"ฟิล สเปนเซอร์" นายใหญ่เอ็กบ็อกซ์ ออกโรงชี้แจงอธิบายสาเหตุหลัก ที่ว่าทำไมทางบริษัทถึงลังเลสองจิตสองใจในเทคโนโลยีเสมือนจริง ยังไม่คิดนำมาใช้กับเครื่องคอนโซล
เมื่องาน E3 2017 ที่ผ่านมา ทาง "ฟิล สเปนเซอร์" (Phil Spencer) หัวหน้าแผนกเอ็กบ็อกซ์ ได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์กับสื่อ แสดงความคิดเห็นของตนต่อเทคโนโลยีวีอาร์ ที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบัน ซึ่งถึงแม้ว่าจะปล่อยให้ค่ายคู่แข่งอย่างโซนี่ ชิงล่วงหน้าไปก่อน แต่นายใหญ่ไมโครซอฟต์ มองว่าเทคโนโลยีดังกล่าวมันยังมีปัญหาข้อจำกัดบางประการ ที่ต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขก่อนที่จะนำเสนอส่งถึงมือผู้เล่น
"หากว่ากันในระยะยาว ผมเป็นคนหนึ่งที่เชื่อมั่นศรัทธาในเทคโนโลยีเหล่านี้ เพราะผมว่ามันให้ความรู้สึกเหมือนจริง เพียงแต่ตอนนี้เรายังคงตามหลังห่างอยู่หลายปีกับการทำให้มันใช้งานได้ผลจริงๆ และผมคิดว่าอุปสรรคใหญ่หลวงของมันคือเรื่องของปัญหาสายไฟ อย่างไรก็ตาม มันก็ถือเป็นเรื่องดีที่เหล่าบรรดาผู้ผลิตหลายรายต่างหันมาให้ความสนใจลงทุนไปกับมัน เพราะหัวใจของอุตสาหกรรมเกมคือการได้ทดลองอะไรใหม่ๆ"
"เราอยากขอจำกัดกรอบประสบการณ์ดังกล่าวให้อยู่แค่บนเครื่องพีซีไปก่อน ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มที่จะทำให้เราได้เห็น และเรียนรู้จากเหล่านักพัฒนาเกม จนกว่าเราจะเข้าถึงศิลปะอันเป็นหัวใจหลักในการสร้างสรรค์ประสบการณ์มิกซ์เรียลลิตี้ แล้วหลังจากนั้นเราจึงค่อยขยับขยายไปสู่แพลตฟอร์มอื่นๆให้มากขึ้น ซึ่งผมเองคิดว่า ณ จุดๆหนึ่งเราจะสามารถขจัด สายไฟ ออกไปได้สำเร็จ"
"ตอนนี้ ผมคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องไปแข่งขันชิงดีชิงเด่นกับใครในเรื่องของวีอาร์ เพราะมันยังคงเป็นช่วงเวลาแห่งการแบ่งปันสิ่งที่เราเรียนรู้ เนื่องจากตลาดเกมวีอาร์ยังอยู่อีกยาวไกลหลายปี และผมเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ถึงแม้ว่าปัจจุบันผู้คนจะกล่าวขานร้องเรียกวีอาร์ วีอาร์ วีอาร์ แต่หากมีคนไปลองแล้วพบเจอกับปัญหาความร้อน เวียนหัว เหงื่อออกชุ่มตัว ก็อาจทำให้พวกเขาเดินถอยหนีได้ ดังนั้นแล้วเราจึงจำเป็นต้องจัดการกับปัญหาเหล่านี้ให้ได้เสียก่อน และไม่พยายามบอกกล่าวหลอกใครต่อใครให้หลงผิดคิดว่ามันถึงยุคทองของวีอาร์ เพราะจะทำให้คุณล้มพังไม่เป็นท่า" สเปนเซอร์ กล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
polygon
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*