แฟรนไชส์เรซซิ่งซิมูเลชั่นสุดคลาสสิค ที่หายหน้าหายตาไปกว่าทศวรรษ เตรียมคัมแบ็คหวนกลับมาทวงบัลลังก์บนทั้งเครื่องพีซี และคอนโซล
หลังจากทิ้งผลงานเอาไว้ในปี 2006 ในที่สุดสตูดิโอ Simbin Studios ก็กลับคืนสู่วงการเกมแข่งรถอีกครั้ง ด้วยการประกาศเปิดตัว "GTR 3" เกมภาคใหม่ล่าสุดในแฟรนไชส์เรซซิ่งชื่อดัง ที่มีกำหนดออกวางจำหน่ายลงให้เล่นกันแทบทุกแพลตฟอร์ม ทั้งพีซี, เพลย์สเตชัน 4 และเอ็กบ็อกซ์วัน ภายในปี 2018
ตามข้อมูลที่ทีมงานเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ RaceDepartment ระบุว่าผลงานเกมเรซซิ่งลำดับที่สามของซีรีส์ จะประยุกต์นำเทคโนโลยี Unreal Engine 4 มาใช้ในการพัฒนาสร้างสรรค์ภาพกราฟิกที่มีความสวยงามสมจริง ไม่น้อยหน้าบรรดาเกมแข่งรถในยุคปัจจุบัน พร้อมกับเบนเข็มหันมาเน้นเจาะกลุ่มตลาดวงกว้างเอาใจผู้เล่นแคชชวลมากยิ่งขึ้น
"คริส สปีด" (Chris Speed) ซีอีโอนายใหญ่แห่ง Sector3 ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสตูดิโอ Simbin กล่าวถึงการแปรเปลี่ยนทิศทางของซีรีส์ในครั้งนี้ว่า "มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องใส่ใจให้ความสำคัญ แม้ว่ากลุ่มผู้เล่นบนพีซีจะหลงใหลชื่นชอบในความที่มันเป็นซิมูเลชั่นฮาร์ดคอร์ แต่ก็มีผู้เล่นคอนโซลบางกลุ่มไม่ได้คิดแบบเดียวกัน ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ผลิตภัณฑ์ของเรามันจำเป็นต้องดึงดูดผู้เล่นทั้งสองกลุ่ม ทั้งฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ และแคชชวลเกมเมอร์"
"ที่ผ่านมา เกมเรซซิ่งที่ผมเห็นว่าสามารถทำแบบนั้นได้สำเร็จ นั่นก็คือ Formula One ที่มอบความรู้สึกอันน่าทึ่งในฐานะเกมซิมูเลเตอร์บนพีซี ในขณะเดียวกัน มันก็สร้างความสนุกให้กับเหล่าผู้เล่นแคชชวลบนเครื่องคอนโซล และจากการที่พวกเขาทำสิ่งนั้นได้ดี มันไม่ได้หมายความว่าเราจะดำเนินรอยตามพวกเขาในทุกย่างก้าว ที่ผมอยากสื่อคือพวกเขาทำสำเร็จ และเป็นไปได้ ฉะนั้นแล้วทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรา คือการทำให้ไม่มีผู้เล่นฝั่งใดฝั่งหนึ่งถูกหลงลืม" คริส กล่าวทิ้งท้าย
โปรเจกต์เกม "GTR 3" ถูกริเริ่มพัฒนากันมาได้แค่สองสามเดือนเท่านั้น แต่ทีมงานผู้สร้าง กล่าวให้คำมั่นสัญญาว่าผลงานเรซซิ่งในภาคล่าสุดนี้จะยกระดับความสมจริงขึ้นไปอีกขั้น ด้วยระบบหมุนเวียนเวลากลางวัน-กลางคืน ที่สามารถจำลองรายการแข่งขันมาราธอน 24 ชั่วโมงได้เต็มรูปแบบ, ระบบฟิสิกส์, ความเสียหาย และ AI ที่ถูกปรับปรุงใหม่ รวมถึงฟีเจอร์สภาพอากาศแบบไดนามิค ที่ผู้เล่นต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การขับไปตามสภาพดินฟ้าอากาศ อีกทั้งยังนำเสนอฟีเจอร์การเคลื่อนไหวของเม็ดฝนหยดน้ำ ที่สามารถไหลรวมตัวกันเป็นแอ่งน้ำบนพื้นผิวสนาม และยามใดที่รถแข่งแล่นผ่านก็จะเกิดการกระเซ็นแตกกระจายแยกออกจากกัน โดยฟีเจอร์ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ จะถูกใส่มาให้เห็นกันในตัวอย่างเกมเวอร์ชันเล่นได้จริง ที่มีกำหนดแล้วเสร็จในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
engadget
eurogamer
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
