ค่ายดังแดนปลาดิบ เตรียมปรับลดตัวลงหันมาโฟกัสทำเกมระดับเล็ก ไม่ขอจับแฟรนไชส์ฟอร์มยักษ์อีกต่อไป ภายหลังจากที่เหล่าทีมงานหัวกะทิพากันออกหมดจนไม่เหลือใคร
Gameblog เว็บไซต์เกมในประเทศฝรั่งเศส ออกมารายงานข่าวใหญ่ระบุว่า ปัจจุบันทางบริษัทโคนามิ ได้มีการสั่งยุติแผนการดำเนินงานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับแฟรนไชส์เกมระดับแม่เหล็กที่บริษัทตนเป็นเจ้าของลงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเมตัลเกียร์, ไซเลนท์ฮิลล์, แคสเซิลเวเนีย รวมไปถึงซีรีย์เกมฟอร์มยักษ์ระดับ AAA ทั้งหลายแหล่
โดยสื่อชื่อดังเมืองน้ำหอม ยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกด้วยว่า "จูเลียน เมอร์เซรอน" (Julien Merceron) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีผู้พัฒนาฟ็อกซ์เอนจิ้น ได้ตัดสินใจประกาศขอลาออกจากบริษัทโคนามิเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยเหตุความไม่พอใจในนโยบายใหม่ของโคนามิ ที่ต้องการหันหลังให้ธุรกิจเกมคอนโซลแล้วหันไปเน้นเกมโมบาย
ซึ่งผลจากการปรับใช้นโยบายใหม่ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ทางบริษัทโคนามิ เหลือเพียงสองโปรเจกต์ใหญ่ๆที่ยังคงต้องสานต่ออยู่แค่ "Metal Gear Online" โหมดมัลติเพลย์เยอร์หลักของเกม Metal Gear Solid V: The Phantom Pain ที่เตรียมเปิดให้บริการวันที่ 6 ตุลาคมนี้ กับซีรีย์เกมฟุตบอลที่ฝากผีฝากไข้เอาไว้ได้อย่าง "Pro Evolution Soccer" เท่านั้น
สำหรับเรื่องราวปัญหาภายในบริษัทโคนามินั้น ได้เริ่มปะทุขึ้นมานับตั้งแต่การที่ "ฮิเดโอะ โคจิมะ" (Hideo Kojima) ออกมาประกาศขอแยกทางกับต้นสังกัด หลังเสร็จสิ้นการพัฒนาตัวเกม "Metal Gear Solid V: The Phantom Pain" ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์สายลับสเนคที่ใช้งบประมาณทุนสร้างไปมากกว่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 2.6 พันล้านบาท และด้วยเม็ดเงินลงทุนที่มากขนาดนั้นไปกับเกมๆเดียวอาจเป็นต้นตอที่ก่อให้เกิดความบาดหมางใจระหว่างกันในที่สุด
นอกจากนี้ ทางฝั่งหนังสือพิมพ์นิคเคอิของญี่ปุ่นเอง ก็ยังเคยลงข่าวเรื่องกรณีปัญหาภายในแผนกพัฒนาเกมของบริษัทโคนามิ ไล่ตั้งแต่การปรับลดบทบาทหน้าที่ของเหล่าสต๊าฟทีมงาน การจำกัดการติดต่อสื่อสารกับผู้คนภายนอก ไปจนถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อจับตาดูพนักงานเวลาพักเที่ยง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
engadget
eurogamer
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*