แนว แอ็คชั่นผจญภัย
ระบบ PS4
เรตเกม PEGI: 16 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
ตัวเกมภาคเสริมส่วนขยายเรื่องราว อันถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของแฟรนไชส์ กับการหายหน้าหายตาไปของพ่อหนุ่มดวงแข็ง "นาธาน เดรค" ที่ชวนให้แฟนๆหลายคนฉุกคิดสงสัยว่า "อันชาร์ตเต็ด" ในยุคใหม่จะเป็นเช่นไร เมื่อไม่มีเขา
อันดับแรกต้องบอกก่อนเลยว่า "Uncharted The Lost Legacy" ที่เรานำมารีวิวนี้ มันไม่ใช่ตัวเกมภาคใหม่ แต่เป็นเพียงแค่ภาคเสริมต่อจากภาคหลัก "Uncharted 4: A Thief's End" ที่เคยออกมาเมื่อปีกลาย โดยเป็นช่วงเวลาไทม์ไลน์หลังเหตุการณ์ในเกมภาคสี่ เมื่อสองสาวตัวละครประกอบอย่าง "โคลอี้ เฟรเซอร์" และ "นาดีน รอสส์" ต้องก้าวขึ้นมารับบทเด่นแสดงนำแบบเต็มตัว กับภารกิจแกะรอยตำนานขุมทรัพย์ในประเทศอินเดีย
เนื้อหาของเกมภาคนี้ จะบอกเล่ากล่าวถึงการผจญภัยออกตามล่าหาขุมทรัพย์โบราณ ณ ดินแดนภารตะ โดยมีการผูกปมโยงใยไปถึงตำนานเทพเจ้าที่ชาวอิสลามให้การเคารพนับถืออย่าง ตำนานพระศิวะ และตำนานสงครามพุ่งรบของพระพิฆเนศ เทพคชสารผู้สูญเสีย "งา" (Tusk) ข้างขวาไปในระหว่างการต่อสู้ อันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สองสาวใจแกร่งของเราต้องเดินทางออกตามหา และด้วยเหตุนั้น หากใครนับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อยู่แล้ว หรือเคยท่องเน็ตเปิดศึกษาหาอ่านตำนานทวยเทพของชาวชมพูทวีปมาก่อน คงได้อรรถรสเต็มอิ่มอินไปกับการผจญภัยครั้งใหม่นี้
ด้วยความที่มันเป็นเพียงแค่ภาคเสริม ระบบการเล่น และองค์ประกอบต่างๆภายในเกม จึงไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่มากนัก เพราะทุกสิ่งอย่างล้วนต่างผ่านตาผ่านมือพวกเรา ที่เคยเล่นภาคหลักกันมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอ็คชั่นการปีนป่าย, ลูกเล่นใหม่อย่างตะขอเกี่ยวโหนเชือกพาตัวข้ามหุบผา, การมาร์คตำแหน่งล็อคเป้าหมายศัตรู, การก้มหลบซ่อนตัวในพุ่มไม้แอบย่องเข้าหาเหยื่อ, AI ศัตรูที่ฉลาดมีการสื่อสารประสานงานกันอยู่ตลอด ไปจนถึงองค์ประกอบ โอเพ่นเวิลด์ขนาดย่อม ที่ยังคงมีสิ่งต่างๆให้ผู้เล่นได้สำรวจนอกเหนือภารกิจหลัก อยู่เหมือนเดิม ฉะนั้นแล้ว มันจึงไม่เหลืออะไรให้ผู้เล่นหน้าเก่าอย่างเราๆรู้สึกตื่นเต้นจนต้องร้อง "ว้าว" แม้ว่าฉากเปิดตัวช่วงแรกของ The Lost Legacy จะทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจมากก็ตาม
สำหรับองค์ประกอบ "โอเพ่นเวิลด์" ในเกมภาคเสริมนี้ ที่เราได้เกริ่นเอ่ยถึงไปเมื่อครู่ อารมณ์มันก็จะคล้ายๆกับฉากนั่งหลังพวงมาลัยขับรถจี๊ปกินลมชมวิวทิวทัศน์เกาะมาดากัสการ์ในเกมภาคหลัก เพียงแต่คราวนี้สภาพแวดล้อม จะแตกต่างออกไปสักหน่อย จากที่เคยขับรถลุยโคลนคลุกฝุ่นทะเลทราย กลายมาเป็นขับรถบุกตะลุยผ่านป่าฝนดงดิบเขตร้อน มองไปทางไหนก็เจอแต่พืชพันธุ์ขึ้นเขียวชะอุ่มอุดมสมบูรณ์ แต่ก็เหมือนกับตัวเกมภาคหลัก องค์ประกอบโอเพ่นเวิลด์ ที่ทีมงานบรรจุแถมใส่มาให้ มันเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวส่วนหนึ่งเท่านั้น มิใช่สิ่งที่เราต้องพบเจอตลอดทั้งเกม
ทางด้านตัวละครสองสาวคู่หูดูโอหน้าใหม่ ผู้มารับบทนำแทน "นาธาน เดรค" ดูเหมือนว่าภาคนี้ พวกเธอทั้งสองจะมีพัฒนาการเติบโตขึ้นมากจากเดิม เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปจนแฟนๆจำเค้าเดิมแทบไม่ได้ โดยเฉพาะสาวมาดเข้มตาคม "โคลอี้" ที่เมื่อก่อนเคยนิยมใช้เรือนร่างเข้าแลกเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ มาคราวนี้กลับสลัดทิ้งคราบชะนีฉกของจอมมารยา กลายเป็นนักล่าสมบัติยอดคนสมองเพชรระดับ "แม็คไกเวอร์" ไขปริศนายากๆได้หมดทุกรูปแบบ ราวกับว่าเธอได้รับการปลูกถ่ายสมองมาจากอดีตกิ๊กเก่าที่โบกมือลาวงการ ส่วนทางฝั่ง "นาดีน" นั้น ก็พอเข้าใจได้อยู่ว่า ศัตรูที่แปรพักตร์หันมาเข้าร่วมเป็นพวกเรา ความดุดันก้าวร้าวที่เคยมีก็ต้องลดน้อยจางหายลงไป แต่ก็ไม่คิดว่านักรบหญิงแกร่งใจห้าวญาติห่างๆ "เซเรน่า วิลเลี่ยมส์" จะเชื่อฟังว่านอนสอนง่ายอะไรเยี่ยงนี้ บอกอะไรก็ทำ พาไปไหนก็ไป ดูแล้วหนักไปทาง เมีย มากกว่า มิตร ซึ่งค่อนข้างทำเอาผิดคาดพอสมควร เพราะเคยวาดฝันหวังเอาไว้สูงตั้งแต่ตอนที่เกมถูกประกาศเปิดตัวใหม่ๆว่า เราคงได้เห็นมุมมองแปลกๆฉีกออกไปในการตามล่าหาขุมทรัพย์ ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การหยิบนำเอาสกินตัวละครอื่นมาสวมทับใส่ลงไปให้กับคู่พระนาง "นาธาน" และ "เอเลน่า"
ในส่วนเนื้อหาความยาวของเกม "Uncharted The Lost Legacy" หากนับดูจากจำนวน Chapter ที่ถูกหั่นบั่นทอนลดลงจากภาคหลักไปกว่าครึ่ง คงทำให้หลายคนคิดเอาเองว่าตัวเกมคงสั้นเล่นแปบเดียวจบ แต่หากใครได้ลองสัมผัสกับมันจริงๆ จะรู้ดีว่าตัวเกมมันไม่สั้นเลย เพราะกว่าจะพาตัวละครผ่านพ้นสิ้นสุดไปทีละ Chapter นั้น มันค่อนข้างเหนื่อย และใช้เวลาพอสมควร หากเทียบกับเกมอื่นแล้วก็คงเหมือนการนั่งเล่นเนื้อเรื่องผ่านไปบทหนึ่งเต็มๆ ซึ่งการผจญภัยของสองสาวที่กินเวลาร่วมๆเกือบ 10 ชั่วโมงนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่เล่นได้นานกว่าเนื้อหาเสริม Left Behind ของเกม The Last of Us อยู่มากโขเลยทีเดียว
อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์หมัดเด็ดของแผ่นเกมภาคเสริมที่ถูกจับวางขายแยกเดี่ยวแบบสแตนด์อโลนนี้ นั่นคือการที่ทีมผู้พัฒนาใจดีบรรจุแถมโหมดออนไลน์มัลติเพลย์เยอร์ของภาคสี่ มาให้ได้เล่นหลังเคลียร์จบโหมดแคมเปญกันด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้ตัวเกมดูคุ้มค่าน่าซื้อหา และไม่เป็นการแบ่งแยกคอมมิวนิตี้ผู้เล่นออกเป็นสองกลุ่ม เพราะผู้เล่นทั้งสองภาคสามารถจอยห้องเล่นร่วมกันได้ไม่มีปัญหา โดยขนมาครบทั้งโหมดการเล่นเก่าๆจากเกมภาคหลัก รวมถึงโหมดใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง Survival Arena โหมด Co-op จัดทีมปาร์ตี้ 3 คน ช่วยกันฝ่าฟันกองทัพศัตรู AI ที่บุกมาเป็นระลอก แต่อย่างไรก็ดี ด้วยการที่ตัวเกมทั้งสองภาคแชร์โหมดออนไลน์ร่วมกัน ระบบสมดุลปืนที่หลายคนบ่นกันจึงยังคงอยู่ไม่หายไปไหน เช่น สไนเล็งยิงเข้ากลางอกแล้วศัตรูไหวตัวกลิ้งหลบหนีหาย หรือลูกซองที่ซัดจ่อกลางหลังแล้วต้องตามซ้ำด้วยหมัดถึงเอาอยู่
กล่าวสรุปโดยรวม "Uncharted The Lost Legacy" มันก็ยังเป็นเกมอันชาร์ตเต็ด ที่ยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพ และเป็นหลักฐานชิ้นดีที่แสดงให้เราเห็นว่า เสน่ห์จุดขายของแฟรนไชส์ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เพียงตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง หากแต่อยู่ที่การวางพล็อตเรื่องราว การปูประวัติพื้นเพตัวละคร รวมถึงการใส่ใจในรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ที่ทำให้มันกลายเป็นประสบการณ์อันไม่เหมือนใคร ถึงแม้ตัวเกมภาคเสริมนี้จะดูเหมือนเป็นการผจญภัยของ นาธาน สวมบรา กับ เอเลน่า ผิวหมึก เสียมากกว่า แต่อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้แฟนๆโล่งใจหายห่วงไปได้หนึ่งเปราะ ที่รู้ว่าซีรีส์ที่ตนรักยังคงดำเนินต่อไปได้ ต่อให้เพศ รูปลักษณ์สัดส่วน หรือใบหน้าของตัวละครที่เราบังคับ จะแปรเปลี่ยนไปยังไงก็ตาม
เกมการเล่น | 9 |
กราฟิก | 10 |
เสียง | 10 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 8 |
ภาพรวม | 9 |
ข้อดี : ฉากวิวทิวทัศน์สวยงามตระการตา, เรื่องราวอันแสนเข้มข้น, แม็พโอเพ่นเวิลด์มีอะไรให้ทำมากกว่าเดิม, เนื้อหาค่อนข้างยาวกว่าเกมภาคเสริมด้วยกัน และสามารถเล่นออนไลน์ร่วมกับผู้เล่นภาค 4 ได้
ข้อเสีย : ตัวละครสดใหม่แค่เปลือกนอก กับสมดุลปืนโหมดออนไลน์ที่ยังแย่เหมือนเคย
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES)
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*