ระบบ PS4 / Xbox One / PC
เรตเกม M เหมาะสำหรับอายุ 17 ปีขึ้นไป
*หมายเหตุ ผู้รีวิวทดลองเล่นด้วยแพลตฟอร์ม PlayStation 4
เมื่อเหล่านักรบจาก 3 ชนชาติ ต้องมาห้ำหั่นกันในสงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ก่อให้เกิดการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่เดิมพันด้วยชีวิตและเกียรติยศ "For Honor" เกมไอพีใหม่จาก Ubisoft จะพาเราย้อนกลับไปสู่ยุคกลางที่เต็มไปด้วยการนองเลือด
"For Honor" เป็นเกมแนว Action Hack & Slash ที่เน้นระบบการเล่นแบบมัลติเพลเยอร์ เราจะได้เลือกสวมบทบาทเป็นนักรบจาก 3 เหล่าทัพ ได้แก่ อัศวิน, ไวกิ้ง และซามูไร โดยแต่ละฝ่ายมีตัวละครฮีโร่ฝ่ายละ 4 ตัว รวมทั้งหมด 12 ตัว สามารถแบ่งประเภทออกเป็น 4 คลาส ได้แก่ Vanguard, Heavy, Assassin และ Hybrid ในแต่ละคลาสจะมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ฮีโร่คลาสเดียวกันของแต่ละฝ่ายยังมีรูปแบบการต่อสู้ที่แตกต่างกันด้วย เรียกได้ว่าฮีโร่ทั้ง 12 ตัว มีสไตล์การเล่นที่ไม่ซ้ำกันเลย
ระบบต่อสู้ถือได้ว่าเป็นส่วนที่โดดเด่นมากที่สุดของเกม โดยในช่วงที่ปะทะกับทหารราบสามารถใช้การโจมตีธรรมดาจัดการได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อต้องเจอกับศัตรูระดับฮีโร่หรือผู้เล่นด้วยกัน การดวลดาบสุดหรรษาจึงบังเกิด เราจะต้องกดล็อคเป้าเพื่อตั้งการ์ด และดักทางการโจมตีของอีกฝ่าย โดยแบ่งเป็น 3 ทิศทางคือ ซ้าย ขวา และด้านบน หากป้องกันได้ถูกทางก็จะทำให้ศัตรูเกิดช่องว่างที่เราสามารถโจมตีสวนกลับไปได้
ฟังดูเหมือนยาก แต่ความจริงเล่นง่ายกว่าที่คิด ตัวเกมจะมีสัญลักษณ์เตือนทิศที่ศัตรูกำลังจะโจมตี หรือถ้าเล่นจนชำนาญก็สามารถสังเกตุจากการตั้งท่าของศัตรูได้ อย่างไรก็ตามยังมีการโจมตีอีกหลกหลายแบบที่สามารถทำลายการ์ดหรือทำให้เกิดสถานะผิดปกติต่างๆ เช่น ผลักให้กระเด็น, ทำให้ล้ม, มึนงง, เลือดไหล ฯลฯ ซึ่งคอมโบในการกดจะแตกต่างกันไปในฮีโร่แต่ละตัว อาจต้องใช้เวลาในการฝึกฝนกว่าจะชำนาญ แต่เมื่อเล่นเป็นแล้วเราจะได้พบกับความบันเทิงที่เทียบเคียงเกม Fighting ชั้นดีเลยทีเดียว
โหมดการเล่นสามารถแบ่งได้เป็น 2 โหมดใหญ่ คือ Story Mode และ Multiplayer โดยใน Story Mode จะกล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนที่ทั้ง 3 ฝ่ายจะเริ่มจับดาบทำสงครามกันใหญ่โตในโหมด Multiplayer เนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 ตอน ตามเรื่องราวของแต่ละฝ่าย ความยาวของด่านอยู่ในระดับที่พอเหมาะ ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป มีความลับให้ค้นหาเพื่อปลดล็อคไอเทมตกแต่งฮีโร่ จบด่านได้รับคะแนนสำหรับปลดล็อคสกิลใน Story Mode สามารถปรับความยากได้ 4 ระดับ และเล่น Co-op กับเพื่อนได้ 2 คน การเล่าเรื่องโดยรวมค่อนข้างจืดชืด ไม่น่าติดตตาม เปรียบเสมือนเป็นโหมดฝึกสอนที่มีเนื้อเรื่อง เพื่อสอนให้เรารู้จักสไตล์การต่อสู้ของฮีโร่แต่ละตัว เหมาะสำหรับเตรียมความพร้อมก่อนเข้าไปลุยแบบจริงจังในโหมด Multiplayer
สำหรับโหมด Multiplayer จะเป็นการทำสงครามแย่งชิงพื้นที่ โดยก่อนเริ่มเกมเราจะต้องเลือก 1 ใน 3 ฝ่าย คือ The Legion (อัศวิน), The Warborn (ไวกิ้ง) และ The Chosen (ซามูไร) ทั้งนี้ฝ่ายที่เลือกจะไม่มีผลต่อการเลือกฮีโร่ เราสามารถเลือกเล่นฮีโร่ได้ทุกตัว และสามารถเปลี่ยนฝ่ายได้ตลอดเวลา (แต่ผลงานที่ทำไว้จะหายไป) เมื่อเราเล่นจบในแต่ละแมตช์จะสามารถใช้คำสั่ง Deploy War Assets เพื่อส่งกำลังรบไปยังพื้นที่ต่างๆ เมื่อครบตามเวลาที่กำหนด ระบบจะตัดสินว่าฝ่ายใดจะได้ครอบครองพื้นที่นั้น และเมื่อจบรอบในแต่ละซีซั่นเราจะได้รับรางวัลตามผลงานที่ทำได้
ภายในโหมด Multiplayer แบ่งออกเป็น 5 โหมดย่อย ได้แก่ 1.Dominion แบ่งทีม 4v4 แข่งกันยึดพื้นที่ 3 จุด ทีมที่ได้ 1,000 คะแนนก่อนจะได้สิทธิ์จบเกมโดยการสังหารฝ่ายตรงข้ามให้หมด ถือเป็นโหมดชูโรงของเกม 2.Skirmish คล้ายกับโหมด Dominion แต่จะไม่มีการยึดพื้นที่ เน้นการสังหารศัตรูเพื่อเก็บคะแนนเป็นหลัก 3.Elimination แบ่งทีม 4v4 แข่งเป็นรอบแบบไม่มีการเกิดใหม่ ชนะเมื่อสังหารศัตรูได้ทั้งหมด ทีมที่ชนะ 3 ใน 5 รอบก่อนถือเป็นฝ่ายชนะ 4.Brawl จับคู่ 2v2 กติกาคล้ายกับโหมด Elimination และสุดท้าย 5.Duel ดวลดาบแบบ 1v1 ตัดสินแพ้ชนะจาก 3 ใน 5 รอบ ทุกโหมดสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นแข่งกับผู้เล่นด้วยกันหรือเล่นกับ AI
ต้องบอกว่า Ubisoft ทำการบ้านมาดีมากสำหรับโหมด Multiplayer แผนที่ต่างๆได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีทั้งความสมดุลของเส้นทางการเข้าปะทะและจุดเกิดของไอเทม การใส่ระบบเก็บแต้มเพื่อปลดล็อคการใช้สกิล ทำให้ความสำคัญของการต่อสู้ยังคงอยู่ที่การดวลดาบเป็นหลัก และในกรณีที่โดนรุมก็ยังมีระบบ Revange เพิ่มพลังความสามารถทั้งหมดให้เราพอเอาตัวรอดได้ หรือจะเลือกใช้กลไกและกับดักภายในฉากช่วยพลิกสถานการณ์ก็สามารถทำได้เช่นกัน
น่าเสียดายที่ตัวเกมกลับตกม้าตายตรงที่การเลือกประหยัดงบ โดยใช้ระบบการเชื่อมต่อแบบ Peer to Peer คือการเลือกผู้เล่นคนหนึ่งเป็น Host แทนการใช้ระบบเซิฟเวอร์ ส่งผลให้การเชื่อมต่อไม่เสถียรเท่าที่ควร กรณีที่สัญญาณอินเตอร์เน็ตดีทั้งห้องคงไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีคนใดคนหนึ่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตอ่อน อาจทำให้เกมกระตุก ค้าง หรือหลุดออกจากเกมไปดื้อๆก็มี หากต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ติดกันหลายเกมคงเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดมิใช่น้อย
ในส่วนของการพัฒนาและการปรับแต่งตัวละคร ฮีโร่แต่ละตัวจะเก็บเลเวลแยกกัน เมื่อเก็บเลเวลได้ถึงระดับที่กำหนดจะปลดล็อคสกิลสำหรับใช้ในโหมด Multiplayer และไอเทมตกแต่งแบบต่างๆ สำหรับไอเทมภายในเกมสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ 1.ไอเทมตกแต่ง ใส่เพื่อความสวยงาม ไม่มีผลต่อค่าความสเตตัส ได้รับจากการเคลียร์เงื่อนไขตามที่กำหนดหรือจ่ายเงินซื้อ 2.ไอเทมสวมใส่ มีโอกาสได้รับหลังจบแมตช์หรือเปิดกล่อง Scavenger เมื่อสวมใส่จะเพิ่มค่าสเตตัสหนึ่งและลดอีกค่าหนึ่งเสมอ สามารถอัพเกรดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของไอเทมได้ โดยใช้แต้มอัพเกรดที่ได้มาจากการย่อยไอเทม
ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องชมสำหรับการกำหนดให้ไอเทมสวมใส่เพิ่มหนึ่งลดหนึ่งเสมอ ทำให้ค่าสเตตัสในเกมไม่ดูโอเวอร์จนเกินไป การติดตั้งไอเทมสวมใส่แต่ละชิ้นจะต้องคิดให้รอบคอบว่าจะเข้ากับสไตล์การเล่นของเราหรือไม่ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างผู้เล่นใหม่กับผู้เล่นระดับสูงได้อีกทางหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีจุดที่มักง่ายอย่างการบีบบังคับให้เติมเงิน ด้วยจำนวนเงินที่ได้รับมาในแต่ละแมตช์นั้นเรียกว่าน้อยจนน่าใจหาย แม้จะมีเควสต์ให้ทำก็ยังถือว่าให้น้อยเกินไป เสมือนเป็นการหลอกล่อให้เติมเงินถ้าอยากได้ไอเทมระดับสูง ซึ่งท้ายที่สุดก็จะไปทำลายสมดุลที่ตัวเกมพยายามสร้างเอาไว้
"For Honor" ถือเป็นเกม Action Multiplayer ที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์ของเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์ที่ต้องการความสมจริงโดยเฉพาะ ด้วยกราฟฟิกที่มีความสวยงามอลังการ อนิเมชั่นการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล เกมเพลย์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ ให้ความรู้สึกราวกับการดวลดาบของจริง มีโหมดเกมและกิจกรรมหลายอย่างให้ทำ แต่น่าเสียดายที่ตัวเกมกลับทำพลาดด้วยเรื่องเล็กน้อย (แต่ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้เล่น) อย่างการใช้ระบบ Peer to Peer และการกดดันให้เติมเงิน มิฉะนั้นอาจมีลุ้นตำแหน่งเกมมัลติเพลเยอร์ยอดเยี่ยมแห่งปีก็เป็นได้
เกมการเล่น | 9 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 8 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 8 |
ความคุ้มค่า | 7 |
ภาพรวม | 8 |
ข้อดี : กราฟฟิกสวยงามอลังการแลดูมีชีวิตชีวา, การเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลส่งผลให้เกมเพลย์มีความสมจริงยิ่งขึ้น, ระบบปรับแต่งตัวละครที่สามารถปรับให้เข้ากับสไตล์การเล่นของตนเองได้
ข้อเสีย : บังคับต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลาไม่ว่าจะเล่นคนเดียวหรือเล่นกับ AI, ระบบออนไลน์ไร้ความเสถียร, การกดดันให้เติมเงินเพื่อหาของเทพ
Review by MeganeSan
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES)
*ขอเรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*