เจสัน รูบิน อดีตผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอ Naughty Dog ออกมายืนยันว่าคิดถูกที่ขายสตูดิโอให้กับโซนี่เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน พร้อมขอบคุณการสนับสนุนจากโซนี่ที่ทำให้มีซีรีส์เกมระดับคุณภาพอย่าง Uncharted และ The Last of Us
ย้อนกลับไปในอดีต สตูดิโอ "Naughty Dog" ประสบความสำเร็จจากเกม "Crash Bandicoot" และ "Jak and Daxter" จากนั้นในปี 2001 "เจสัน รูบิน" และ "แอนดี้ กาวิน" 2 ผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอก็ได้ตัดสินใจขายกิจการให้กับทางโซนี่ ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนั้นก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้สตูดิโอสร้างผลงานเกมระดับคุณภาพอย่างซีรีส์ Uncharted และ The Last of Us
ล่าสุดทางเว็บไซต์ IGN ได้มีการสัมภาษณ์พูดคุยกับ "เจสัน รูบิน" เกี่ยวกับความสำเร็จในปัจจุบันรวมถึงการตัดสินใจขายสตูดิโอ Naughty Dog ให้กับโซนี่เมื่อปี 2001 ซึ่งเจสันก็ย้อนกลับไปนึกถึงความรู้สึกในตอนนั้นว่า เป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายเลย ตัวเขาเองและแอนดี้ กาวินผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอมีความทุกข์กังวลใจเป็นอย่างมาก
เจสัน รูบินย้อนนึกกลับไปตอนตัวเขาเองและ แอนดี้ กาวิน คิดพิจารณาเกี่ยวกับการขายสตูดิโอ ซึ่งในช่วงนั้นเกม Crash Bandicoot ประสบความสำเร็จอย่างมากบนเพลย์สเตชัน จน "เคลลี่ ฟล็อก" ผู้บริหารของโซนี่ในขณะนั้นได้ชวนให้เข้ามาเป็นสตูดิโอในสังกัด
ซึ่งหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันเพิ่มเติมกับทางโซนี่แล้ว เจสัน รูบิน และแอนดี้ กาวิน ก็ตัดสินใจว่าการขายสตูดิโอให้กับโซนี่นั้นเป็นเรื่องที่เหมาะสม พร้อมกับระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างสตูดิโอ Naughty Dog กับโซนี่เป็นไปอย่างดีมีความเข้าใจกันมาก พร้อมกับเปิดเผยว่าการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตที่ขายสตูดิโอให้กับทางโซนี่นั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วเมื่อมองความสำเร็จของสตูดิโอ Naughty Dog ในปัจจุบัน ถ้าหากว่าสตูดิโอยังเป็นสตูดิโออิสระคงไม่สามารถทำเกมระดับคุณภาพอย่าง Uncharted และ The Last of Us ออกมาได้
เจสัน รูบิน ระบุว่าทางโซนี่เข้ามาสนับสนุนสตูดิโออย่างมากในด้านทรัพยากร พร้อมกับบอกว่า ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าเกมระดับคุณภาพหรือเกมที่ประสบความสำเร็จนั้นจะต้องมีเงินทุนจำนวนมากมาสนับสนุน ซึ่งความจริงแล้วเกมที่ดีมีคุณภาพนั้นทำออกมาได้เพราะว่ามีเงินทุนสนับสนุนที่มากกว่า
สำหรับเกม Uncharted 4 ก็ยังคงมีการสนับสนุนเกมอย่างต่อเนื่อง ด้ วยการอัพเดทมัลติเพลเยอร์ และดาวน์โหลดคอนเทนต์แบบสแตนอโลนในชื่อ The Lost Legacy นอกจากนั้นเมื่อไม่นานมานี้ก็มีการประกาศเปิดตัว The Last of Us: Part II
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
ign.com