แนว กีฬา
ระบบ PS4
เรตเกม PEGI: 3 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป
กลับมาเอาใจนักหวดสายมุ้งมิ้งอีกครั้ง กับภาคใหม่ในตำนานเกมตีลูกลงหลุมคู่บุญเครื่องเล่นเพลย์สเตชัน ที่เป็นต้นตำรับเกมกอล์ฟแคชชวลสุดหรรษาทั้งหลายทั้งมวล
นับเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย เมื่อครั้งมีเครื่องเพลย์สเตชันรุ่นใหม่วางตลาด ย่อมต้องมีเกมภาคใหม่ในแฟรนไชส์ "Everybody's Golf" (บางคนอาจเรียก "Minna no Golf" หรือ "Hot Shots Golf") ออกตามติดมาด้วยเสมอ จวบจนกระทั่งถึงยุค PS4 ทางโซนี่ ก็ยังคงรักษาสัญญาดังเดิมไว้เหมือนอย่างเคย ไม่ปล่อยให้เหล่าแฟนๆนักหวดต้องผิดหวังรอเก้อ
ซึ่งเกม "Everybody's Golf" ในภาคใหม่ล่าสุดนี้ ยังคงรักษาภาพลักษณ์คอนเซปต์ของเกมกีฬาตีกอล์ฟอันเหมาะกับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าใครต่อให้คนไม่มีความรู้เรื่องกฏกติกา หรือไม่เคยดูกีฬากอล์ฟมาก่อน ก็สามารถหยิบจับเกมนี้ขึ้นมาเล่นได้ทันที แถมสู้แข่งกับนักเล่นมือโปรฯได้อย่างสนุกสูสี หากให้กล่าวอธิบายเป็นประโยคสั้นๆเพื่อบ่งบอกถึงระดับความง่ายดายของมัน ก็คงต้องบอกว่า ขนาดเกมกอล์ฟออนไลน์แฟนตาซีสุดฮิต ฝีมือไม่ต้อง เน้นของล้วนๆ อย่าง "ปังย่า" ยังต้องหยิบยืมขอลอกระบบการเล่นมาจากเกมนี้
เรื่องประทับใจอันดับแรก คงต้องยกนิ้วให้กับ "ภาพกราฟิก" ฉากหลังสภาพแวดล้อม ผิวน้ำ แสงแดด และพื้นสนามหญ้า ที่ทำออกมาได้สวยงามสมกับประสิทธิภาพของเครื่อง PS4 ในขณะที่โมเดลตัวละคร "นักกอล์ฟ" ภายในเกมนั้นยังคงออกแนวการ์ตูน 3D น่ารักสดใสตามสไตล์อันเป็นจุดขายของซีรีส์ และเช่นเคยเหมือนภาคก่อนๆ ผู้เล่นจะได้สร้างสรรค์ตัวละครอวตาร์ ขึ้นมาใช้แทนตัวเอง ซึ่งต้องบอกว่าเครื่องไม้เครื่องมือปรับแต่งตัวละครที่เกมนี้มอบมาให้ ค่อนข้างลงลึกในดีเทลรายละเอียด และมีรูปแบบมาให้เลือกมากมายหลากหลาย ตั้งแต่โครงหน้า สีผิว ดวงตา สัดส่วน ยันทรงผม เรียกว่าดีไซน์ได้ตามจินตนาการใจนึกฝัน อยากเลียนแบบดาราไอดอลคนดัง, ตัวละครเกมที่เราชื่นชอบ หรือจะออกแนวหลุดโลกไปเลยก็ยังได้
สำหรับสิ่งแปลกใหม่ที่ถือเป็นไฮไลท์หลักสำคัญจริงๆของตัวเกมเวอร์ชัน PS4 นี้ จะอยู่ตรงที่องค์ประกอบ "โอเพ่นเวิลด์" ที่ปล่อยอิสระให้ผู้เล่นได้เดิน-วิ่งท่องสำรวจทุกอาณาบริเวณสัดส่วนของสนามกอล์ฟอย่างเสรี ซึ่งถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆให้กว้างขึ้น ไม่ถูกจำกัดอยู่แค่เฉพาะบนกรีน-แฟร์เวย์พื้นหญ้าสีเขียวๆอีกต่อไป โดยเราสามารถทอดน่องบนทางเดินเท้า, สำรวจลานจอดรถ, ขึ้นสแตนด์ที่นั่งอัฒจันทร์คนดู, เยี่ยมชมบ้านพักคลับสโมสร, โดดลงไปแหวกว่ายในแอ่งน้ำ, นั่งรถกอล์ฟกินลมชมวิว หรือหากขับไปเจอหลุมที่ถูกใจ ก็สามารถหยุดจอดแวะเวียนลงไปหวดวงสวิงกันตามอัธยาศัย เรียกว่าได้อรรถรสเต็มอิ่มครบครันเหมือนเวลาเราไปออกรอบในชีวิตจริงกันเลยทีเดียว
แต่ก่อนที่เราจะมีอิสระลั้ลลาได้แบบนั้น ในช่วงแรกๆผู้เล่นจำเป็นต้องผ่านการเทรนฝึกสอน และด่านบททดสอบต่างๆเสียก่อน โดยเริ่มต้นตัวเกมจะนำพาเรามายัง "Golf Island" เกาะสรวงสวรรค์ของเหล่าบรรดานักกอล์ฟ อันเปรียบเสมือนฮับจุดศูนย์กลางที่รวบรวมเนื้อหาคอนเทนต์ต่างๆในเกมมาให้เราได้เลือก แทนที่จะเข้าเลือกผ่านหน้าจอเมนูแบบเดิมๆ ซึ่งตามพล็อตเรื่อง เราจะเป็นนักกอล์ฟหน้าใหม่โนเนมไม่มีใครรู้จัก ที่ต้องสร้างชื่อเสียงทำผลงานในแต่ละสนามให้โดดเด่นจนมีแฟนคลับคอยตามเชียร์ และเมื่ออันดับแรงค์ของเราไต่ขึ้นมาถึงจุดๆหนึ่ง ก็จะมีนักกอล์ฟ NPC เจ้าถิ่น มาขอท้าประลองดวลฝีมือด้วย หากชนะตัวละครบอสเหล่านี้ก็จะได้อุปกรณ์ไม้กอล์ฟ และชุดคอสตูมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายใหม่ๆมาสวมใส่ รวมไปถึงค่าพลังทักษะด้านต่างๆของตัวละครที่ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นจากการลงแข่งบ่อยๆ นั่นเอง
อย่างที่บอก การตีลูกให้ลงหลุมในเกมนี้ มันช่างแสนง่ายดายนัก ปุ่มหลักๆที่ใช้ในการตีก็มีแค่วงกลมปุ่มเดียว และหากใครไม่รู้จัก หัวไม้กอล์ฟ แต่ละชนิดแต่ละแบบว่ามันใช้งานยังไง ก็ไม่ต้องห่วงเป็นกังวลไป เพราะตัวเกมสอดแทรกระบบตัวช่วยเลือกหัวไม้อัตโนมัติมาให้แล้ว พร้อมกับบ่งบอกระยะตำแหน่งจุดตกของลูกไว้ให้เสร็จสรรพ ผู้เล่นเพียงแค่เงยหน้ามองหาหลุมแล้วก้มตีลูก ก็สามารถเก็บ Birdie ทุกหลุมได้แบบสบายๆ อย่างไรก็ดี การเล่นแบบ "เพลย์เซฟ" ทำตามทุกอย่างที่ตัวเกมกำหนดชี้แนะมาให้นั้น ค่อนข้างอันตรายเวลาไปแข่งเจอกับผู้เล่นระดับแอดวานซ์ ที่มีการใส่สปินให้กับลูก หรือกดปุ่มสี่เหลี่ยมเปลี่ยนสลับไปใช้โหมด "พาวเวอร์" ยินยอมรับความเสี่ยงที่ตามมาเพื่อแลกกับระยะหวดที่ไกลขึ้น ซึ่งถ้าบังเอิญเขาเกิดเซียนกดได้เพอร์เฟกต์ไม่มีพลาด ความกดดัน ทั้งหมดก็จะมาตกอยู่ที่ฝ่ายเรา ผู้เอาแต่กลัวหดหัวอยู่ในกรอบ
หลังนั่งเล่นตามเนื้อเรื่องฝึกฝนฟูมฟักทักษะกับคอมฯ AI จนฝีมือพอตัวในระดับหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่เราต้องสยายปีกตบเท้าก้าวเข้าสู่โหมดออนไลน์เพื่ออวดสกิลให้โลกเห็นกันบ้าง โดยประตูทางผ่านเข้าสู่โหมดออนไลน์จะอยู่ตรงบริเวณใกล้ๆกับโต๊ะลงทะเบียนเข้าเล่นแคมเปญปกติ ไม่ต้องเหนื่อยเดินหาให้ยุ่งยาก และเมื่อเราเดินไปถึงจุดทางเข้าดังกล่าวจะปรากฏตัวเลือกขึ้นมา 2 แบบ คือ Online Open Course กับ Turf War ซึ่งแบบแรกนั้นจะพาเราเข้าสู่สนามกอล์ฟ MMO อันเป็นแหล่งชุมนุมรวมตัวสังสรรค์ของเหล่านักหวดจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งที่นั่นเราจะได้พบปะปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นคนอื่นๆ โชว์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และไต่อันดับสกอร์บอร์ดอวดแต้มที่ตนทำได้สูงสุดในแต่ละหลุม ส่วนโหมดออนไลน์แบบที่สองนั้น จะเป็นแมตช์การแข่งขันที่ดูจริงจังขึ้นมาอีกหน่อย โดยมันจะแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองทีมสู้กันเอง แต่บรรดานักหวดมือใหม่ทั้งหลายก็ไม่ต้องเป็นห่วงกังวลไป เพราะตัวเกมจะให้ต่างคนต่างแยกย้ายไปตีในหลุมที่ตนถนัดแล้วค่อยมารวมสกอร์รวดเดียวในตอนท้าย ไม่ต้องเสียเวลานั่งรอกัน หรือสร้างบรรยากาศแรงกดดันให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกอึดอัดใจ
หากตัดปัญหาเรื่องอาการเหนื่อยเมื่อยล้า อันเกิดจากการเวียนวนแข่งทัวร์นาเมนท์เดิมๆเพื่อปลุกปั้นตัวละครของเราให้เก่งออกไป การกลับมาของซีรีส์ "Everybody's Golf" บน PS4 ในครั้งนี้ ก็ถือว่าทำผลงานออกมาได้ดีน่าประทับใจ และมีอะไรให้เรากล่าวขวัญถึงอยู่เยอะพอสมควร ทั้งในเรื่องภาพกราฟิกที่พัฒนาเติบโตขึ้น, องค์ประกอบโอเพ่นเวิลด์ ที่ถูกนำเสนอใส่เข้ามาเป็นครั้งแรก, เกมเพลย์ที่เน้นอวดเสื้อผ้าแฟชั่นหน้าผม มากกว่าผลการแข่งขัน และยิ่งเสริมระบบแบบเกม MMO เข้าไปด้วยแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจ หากใครที่เกิดทันตำนานเกมกอล์ฟออนไลน์สุดโด่งดังเมื่อ 10 ปีก่อน จะรู้สึกราวกับว่าได้หวนกลับคืนสู่ถิ่นเก่าที่ตนคุ้นเคย
เกมการเล่น | 8 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 8 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 9 |
ภาพรวม | 8.5 |
ข้อดี : สนุกง่ายเล่นได้ทุกคน, กราฟิกที่ถูกยกระดับ, สร้างตัวละครได้หลากหลาย, ความน่ารักสดใสที่มีอยู่เปี่ยมล้น, องค์ประกอบโอเพ่นเวิลด์ และรูปแบบ MMO ที่ชวนให้นึกถึงเกมดังในอดีต
ข้อเสีย : น่าเบื่อหากนั่งเล่นคนเดียว กับปัญหาแลคในโหมดออนไลน์
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES)
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*