ประเภท หูฟัง
ใช้ได้กับ: PC
แม้จะวางตลาดมาได้สักพักหนึ่งแล้ว สำหรับเจ้าหูฟังเกมมิ่ง 7.1 ระดับพระกาฬในราคากลางๆของค่ายชั้นนำจากเยอรมัน แต่ด้วยความประทับใจที่ทำเอาทึ่งในคุณภาพ งานดีไซน์ออกแบบที่ชาญฉลาด รวมถึงความคุ้มค่าน่าใช้ เราจึงอดไม่ไหวที่จะหยิบมานำเสนอ และบอกกล่าวกิตติศัพท์ของมันให้ชาวโลกได้รับรู้กัน
เริ่มแรกเรามาทำความรู้จักกันก่อน สำหรับ "เซนไฮเซอร์" (Sennheiser) ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ดังจากเยอรมัน ที่ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยม ยอมรับ และถูกพูดถึงในวงกว้าง ด้วยมาตรฐานหูฟังที่พวกเขาคิดค้นพัฒนา และพยายามรักษาคุณภาพมาโดยตลอดยาวนานร่วมหลายสิบปี จนทำให้ใครๆหลายคนเกิดความเชื่อมั่นศรัทธา ไว้ใจในตัวสินค้าที่พวกเขาผลิตออกมา และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่อธิบายว่า ทำไมคลิปจัดอันดับสุดยอดหูฟังในทุกๆปี มันต้องมีชื่อ Sennheiser แฝงติดโผรวมอยู่ด้วยทุกครั้งไป
ซึ่งเจ้า Sennheiser GSP 350 ที่เราหยิบนำมาแนะนำ มันก็เป็นหูฟังรุ่นใหม่ระดับกลางของทางค่าย เซนไฮเซอร์ ซึ่งเหตุผลที่ต้องใช้คำว่าระดับกลาง นั่นเป็นเพราะว่ามันยังมีตัวท็อปที่คุณภาพเจ๋งกว่านี้ แต่ราคาก็สูงลิ่วไกลเกินใจจะไขว่คว้าเช่นเดียวกัน โดยราคาของหูฟังตัวนี้จะอยู่ใกล้เอื้อมแค่หลักพันเท่านั้น ซึ่งจากตัวเลขที่เขียนกำกับเอาไว้ ก็เป็นการบ่งบอกไปในตัวแล้วว่า มันเป็นรุ่นที่ถูกอัปเกรดพัฒนาต่อยอดมาจากหูฟังรุ่น GSP 300 และถึงแม้ดีไซน์ภายนอกจะดูละม้ายคล้ายคลึง ต่างกันเพียงแค่สีสันที่เปลี่ยนจากดำ-น้ำเงิน มาเป็นดำ-แดง แต่หากพูดถึงประสิทธิภาพภายในแล้ว บอกได้เลยว่าห่างคนละชั้นอย่างสิ้นเชิง
จุดเด่นเรื่องแรกที่ต้องเน้นย้ำไฮไลท์ตัวโตๆ นั่นคือเรื่องคุณภาพของเสียง จากเดิมรุ่นก่อนหน้า GSP 300 ที่เป็นระบบสเตอริโอซ้ายขวา มาคราวนี้ในรุ่น GSP 350 มันได้ถูกยกระดับอัปเกรดขึ้นเป็นระบบเสียงแบบรอบทิศทาง Dolby 7.1 Surround ซึ่งแน่นอนว่าสายเชื่อมต่อส่งสัญญาณเสียงก็ต้องถูกเปลี่ยนใหม่ด้วย โดยภายในกล่องแพคเกจจะบรรจุทั้งสาย DAC adaptor และสาย Connector เสียบเชื่อมต่อเข้าคอมฯแบบ USB มาให้ จึงไม่ต้องกังวลว่าคอมพิวเตอร์ หรือแลปท็อปของเรา จะไม่มีพอร์ตรองรับเสียง 7.1 โดยเวลาใช้งานเราต้องนำทั้งสองสายมาเสียบต่อกัน ดังนั้นความยาวสุดท้ายของสายจึงค่อนข้างเหลือเฟือเกือบๆ 3 เมตร ไม่ว่าพีซีของเราจะตั้งอยู่ซอกหลืบมุมใดของโต๊ะ ก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายหายห่วง
ลักษณะของ GSP 350 มันเป็นหูฟังประเภทคาดศีรษะครอบทั้งใบหูแบบมีสาย โครงบอดี้ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุพลาสติกน้ำหนักเบาที่มีความยืดหยุ่นแข็งแรงทนทาน ภายในบุด้วยวัสดุโฟมอันแสนนิ่ม ให้ความรู้สึกนุ่มสบายยามสวมใส่ หนำซ้ำยังระบายอากาศได้ดี ซึ่งก็ตรงตามคอนเซปต์ประจำซีรีส์ GSP ที่มุ่งเน้นดีไซน์เพื่อการใช้งานเป็นหลัก ฉะนั้นแล้วจึงมั่นใจได้เลยว่า จะไม่มีความรู้สึกถูกกดทับบีบรัด หรือร้อนอบอ้าวเหงื่อท่วมหัวเหมือนลูกวัวเพิ่งคลอด หลังจากใช้งานไปนานๆ อย่างแน่นอน
สำหรับใครที่มีขนาดศีรษะค่อนข้างโต ตรงบริเวณก้านหูฟัง เราสามารถดึงเลื่อนขึ้นเลื่อนลงเพื่อปรับระดับได้ตามต้องการ ในส่วนความดังของเสียงที่ออกจากลำโพงนั้น เราก็สามารถปรับเพิ่ม-ลดได้เช่นกัน ซึ่งปุ่มหมุนปรับระดับเสียงจะอยู่ตรงบริเวณหูฟังฝั่งขวา หากหมุนตามเข็มนาฬิกาก็จะเป็นการเพิ่มเสียง และในทางกลับหากหมุนทวนเข็มก็จะเป็นการเบาเสียงลง นั่นเอง ขณะเดียวกัน หูฟังฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งของแท่งไมโครโฟน โดยตัวไมค์นี้จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน Noise Cancelling ที่ทำให้เสียงพูดที่ออกมาฟังชัดใสกิ๊ง ร่วมด้วยนวัตกรรมการออกแบบระบบปิด-เปิดไมค์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ หากพับก้านไมค์ต่ำลงมาใกล้ปากก็จะเป็นการเปิดใช้งาน และหลังใช้เสร็จพอเลื่อนก้านไมค์พับกลับขึ้นไปด้านบน ก็จะปิดการทำงานของไมค์โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอะไรที่เจ๋ง และสะดวกดีทีเดียว
ในการเปิดใช้ระบบเสียงรอบทิศทาง 7.1 อันดับแรกผู้ใช้งานจำเป็นต้องไปดาวน์โหลดตัวโปรแกรม Surround Dongle Software จากหน้าเว็บไซต์หลักของ Sennheiser มาติดตั้งไว้ภายในเครื่องเสียก่อน โดยมันจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ให้เราเลือกปรับแต่งเสียงที่ออกมาได้อย่างง่ายดายด้วยการจิ้มลงไปเพียงแค่คลิกเดียว ระหว่าง 4 โหมดที่มีให้เลือก ได้แก่ Music โหมดเอาใจคนที่ชอบฟังเสียงเพลง มีการเน้นคำร้องให้โดดเด่นจากท่วงทำนอง รวมถึงแยกเสียงเครื่องดนตรีทุกชิ้นออกมาให้ได้ยินกันแบบชัดๆ, Esport โหมดพิเศษที่แยกเสียงเกมกับเสียงไมค์ออกจากกัน เหมาะสำหรับเหล่านักกีฬา และนักแคสเกมทั้งหลาย, Game โหมดเอาใจสายเกมเมอร์ที่อยากซึมซับอรรถรสของเกมแบบเต็มสูบ ไม่ว่าเกมที่เล่นจะเป็นแนวสงครามยิงระเบิดตูมตาม หรือแนวสยองบรรยากาศชวนหลอน ก็ล้วนชวนอินพาเราดำดิ่งเต็มอิ่มไปกับมัน ส่วนตัวเลือกสุดท้าย Off จะเป็นการปิดฟีเจอร์ตัวช่วยทุกอย่าง เพื่อรับฟังเสียงแบบต้นฉบับดั้งเดิม ซึ่งหากใครมีไฟล์หนังระบบเสียงดีๆ จะเปิดโหมดนี้รับชมภาพยนตร์ก็ดูเข้าท่าเหมือนกัน
แม้ข้างกล่องจะมีการเขียนตัวหนาระบุกำกับเอาไว้ชัดเจนว่า หูฟัง Sennheiser GSP 350 ของพวกเขารองรับระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ และถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับพีซีเป็นหลัก ถึงกระนั้นทางผู้ผลิตก็ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสตัดขาดอุปกรณ์อื่นๆซะทีเดียว ด้วยสายเชื่อมต่อที่ถูกดีไซน์มาให้สามารถถอดออกจากตัวหูฟังได้ ซึ่งเราสามารถไปหาซื้อสายหัวต่อแบบ 3.5 มิลลิเมตร มาเปลี่ยนเสียบแทน เพื่อเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับจอยดูอัลช็อคโฟร์ แล้วใช้งานกับคอนโซล เพลย์สเตชัน 4 หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์มือถือที่มีช่องเสียบ 3.5 มม.ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรพึงระลึกไว้เสมอว่า เสียงที่ออกมาจะเป็นแค่เสียงอนาล็อกธรรมดาในระดับที่พอฟังแก้ขัดถูๆไถๆ มิได้กระหึ่มทรงพลังแบบ 7.1 เหมือนยามที่เชื่อมต่อกับพีซี
จากการค้นคว้า ทดลอง และออกแบบมาเป็นอย่างดี เพื่อให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากที่สุด จึงส่งผลให้ Sennheiser GSP 350 เป็นหูฟังเกมมิ่งตัวเลือกอันดับท็อปที่ทางเราอยากแนะนำ ฉะนั้น หากคอเกมพีซีคนไหน กำลังอยากได้หูฟังเอาไว้เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลงดีๆ ที่ให้เสียงระดับคุณภาพ สวมใส่สบาย รวมถึงมีราคาเบาๆแล้วละก็ คงไม่จำเป็นต้องไปมองหาจากที่อื่นใด
ราคาจำหน่าย 4,515 บาท
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
