแบบเคลย์คอร์ต ที่ชวนให้นึกถึงภาพบรรยากาศรายการแข่งขัน โรลังด์ การ์รอส ของฝรั่งเศส ซึ่งตรงจุดนี้ต้องยอมรับว่าเลียนแบบทำออกมาได้ดี พอให้เรากล้อมแกล้มบรรเทาความเจ็บปวดเศร้าเสียใจไปได้บ้าง

สำหรับแฟนๆคนใด ที่บอกว่าตนไม่ซีเรียสอะไรมากนักกับเรื่องลิขสิทธิ์ ไม่ว่าด้วยจิตปล่อยวางปลงโลกา หรือชาชินมาจากเกมดังของค่ายโคนามิ ที่ขอเพียงแค่ได้สัมผัสกับระบบ เกมเพลย์ แจ่มๆเท่านั้นเป็นพอ ก็คงต้องกลับไปคิดพิจารณากันเสียใหม่ เมื่อได้มาเห็นจังหวะการเล่นของเกมที่น่าเบื่อชวนหาว ตัวละครแสนเชื่องช้าไม่แอคทีฟกระตือรือร้น เน้นแต่ลูกตื๊อตีโต้ตอบกันไปมาจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมถอดใจ ไม่มีลูกล่อลูกชนแปลกๆมาให้ฝึกสมอง ฟิสิกส์การเคลื่อนที่ของลูกบอลไม่ค่อยสมจริง เทคนิคตีลูกลอดใต้หว่างขาก็งัดออกมาใช้กันอย่างพร่ําเพรื่อ แถมบางครายังน่าหงุดหงิด ลูกง่ายๆตัวเรากลับนิ่งเฉยไม่ขยับไหวติงยกไม้ขึ้นมาตี และที่แย่ยิ่งไปกว่า นั่นคือเรื่อง กราฟิก ที่อยู่แค่ในระดับพอฟัดพอเหวี่ยงกับเกมยุค เพลย์สเตชัน 2 มิได้ใกล้เคียงกับภาพโปรโมตที่แปะหราโฆษณาอยู่ตามสื่อ จนทำให้กลุ่มลูกค้าผู้หลงซื้อไปรู้สึกราวกับว่าตนเป็นสัตว์มีเขา

อย่างไรก็ตาม เกมๆนี้มันก็มีส่วนดีให้คอนักหวดได้ชื่นใจอยู่บ้างกับโหมด Career ที่ให้เราสามารถสร้างตัวละคร อวตาร์ นักเทนนิสในแบบของตนขึ้นมาเอง จากตัวเลือก ใบหน้า สีผิว ท่าทาง ที่มีให้เลือกไม่มากนัก โดยโหมดนี้จะจำลองการใช้ชีวิตแบบเดียวกับที่นักกีฬาจริงๆเขาทำกัน นั่นคือต้องคอยขยันหมั่นซ้อมฝึกฝนทักษะ และบริหารเวลาจัดระเบียบตารางในแต่ละเดือน ว่าจะเลือกลงแข่งรายการไหน ถ้วยใหญ่ ถ้วยเล็ก หรือว่าจะขอหยุดเว้นพักเบรค เพื่อให้ ค่าความฟิต เด้งคืนกลับมา ไม่สามารถลงแข่งมันทุกรายการแบบมาราธอนติดต่อเนื่องกันตลอดทั้งฤดูกาลได้ เพราะนอกจากจะกระทบผลงานในสนามแล้ว ยังเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บที่อาจทำเราหมดสิทธิ์ลงแข่งจนอันดับร่วงยาวกู่ไม่กลับได้ แต่ถ้าหากใครบริหารดีๆ ชนะบ่อยๆ เลเวลตัวละครก็จะยิ่งขยับเพิ่มสูง ได้แต้มไปอัปเกรดสกิล รวมถึงเงินรางวัลไปเลือกซื้อปลดล็อคเสื้อผ้า ไม้แร็คเก็ต รองเท้าใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มค่าพลังให้ตัวเราแกร่งสูสีพอจะไปฟัดกับคู่แข่งในอันดับที่สูงขึ้น นั่นเอง

นอกจากนี้ ตัวเกมยังมีโหมดกระชับมิตร Exhibition เอาไว้ฝึกปรือฝีมือกับ AI หรือชวนเพื่อนมาแข่งกันแก้ขัด ในระหว่างรอโหมดออนไลน์ ที่เป็นสีเทายังไม่พร้อมให้บริการ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะประวิงเวลาไปได้สักเท่าไหร่ เมื่อต้องมาเจอกับสไตล์การเล่นรูปแบบเดิมๆของคู่แข่งสมองกลที่ดูเหมือน Copy ลอกแบบซ้ำกันมาหมดทุกตัวละคร รวมไปถึงความดื้อด้านของ AI ฝ่ายตรงข้ามที่อึดเกินคน สามารถตีโต้สวนกลับมาได้อย่างแม่นยำตลอด แม้ว่าค่าพลัง Stamina ของมันจะพร่องหมดปรอทไปนานแล้วก็ตาม

เมื่อเทียบกับสองเกมระดับตำนาน Tennis World Tour นั้น เปรียบเสมือนผลงานเกมกีฬาที่ทำมาแบบลวกๆ อาจเป็นเพราะฝีมือทีมพัฒนาที่ยังไม่ถึงขั้น หรือด้วยความใจร้อนรีบเร่งผลิตเข็นมันออกสู่ตลาด ทั้งๆที่อะไรต่างๆภายในเกมยังแลดูไม่เรียบร้อยสมบูรณ์เพียบพร้อม ซึ่งหากจะว่ากล่าวตามหาคนผิด ก็คงต้องโทษค่าย Sega กับ 2K ที่พวกเขาไม่ยอมเสี่ยงสู้ต่อ จนพวกเราต้องมาอดทนฝืนกลั้นกับเกมเทนนิสแสนสิ้นคิดอย่างเกมๆนี้

เกมการเล่น	5
กราฟิก	5
เสียง	5
ความคิดสร้างสรรค์	6
ภาพรวม	5

ข้อดี : โหมดอาชีพปั้นดินสู่ดาว และเป็นหนึ่งในไม่กี่เกม เทนนิส ที่มีให้เล่นบนคอนโซล
ข้อเสีย : เกมเพลย์-ฟิสิกส์ไม่สมจริง, นักเทนนิสดังๆมีน้อย, รายการแข่งขันไม่ได้ลิขสิทธิ์, กราฟิกล้าหลังไปสองเจเนอเรชัน, สไตล์การตีเหมือนกันหมดทุกตัวละคร และรีบปล่อยขายทั้งๆที่โหมดออนไลน์ยังไม่พร้อม

Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Softzillathailand