ประเภท อุปกรณ์เล่นเกม
ใช้ได้กับ: PC
ต่อจากคราวก่อน ที่เราได้เคยเอาอุปกรณ์เกมมิ่งพีซีแบรนด์ใหม่อย่าง "เพนตากอนซ์" มานำเสนอกันไปบ้างแล้ว ซึ่งในครั้งนี้เราจะมาดูอุปกรณ์ที่ยังเหลืออีก 2 ตัวจากค่ายมังกรห้าเหลี่ยม ว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันที่ "เพนตากอนซ์ เฮโนดัส" (Pentagonz Henodus) ชุด Combo Set ซื้อหนึ่งได้ถึงสอง ที่บรรจุเมาส์พร้อมคีย์บอร์ดเอาไว้ภายในกล่องเดียว โดยมีสองโทนสีให้เลือกระหว่างขาวกับดำ ทางฝั่งของคีย์บอร์ด ว่ากันตามตรงดูแล้วไม่ต่างจากคีย์บอร์ดราคาถูกทั่วไปที่ไม่ต้องเน้นฟังก์ชันอะไรมากมาย ขอแค่มีปุ่มครบเป็นพอ แม้ในห้องมืดจะจืดสนิทเพราะไร้แสงไฟ LED แต่ก็แอบสวยด้วยการไฮไลท์สีฟ้าสดใสลงบนปุ่ม W A S D และปุ่มทิศทาง ตัวอักษรบนแป้นคีย์จะถูกยิงด้วยเลเซอร์เพื่อกันหลุดลอก พร้อมผิวสัมผัสที่ขรุขระสากมือ ส่วนปุ่มข้างในจะเป็นแบบ Rubber Dome ที่มีเสียงเบาและให้ความรู้สึกนุ่มนวลเวลากด แต่ทว่าสาย USB เชื่อมต่อนั้นเป็นสายพลาสติกธรรมดา และไม่มีตัวยึดป้องกันการกระชาก
ด้านเมาส์ที่มาคู่กันในกล่อง จะเป็นเมาส์ออพติคัลแบบมีสาย USB ซึ่งมีดีไซน์ที่ดูค่อนข้างเล็กกระทัดรัด พร้อมแสงไฟ LED สีฟ้า แถมมีสองปุ่มกดด้านข้าง Forward กับ Backward ที่ถูกใส่เพิ่มเข้ามา จึงทำให้เมาส์ตัวนี้หากนับรวมปุ่มปรับ DPI ด้วยจะมีจำนวนปุ่มทั้งสิ้น 6 ปุ่มด้วยกัน โดยเราสามารถปรับเปลี่ยน DPI ของเมาส์ได้เพียงแค่ 3 ระดับเท่านั้น คือ 600, 1000 และ 1600 ซึ่งถือว่าต่ำมาก แต่ก็เหมือนกับชุดบันเดิลคีย์บอร์ดพ่วงเมาส์ยี่ห้ออื่นๆทั่วไป ที่ประสิทธิภาพมักสู้อุปกรณ์ที่แยกขายเดี่ยวไม่ค่อยได้ และเน้นทำมาเพื่อเจาะกลุ่มตลาดผู้เล่นมือใหม่เสียมากกว่า
ชุดคีย์บอร์ดพ่วงเมาส์ Pentagonz Henodus สนนราคา 950 บาท
มาถึงอุปกรณ์ชิ้นสุดท้าย "เพนตากอนซ์ ไพธอน" (Pentagonz Python) เมาส์แบบมีสายอีกหนึ่งตัวภายใต้แบรนด์เพนตากอนซ์ โดยจุดเด่นของมันอยู่ตรงที่มันเป็นเมาส์เลเซอร์ตัวแรกและตัวเดียวจากค่ายนี้ เพราะที่ผ่านมาเมาส์เพนตากอนซ์ทุกตัวที่นำมารีวิวล้วนเป็นเมาส์ออพติคัลทั้งสิ้น ซึ่งคอเกมที่เปลี่ยนเมาส์บ่อยๆคงรู้ดีว่าเมาส์เลเซอร์ มีความเหนือกว่าเมาส์ออพติคัลในเรื่องความละเอียดแม่นยำของตัวเซนเซอร์ โดยมีค่า DPI ให้ผู้ใช้ได้เลือกปรับ 4 ระดับ ได้แก่ 1000 2000 3000 และค่าสูงสุดที่ยังตันอยู่ที่ 4000 เหมือนเดิม แต่ที่ต่างไปจากเมาส์รุ่นอื่นๆ คือ มีปุ่มปรับระดับ DPI มาให้ถึง 2 ปุ่มเอาไว้ปรับเพิ่ม กับปรับลด ส่งผลให้จำนวนปุ่มทั้งหมดของเมาส์ (นับรวมปุ่ม Fire Power x3 ที่อยู่ติดกับ Scroll Wheel ด้วย) ขยับเพิ่มขึ้นมาเป็น 8 ปุ่ม
แสงไฟ LED ของเมาส์รุ่นนี้ จะถูกแบ่งออกเป็นสองโซน คือ ส่วนท่อนบนของตัวเมาส์ที่จะเน้นแสงไฟสีน้ำเงินแช่นิ่งเป็นหลัก กับส่วนท่อนล่างตรงรูปโลโก้ กับร่องซี่ๆด้านข้างคล้ายเหงือกปลา ที่จะแสดงแสงไฟ LED แบบ Breathing หมุนวนสลับสีไปมาระหว่าง แดง เขียว น้ำเงิน เหลือง ม่วง ฟ้า และ ขาว ดูแล้วสวยงามยิ่งนัก (หากมองข้ามเรื่องความโปร่งแสงของรูปโลโก้ที่ใสซะจนมองเห็นหลอดไฟ LED ที่อยู่ข้างใน) สำหรับสาย USB ที่ใช้เชื่อมต่อกับพีซีนั้น จะเป็นสายถักไนลอนความยาวประมาณ 1.8 เมตร แต่ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า ที่รู้สึกเหมือนว่าสายมันจะหนาและแข็งไปหน่อย ทำให้การขยับเคลื่อนไหวไม่คล่องตัวเท่าที่ควร ส่วนบอดี้ของเมาส์จะเป็นพลาสติกผิวมัน และมีสองสีให้เลือกทั้งขาวและดำ
เมาส์ Pentagonz Python สนนราคา 1,450 บาท
จบไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการรีวิวอุปกรณ์เกมมิ่งยี่ห้อน้องใหม่สไตล์คนไทย ซึ่งหากถามความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ถ้าให้เลือกหยิบอุปกรณ์ที่ดีที่สุดจากแบรนด์เพนตากอนซ์ คงต้องสอย "หูฟัง 7.1 ไลไคออส" กับ "คีย์บอร์ดแมคคานิคอล โบว์เฮด" มาไว้ในครอบครองอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับสไตล์ความชอบของแต่ละบุคคล
Review: Pentagonz Gaming Gear (ชุด 1)
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Smart ID Group Ltd. สนใจข้อมูลผลิตภัณฑ์ คลิกเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Pentagonz.com
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*