Review: Assassin's Creed Unity มนต์รักนักฆ่า ผ่ามิติเวลา

ระบบ PC, XboxOne, PS4
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

หนึ่งในเกมมือสังหารภาคที่มีคนกล่าวขานด้านลบมากที่สุด จากความลุกลี้ลุกลนของทีมผู้สร้างที่หวังปั่นงานออกมาขายให้ทันกำหนด โดยไม่คำนึงถึงคอเกมที่ต้องมาสัมผัสกับมหากาพย์ตำนานเกมบัคเยอะที่สุดแห่งปี

หลังจากที่เคยนำเสนอแต่ประวัติศาสตร์ของดินแดนต่างถิ่นมาหลายต่อหลายภาค ในที่สุดแฟรนไชส์แอสซาซินครีด ก็ได้เดินทางกลับมาสู่บ้านเกิดของตนด้วยการย้อนรำลึกประวัติศาสตร์ชาติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของค่ายยูบิซอฟต์เอง และนี่อาจจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความประมาทเลินเล่อในคราวนี้ เพราะอย่างที่รู้ๆกันอยู่มนุษย์เรานั้นมักจะผิดพลาดอะไรง่ายๆกับเรื่องที่เราคิดว่าเชี่ยวชาญและรู้ดีที่สุดแล้ว ดั่งคำสุภาษิตโบราณที่ว่า "หมองูตายเพราะงู"

ก่อนจะเล่าไปถึงช่วงเวลาอันน่าหงุดหงิด เรามาเริ่มที่เนื้อเรื่องในเกมภาคใหม่นี้กันก่อน ซึ่งบอกเล่าเหตุการณ์ในช่วงกลียุคสมัยปฏิวัติฝรั่งเศสปีค.ศ. 1789 และการเดินทางของ "อาร์โน วิคตอร์ ดอเรียน" หนุ่มกำพร้าลูกครึ่งเชื้อสายฝรั่งเศส-ออสเตรีย ผู้สูญเสียบิดาไปตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ แต่โชคดีที่มีขุนนางใจดีอาสาอุปการะเลี้ยงดูควบคู่ไปพร้อมกับลูกสาว "เอลิส" จนเติบใหญ่สนิทสนมกันเชิงชู้สาว แต่ทว่าเหมือนชะตาเล่นตลก เมื่ออาร์โนถูกกล่าวหาลอบสังหารผู้มีพระคุณ และต้องตัดสินใจเข้าร่วมภราดรนักฆ่าเจริญตามรอยเท้าของพ่อ เพื่อสืบหาคนบงการผู้อยู่เบื้องหลัง พร้อมเคลียร์ปัญหากับหวานใจที่อยู่ฝ่ายปรปักษ์เทมพลาร์

เปิดฉากแรกขึ้นมา เชื่อว่าแฟนๆหลายคนต้องตื่นตาตื่นใจไปกับความสวยงามของภาพกราฟิก ที่ดูเหมือนในภาคนี้ทางทีมงานจะใส่ใจมากและเน้นหนักเป็นพิเศษ ทั้งฉากกรุงปารีสอันกว้างขวางอลังการ ประชาชนนับร้อยที่อัดแน่นเบียดเสียด ผมตัวละครที่ดูมันเงาพริ้วสลวย รายละเอียดพื้นผิวของเสื้อผ้าที่แค่มองก็รู้ทันทีว่าทำจากหนังหรือเป็นผ้ากำมะหยี่ และแสงเงาที่สวยสมจริงแลดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลดีจากการที่ทีมพัฒนาไม่จำเป็นต้องมานั่งกั๊กกราฟิกเหมือนภาคก่อนที่ใจดีพอร์ตลงให้เครื่องคอนโซลตกยุคด้วย แต่ภาพสวยมันก็มาพร้อมกับความโชคร้ายของชาวพีซีที่ต้องมาเจอกับสเปคขั้นต่ำที่ใครเห็นเป็นต้องเหงื่อตก

แม้จะเป็นเกมเจเนอเรชันใหม่แบบเต็มตัว แต่รูปแบบการเล่นทุกอย่างยังคงเดิม โดยที่เราจะได้ออกท่องสำรวจโลกกว้างในกรุงปารีสและบริเวณใกล้เคียง รับทำเควสต์หลัก-เควสต์รอง แสดงกายกรรมปีนป่ายไต่ตึกไต่หอคอยเพื่อเผยฉากบนแผนที่ ซึ่งในส่วนของแอ็คชั่นการเคลื่อนไหวของตัวละครในภาคนี้ได้มีการเสริมลูกเล่นใหม่เข้ามาที่เรียกว่า "ปากัวร์" โดยลีลาฟรีรันนิ่งสไตล์ฝรั่งเศสนี้ช่วยให้การปีนป่ายขึ้นลงดูต่อเนื่องพริ้วไหว (แต่ก็ยังมีติดขัดอยู่บ้าง) นอกจากนี้ยังมีแอ็คชั่นใหม่เสริมเข้ามาอย่าง การสไลด์ตัวลอดใต้สิ่งกีดขวาง หรือการวิ่งทะลุหน้าต่างเข้าไปในตัวตึก ที่เป็นเหตุให้ตัวเกมภาคนี้ใส่ภารกิจที่ต้องทำภายในอาคารมาซะเยอะ

ระบบการต่อสู้เวลาปะทะกับศัตรู ในภาคนี้ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆเยอะพอสมควร ไล่ตั้งแต่การปัดดาบโต้กลับการโจมตีที่บังคับให้กดภายในช่วงเวลาที่เกจพลังชีวิตเหนือหัวศัตรูส่องสว่างเป็นสีทองเท่านั้น ส่วนสกิลเก่าๆอย่างจับศัตรูมาเป็นโล่ห์กันกระสุน กับระบบคิลต่อเนื่องในดาบเดียวกลับหายไป โดยสิ่งที่มาแทนคือการกดโจมตีค้างที่สามารถสังหารศัตรูที่ใกล้ตายเลือดกระพริบได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แถมไม่ใช่เราคนเดียวที่ทำได้ หากประมาทปล่อยให้พลังชีวิตเหลือน้อยศัตรูก็มีโอกาสปลิดชีพเราในดาบเดียวได้เหมือนกัน นอกจากนี้หลังสู้เสร็จพลังชีวิตของเราจะไม่มีการฟื้นคืนอัตโนมัติเหมือนภาคก่อนๆอีกต่อไป และจำเป็นต้องพึ่งยาฟื้นพลังที่หาเก็บได้จากศพศัตรู

มาพูดถึงเรื่องเควสต์กันบ้าง ภารกิจรองในเกมนั้นมีให้เลือกทำหลากหลายทั้งสังหารเป้าหมาย ลักเล็กขโมยน้อยตามประสา แต่ที่น่าขัดใจคือเควสต์ไขคดีฆาตกรรมปริศนา ที่นักฆ่าอย่างเราต้องมารับงานจากตำรวจ ออกไปพูดคุยหาพยานหลักฐานมาชี้ตัวคนร้ายที่สุดแสนจะน่าเบื่อ รวมไปถึงเควสต์แกะคำใบ้ของนอสตราดามุส ที่ให้เรามองหาสัญลักษณ์ที่ซ่อนกระจายอยู่ทั่วกรุงปารีส ซึ่งไม่ต่างอะไรไปจากการงมเข็มในมหาสมุทร หรือว่าจะเป็นเควสต์ไร้แก่นสารอย่างพอร์ทัลทะลุมิติ ที่เราอุตส่าห์ข้ามเวลามาเพียงเพื่อวิ่งๆไต่ๆยิงนาซีให้ผ่านพ้นไปเท่านั้น

ส่วนเควสต์ที่ฟังเข้าท่าดูเข้าทางมากที่สุดในเกม เห็นจะเป็นโหมด Co-op ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของซีรีส์แอสซาซินครีดที่ผู้เล่นจะสามารถชวนเพื่อนมาตะลุยออกทำภารกิจไปพร้อมกันถึง 4 คน ซึ่งช่วยให้ภารกิจที่ค่อนข้างยากหากเล่นคนเดียวกลายเป็นเรื่องง่ายดาย (ถ้ามีคนเก่งอยู่ในทีม) โดยเท่าที่เล่นมาดูเหมือนทุกคนจะเลือกวิธีบุกหาเป้าหมายกันตรงๆแบบไม่ต้องเสียเวลามานั่งคิดวางแผนหรือหลบซ่อนใดๆ เพราะด้วยระบบเกมอันเอื้ออำนวยที่ปล่อยอิสระเสรี ไม่มีการลงโทษผู้เล่นหากถูกตรวจจับได้ หรือระบบรีสปอว์นที่หากใครในทีมตายไปก็สามารถเกิดใหม่มาเล่นต่อได้ทันที

เมื่อมีการใส่ระบบมัลติเพลย์ช่วยกันเล่นเข้ามาในเกม หากให้ผู้เล่นทั้ง 4 คนใส่ชุดดั้งเดิมของอาร์โนเหมือนกันหมดคงดูน่าเกลียดและแยกกันไม่ออก ทางยูบิซอฟต์ จึงนำเสนอฟีเจอร์ใหม่อย่างระบบ Character Customization ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถปรับแต่งตัวละครมือสังหารได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่สามารถเลือกเปลี่ยนโทนสีสัน ไปจนถึงอาวุธสังหารที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้ตามสไตล์ที่ตนถนัด อยากจะถือดาบ หอก ขวาน หรือใช้ปืนไรเฟิลไล่ยิงอย่างเดียวก็ยังได้ ซึ่งไม่น่าแปลกใจนักที่ปืนไรเฟิลจะเป็นอาวุธยอดฮิตที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน เนื่องจากภาคก่อนๆไม่เคยมี

สำหรับปัญหาบัคที่หลายคนประสบพบเจออย่างใบหน้าตัวละครหาย หรือตัวละครร่วงหล่นหายไปในฉาก แม้ปัจจุบันทางยูบิซอฟต์จะออกแพทช์มาแก้ไขไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังหลงเหลือบัคจำนวนไม่น้อยที่หลุดรอดสายตาไปอย่างระเบียงล่องหนที่ทำให้ตัวเราเกาะอยู่กลางอากาศ หรือพื้นที่บางจุดที่เมื่อปีนขึ้นไปแล้วจะค้างติดแหง็กอยู่ตรงนั้น ซึ่งกับแพทช์อัพเดทใหม่ล่าสุดขนาดไฟล์ใหญ่ยักษ์ 6.7 กิ๊กนี้ ก็ยังคงเป็นคำถามว่าจะสามารถแก้ปัญหาบัคในเกมให้หมดไปได้หรือเปล่า?

"แอสซาซินครีด ยูนิตี้" น่าเศร้าที่มีจุดตำหนิเยอะจนกลบข้อดีไปหมด จากการที่ทีมงานพยายามยัดเยียดสิ่งไร้สาระที่ไม่จำเป็นต่อการเล่นเข้ามาในเกม ทั้งการเปิดกล่องสีน้ำเงินที่บังคับให้เราต้องเปิดแอพฯบนมือถือไปพร้อมกันในระหว่างการเล่น แถมยังเสี่ยงต่อการเซฟหาย ส่วนกล่องสีเหลืองที่เอาไว้ปลดล็อคชุดตัวละคร เราก็ต้องไปอัพเลเวลโปรไฟล์ผ่านหน้าเว็บไซต์ แต่จนถึงป่านนี้ภารกิจประจำวันที่ได้รับ XP เหนาะๆก็ยังไม่ยอมเปิดให้บริการ จนบีบให้คนที่อยากได้ XP ต้องจ่ายเงินซื้อแผ่นเกมแอสซาซินครีดภาคก่อนๆมาเล่นสถานเดียว ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ขายของเก่าที่ดูไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่นัก และชวนน่าโมโหเป็นอย่างยิ่ง

เกมการเล่น	7
กราฟิก	9
เสียง	8
ความคิดสร้างสรรค์	7
ภาพรวม	7.5

ข้อดี : กราฟิกเหนือชั้นกว่าภาคที่แล้วมาก, ฝูงชนเนืองแน่น, ฟีเจอร์ปรับแต่งตัวละคร และภารกิจ Co-op ที่สนุก
ข้อเสีย : กินสเปคเครื่อง, บัคนับร้อย, ปัญหาภาพกระตุก, คดีปริศนาแสนน่าเบื่อ, เควสต์ข้ามเวลาไร้สาระ และมีระบบเก็บตังค์ผู้เล่น

ปู่ชิน
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท นิวอีร่า อินเตอร์แอคทีฟ มีเดีย จำกัดNew Era Games